May 19, 2024   3:03:53 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 20/06/2007 @ 09:12:18
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.เอเซียพลัส :

Impact Inside
ภาพวันวาน
ดัชนีกลับมาผันผวนอีกครั้ง หลังดัชนีเข้าใกล้แนวต้าน 770 จุด บวกกับความเสี่ยงปัจจัย
ทางการเมืองที่ยังอยู่ ส่งผลให้ดัชนีแกว่งระหว่าง 769.43-763.78 จุด โดยปิดตลาดดัชนีติดลบ
2.42 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงกลับมาระดับปกติที่ 1.68 หมื่นล้านบาทอีกครั้ง โดยเป็นการ
ปรับลดของหุ้นใหญ่ เช่น PTT, BANPU, SCC และ PTTCH เป็นต้น แต่ต่างชาติยังซื้อสุทธิ
วานนี้ 1.7 พันล้านบาท รวมซื้อสุทธิจากต้นปี-ปัจจุบันมากถึง 9 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะทะลุ
1 แสนล้านบาทใน 3Q50 จากกระแส Fund Flow

ประเด็นร้อนวันนี้
ปัจจัยการเมืองจะกดดันดัชนีให้ผันผวนระหว่าง 740-775 จุด
คดีฟ้องร้องอดีตนายกฯ และครอบครัว ยังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจของตลาด และ
คาดว่ายังส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาด โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น SC วานนี้ DSI ได้แจ้ง
ความดำเนินคดีกับอดีตนายกฯ และครอบครัว ในข้อหาแสดงรายการโครงสร้างผู้ถือหุ้นในแบบชี้
ชวน ไม่ถูกต้อง ข้อกล่าวหาอ้างว่า ?โครงสร้างการถือหุ้นที่แจ้งกับทางตลาดฯ นั้นรายงานเฉพาะ
ส่วนที่ครอบครัวฯ ถือหุ้นโดยทางตรง 68% มิได้รายงานการถือหุ้นทางอ้อมผ่านกองทุนต่างชาติ
อีก 2 กอง? ซึ่งหากรวมจะมีผลทำให้อดีตนายกฯ และครอบครัว ถือหุ้นเกินกว่า 70% ซึ่งคาดว่า
ข่าวนี้จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปกับหุ้นของอดีตนายกฯ คือ SHIN, ADVANC, SATTEL ระยะ
สั้นแนะให้หลีกเลี่ยง จึงคาดว่าดัชนีจะผันผวนในกรอบแนวรับ 755 จุด แล แนวต้าน 770 จุด

หุ้นน้ำมันอ่อนตัวแนะนำให้สะสม
แม้ราคาน้ำมันจะเริ่มยืนในช่วงสั้น แต่เชื่อว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีทิศทางปรับตัว
ขึ้นได้ต่อเนื่อง จากปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ระยะสั้นแนะนำซื้อสะสมเมื่อราคาหุ้น
อ่อนตัว เช่น PTT แนวรับ 258 บาท (FV 274 บาท) และ PTTEP แนวรับ 105 บาท (FV 112
บาท) และ TOP แนวรับ 70 บาท (FV 72.84 บาท)

ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัว
ภายใต้สถานการณ์การเมืองที่ยังสับสน แต่จากปัจจัยบวกทางด้านดอกเบี้ยในประเทศที่
เป็นขาลง หนุนให้ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค. 2550 ปรับตัวดีขึ้น มาอยู่ที่
ระดับ 86.1 จุด ปรับเพิ่ม 77.0 จุด ในเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ ที่ฟื้นตัวดังกล่าวยังต่ำ
กว่าระดับ 86.8 จุดในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี 2550 และแนวโน้ม อัตราดอกเบี้ยที่
เป็นขาลงน่าจะสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในครึ่งหลังของปีนี้ให้ดีขึ้น แนะนำซื่อสะสมหุ้น
HMPRO เป็นต้น

