May 19, 2024   2:35:08 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ฟันธง
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 20/06/2007 @ 11:02:33
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่มา : วีระชัย ครองสามสี
หัวคอลัมน์ : แรงซื้อฝรั่งยังไม่ Peak เน้นสะสมหุ้นน้ำมัน และหลักทรัพย์
ตลาดหุ้นไทยยังคงแสดงถึงความเขี้ยวออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่วานนี้ SET Index มีการปรับฐานลงมาแบบจิ๊บๆ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่กล้าเสี่ยง Take Profit ออกมาในภาวะที่ตลาดขึ้นไปขี้หลังกระทิงเต็มตัวแล้วอย่างนี้ ซึ่งก็ถือว่าไม่ใช้เรื่องแปลกเนื่องจากการตัดสินใจลงจากหลังกระทิงขายหุ้นออกมาในช่วงนี้มีโอกาสขายหมู(โดนกระทิงขวิด)สูงจริงๆ เพราะหลังจากเมฆหมอกทางการเมืองที่ปรกคลุมตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาเริ่มจางลง เนื่องจากถ้าพูดกันตามตรงสถานการณ์ทางการเมืองในตอนนี้น่าจะเลยจุด Climax มาแล้ว เนื่องจากเท่าที่สังเกตจากสถานการณ์ของกลุ่มที่ขัดแย้งกันอยู่ดูแล้วต่างฝ่ายต่างน่าจะประเมินกันแล้วว่าถ้าเล่นบทโหดเข้าฟัดกันแบบเต็มเหนี่ยวมีหวังได้ไม่คุ้มเสียเลือดอาบทั้งคู่แน่ ! ซึ่งเมื่อหมอกควันของความรุนแรงเริ่มจางลงภาพของเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นไทยก็เริ่มชัดเจนขึ้น โดยล่าสุดผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย ที่จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) พบว่านักลงทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ และสหรัฐยังมีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศไทยค่อนข้างมาก โดย 43% ยังคงจะรักษาระดับธุรกิจที่ดำเนินกิจการในประเทศไทยเท่ากับปัจจุบัน และ 35% จะขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น และมีนักลงทุนเพียง 4% ที่อาจจะลดขนาดธุรกิจ ส่วนการประเมินขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยเทียบกับประเทศคู่แข่งสำคัญอย่าง จีน อินเดีย เวียดนาม และมาเลเซีย นั้นส่วนใหญ่ยังมองว่าการลงทุนในไทยมีความได้เปรียบมากกว่าเพื่อนๆ และเมื่อบวกกับล่าสุดเมื่อวานนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ผ่านงบประมาณประจำปี 2551 เรียบร้อยแล้ว ทำให้ช่วงนี้ถ้าสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ไม่ต้องแปลกใจที่ตลาดหุ้นไทยจะยังเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนต่างชาติไปอีกระยะหนึ่ง และเมื่อหันมาพิจารณาในทางเทคนิคในส่วนของ Accumulation Foreign Fund Flow แล้วยิ่งอุ่นใจเนื่องจากเมื่อเทียบยอดซื้อสุทธิของฝรั่งในปีนี้ที่ตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ประมาณ 87,892 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2549 ที่ผ่านมา Peak สุดอยู่แถวๆ 120,000 ล้านบาท ทำให้การที่หลายคนกังวลว่าตอนนี้ฝรั่งซื้อเยอะเกินไปแล้วหรือเปล่าบอกได้คำเดียวยังมีก๊อก 2 ครับเจ้านาย ทำให้กลยุทธ์ช่วงนี้ถ้าตลาดมีการปรับฐานลงมาบ้างถ้าไม่หลุด Safety Area แถวๆ 653-650 จุดยังน่าซื้อมากกว่าขายครับผม ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ที่ได้แนะนำไปเมื่อวานไม่ว่าจะเป็น ASP, BSEC หรือ BLS เนื่องจากการที่ Volume การซื้อขายเฉลี่ยในช่วงที่ผ่านมายังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มองมุมไหนผลประกอบการของบริษัทหลักทรัพย์ในไตรมาสที่ 2 ก็น่าจะจ๊าบกว่าไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ดี นอกจากนี้หุ้นกลุ่มน้ำมันที่หลายคนกังวลว่าขึ้นมาค่อนข้างเยอะแล้ว แต่พูดตรงๆฟันธงกันตรงนี้เลยว่าในตลาดที่เป็น Bull อย่างนี้ หุ้นที่ขึ้นมาเยอะแล้วก็ขึ้นแล้วขึ้นอีกได้จ๊ะ เนื่องจากถ้าเราฟันธงว่าตลาดจะไปต่อลูกพี่ใหญ่อย่างกลุ่มน้ำมันจะไม่ช่วยดันก้นได้อย่างไงล่ะครับ โดยเฉพาะช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับนักลงทุนที่ใจเย็นบอกได้คำเดียวว่าน่าซื้อๆๆ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาความวิตกเกี่ยวกับการจัดหาน้ำมันที่ตึงตัวในสหรัฐและความวุ่นวายในไนจีเรียจะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากจนทำ New High ไปเรียบร้อย แต่จากการที่บริษัท วาเลโรอิเนอร์จี้ ผู้ประกอบการโรงกลั่นรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯเปิดเผยวานนี้ว่า บริษัทได้ปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นแมคคีในเท็กซัสฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้การกลั่นน้ำมันหายไป 100,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งการซ่อมบำรุงโรงกลั่นดังกล่าวน่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้เมื่อพิจารณาแล้วในช่วงเวลาดังกล่าวน่าจะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกน่าจะยังคงอยู่ในระดับนี้ไปได้อีกระยะหนึ่ง โดยหุ้นในกลุ่มน้ำมันในดวงใจช่วงนี้ยังไงก็ต้อง RRC มีแนวรับ 18.80 บาท แนวต้าน 19.50/20.00 บาท TOP มีแนวรับ 69.50 บาท แนวต้าน 72.00/73.00 บาท ขณะที่หุ้นเด่นทางเทคนิคสำหรับมือเก็งกำไรพันธ์แท้วันนี้นำเสนอ UEC มีแนวรับ 18.70 บาท แนวต้าน 19.40/19.70 บาท และมีจุดถอยบริเวณ 18.40 บาท SIRI มีแนวรับ 3.10 บาท แนวต้าน 3.30/3.40 บาท และมีจุดถอยบริเวณ 3.04 บาท และ PE มีแนวรับ 1.56 บาท แนวต้าน 1.72/1.88 บาท และมีจุดถอยบริเวณ 1.52 บาท สอบถามข้อมูลการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ weerachai.k@fes.co.th[/size:8a180526f7">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com