Investor?s Plus
ภาพตลาดใน 1 สัปดาห์ โดยมีแนวรับ 740 จุด แนวต้าน 775 จุด
ตลาดในวันนี้ คาดดัชนีแกว่งตัวด้านข้างเชิงลบ จากความกังวลทางการเมือง แต่จะได้
แรงหนุนจากหุ้นพลังงาน ทำให้การอ่อนตัวไม่รุนแรง ดัชนีมีแนวรับ 755 จุด แนวต้าน 770 จุด
กลยุทธ์วันนี้ แนะนำการหาจังหวะเข้าซื้อสะสมในหุ้นรายตัวเมื่อเข้าสู่แนวรับ PTT
(258/270), PTTEP(108/112), EGCO(104/108), RATCH(45.5/48), AOT(59/62),
BH(47/49), BGH(43/44.5), MCOT(33/35)

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 20/06/2007 @ 09:15:11 :
บล.ฟิลลิป :


กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรรอบสั้น
แนวโน้มตลาดวันนี้ : คงความผันผวนเพื่อรอปัจจัยใหม่
แรงซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติยังมีต่อเนื่องอีกกว่า 1.78 พันล้านบาทวานนี้ หากแต่
ตลาดยังคงความผันผวนแต่ไม่สามารถขยับไปไหนได้ไกล สะท้อนความกังวลที่ยังมีต่อ
สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ในช่วงนี้ตลาดอยู่ในภาวะขาดปัจจัยใหม่เข้ามาชี้นำ
การเทรดดิ้งหุ้นยังคงดำเนินต่อไปได้ในลักษณะการเก็งกำไรรอบสั้นเป็นรอบๆและยังคงเน้นการ
เทรดหุ้นที่มีพื้นฐานดีรองรับด้วยเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
แนวต้าน 770-775 แนวรับ 760-755

ปัจจัยเด่นวันนี้
+ ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันอังคาร โดย
ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดของวันมาปิดบวก 0.01 ดอลลาร์ ขณะที่สหภาพคนงานในไนจีเรียเตรียม
ผละงานประท้วงในวันพุธตามแผนที่วางไว้
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 22.44 จุดในวันอังคาร ขณะที่การลดลง
ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้คลายความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและหนุนหุ้น
กลุ่มการเงิน
+ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 86.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.
ย.อยู่ที่ระดับ 77 โดยมีปัจจัยบวกด้านยอดขายและยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
- ดีเอสไอสรุปผลสอบคดี นอมินี หุ้นเอสซีแอสเสท ออกหมายเรียก ทักษิณ-
พจมาน เป็นผู้ต้องหาคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น สั่งแจงแก้ข้อหา 26-29 มิ.ย. นี้ ถ้าจงใจหลีก
เลี่ยงเล็งออกหมายจับ
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า จำนวนการผลิตรถยนต์เดือนพ.ค. มีจำนวน 111,585 คันเพิ่มขึ้น
3.24% เป็นการผลิตเพื่อการส่งออก 56,932 คันและผลิตเพื่อขายในประเทศ 54,653 คัน ส่วน
ยอดผลิตรถยนต์ 5 เดือนแรกปีนี้มีจำนวน 488,200 คันลดลง 1.9% เป็นการผลิตเพื่อส่งออก
251,924 คันเพิ่มขึ้น 12.68% และผลิตเพื่อขายในประเทศ 236,276 คันลดลง 13.8%
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 20/06/2007 @ 09:19:47 :
บล.นครหลวงไทย :

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
SCIBS มีความเห็นเป็น Neutral ต่อการลงทุนในวันนี้ เพราะขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามา
หนุนนำตลาดในระยะสั้นนี้ SCIBS คาดว่าโอกาสที่จะเกิดแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาต่อ
เนื่องจากวานนี้ยังคงมีอยู่ และหากพิจารณาประกอบกับตลาด Future จะพบว่านักลงทุนต่างชาติ
Net Long Position ติดต่อกันเป็นวันที่4 แต่ด้วยปริมาณสัญญาที่ลดลงเหลือเพียง 71 สัญญา
สะท้อนถึงทิศทางตลาดที่คาดว่าจะแกว่งตัวในช่วงแคบ กอปรกับประเด็นของกรมสอบสวนคดี
พิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงสรุปสำนวนคดีการปกปิดข้อมูลการถือหุ้นใน SC ของอดีตนายกฯ และ
ครอบครัว อาจะเป็นประเด็นให้การชุมนุมยืดเยื้อออกไปได้อีก ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ มีลักษณะ
คล้ายวานนี้ ทั้งดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวอยู่ในช่วงแคบ ขณะที่ราคาน้ำมันขึ้นไปใกล้ระดับ
70US$/Barrel สูงสุดในรอบ 10 เดือน
ดังนั้น SCIBS คาดว่าระดับดัชนีในวันนี้จะทดสอบ 750-757 จุด กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
SCIBS แนะนำให้มีการขายทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่แนะนำซื้อเก็งกำไรก่อนหน้า โดยรอซื้อ
กลับที่ 720-725 จุด สำหรับการลงทุนระยะยาวนั้น แนะนำหุ้นซื้อหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงิน
ปันผลสูงเมื่อราคาลดลงมามาก เช่นSPALI (4.4%), HEMRAJ (3.9%), CCET (3.4%) เป็น
ต้น รวมถึงหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการฟื้นตัวใน 2H/50 เช่น
KBANK,BBL, KTB, AP เป็นต้น

ประเด็นสำคัญวันนี้
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. กำหนดกิจการหลักเกณฑ์และขั้นตอนการแปรรูปรัฐ
วิสาหกิจ พร้อมระบุชัดไม่แปรรูปกิจการผูกขาดอย่างไฟฟ้า-ประปา-ยาสูบ ส่วนรัฐวิสาหกิจอื่นจะ
แปรรูปอย่างโปร่งใส
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.
ค. 2550 เริ่มดีขึ้นอยู่ที่ 86.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนเม.ย. 2550 ที่ 77โดยมีคำสั่งซื้อและยอดขายทั้ง
ในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยลดลง แต่ผู้ประกอบการยังคงหวั่นปัญหา
การเมืองจะเป็นอุปสรรคความเชื่อมั่นการบริโภคและการลงทุน
ธปท. รายงานตัวเลขผลกำไรขาดทุนในปี 2549 ธปท. ขาดทุนสุทธิ 102,287.11 ล้าน
บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่ขาดทุนสุทธิ 100,544.39 ล้านบาท ทั้งนี้สาเหตุหลักมาจากการขาด
ทุนอัตราแลกเปลี่ยน 99,727.45 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การขาดทุนสุทธิดังกล่าวต่ำกว่าที่ ธปท.
เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.พ.2550 ว่า จะขาดทุนเบื้องต้น 174,000 ล้านบาท

ปัจจัยด้านอุตสาหกรรม
กลุ่มยานยนต์ ประเด็นข่าว : ยอดผลิตรถยนต์ลดลง 1.9% ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 12.7%
ใน 5 เดือนแรก
ความเห็นและคำแนะนำ : สภาอุตสาหกรรมยานยนต์แถลงตัวเลขการผลิตและส่งออกใน 5
เดือนแรก ปรากฏว่ามียอดผลิต488,200 คัน ลดลง 1.9% yoy แต่มียอดส่งออก 251,924 คัน
เพิ่มขึ้น 12.7% โดย Product Champion รถกระบะ 1 ตันมียอดผลิตเพื่อการส่งออก
196,446 คัน เพิ่มขึ้นถึง 13.5% yoy จากตัวเลขการเติบโตและสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็น 51% ของ
การผลิตทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าบริษัทชิ้นส่วนฯที่อิงกับลูกค้าที่เติบโตสูงในการส่งออกจะยังคงได้
รับประโยชน์จากยอดส่งออกดังกล่าวSCIBS จึงคงคำแนะนำ ?ซื้อ? SAT ราคาเหมาะสม 15.88
บาท/หุ้น และ ?ซื้อ? IHL ราคาเหมาะสม 33.00 บาท/หุ้น

หุ้นเด่น...ประจำวัน
SATความคืบหน้าของการซื้อโรงเหล็กหล่อ 200 ล้านบาท ที่ SCIBS คาดจะว่าได้รับอนุมัติ
จากบอร์ดและผู้ถือหุ้น เนื่องจาก SAT จะได้ประโยชน์จากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น 1-2% โดยจะ
เริ่มเห็นผลใน Q3/50 และชัดเจนในปี 2551 และยังนำไปสู่ก้าวสำคัญในการเจรจาผลิต
Module ให้ลูกค้าญี่ปุ่น ซึ่งจะสามารถเพิ่มรายได้เพิ่มขึ้นอีก 24% เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน

DERIVATIVE MARKET Hold Short Position
ปัจจัยที่มีอิทธิพล :
การเมืองเริ่มไม่นิ่ง กดดันตลาดครั้งใหม่
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือ Short ใน S50U07 และทำกำไรระยะสั้นบางส่วนเมื่อ
S50U07 ลดลงมาใกล้ระดับ 535-537 จุด
กรอบการเคลื่อนไหว SET50 เคลื่อนไหวในกรอบ 535-545
S50M07 ระหว่าง 537-547 (จะหมดอายุเดือนนี้)
S50U07 ระหว่าง 535-545
? Turning point : ถ้า S50U07 และ S50M07 > 546 ปิด Short

TECHNICAL UPDATE Sideway-Down (757-768)
? SCIBS คาดว่าดัชนีตลาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 757-768 จุด
? สัญญาณทางเทคนิคฯเมื่อวานนี้เกิดรูปแบบการปรับขึ้นเริ่มชะลอตัว(หลังจากปรับขึ้นแบบ
V-shape) คาดว่าตลาดจะไม่ผ่าน 770 จุดได้อย่างมั่นคงและมีแนวโน้มปรับตัวลงในระยะ 1-3
วันข้างหน้าได้ ภาวะoverbought ระยะสั้นยังคงแสดงอยู่ จึงคาดว่าหลังจากมีการดีดตัวใน
ลักษณะ V shape เมื่อวันก่อนดัชนีตลาดจะเริ่มปรับฐาน
? SCIBS แนะนำ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เช่น SIAM / AOT / PE ส่วนระยาวยังให้เป็น ถือ
เงินสด รอแนวรับจิตวิทยาที่ 710-715 จุดเป็นจุด สร้างรูปแบบฐานใหม่ เนื่องจากไม่พบรูปแบบ
ขาขึ้นระยะยาว

ข้อมูลที่น่าสนใจ
ตลาดต่างประเทศ
? ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 22.44จุด ปิดที่ระดับ
13,635.42 จุด หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีของสหรัฐปรับตัวลดลง ซึ่งช่วย
ให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

ราคาน้ำมัน
? ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาด Nymex เพิ่มขึ้น 0.01% ปิดที่ระดับ US$ 69.10/BBL นัก
ลงทุนกังวลกับสถานการณ์ในไนจีเรียหลังจากสหภาพแรงงานหลายแห่งในไนจีเรียไม่สนใจต่อ
ความพยายามของรัฐบาลที่จะลดราคาเชื้อเพลิงรถยนต์ลงครึ่งหนึ่งตามคำเรียกร้อง ด้านค่าการ
กลั่นปิดที่ US$7.69/bbl ลดลงจากUS$8.37/bbl

Commodity
? ตลาดทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาทองคำปิดที่ $664.7/ออนซ์ราคาสังกะสีปิดที่
$3,620 / ตัน กับมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดที่ 5,310 จุด

ค่าเงิน
? ค่าเงินบาทตลาด Onshore ปิดที่ระดับ 34.59 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินบาทใน
ตลาด Offshore ปิดที่ระดับ 32.28บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า หลัง
จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภท 10 ปีปรับตัวลด
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 20/06/2007 @ 09:22:29 :
บล.กิมเอ็ง :


แนวโน้มตลาด
เราคาดว่าตลาดน่าจะเข้าไปทดสอบระดับที่สูงขึ้นช่วง 770-775 จุดในวันนี้ หลังจากที่ได้ปรับ
ตัวลงเล็กน้อยตามคาดจากการขายทำกำไรเมื่อวาน แต่จะเห็นว่านักลงทุนต่างชาติ และกองทุน
ในประเทศยังซื้อสะสมเป็นจำนวนสุทธิ 1.78 พันล้านบาท และ 250 ล้านบาทตามลำดับ
เราคาดว่าตลาดจะไม่ตอบสนองในด้านลบมากนักต่อกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้
เชื้อเชิญอดีตนายกทักษิณมาให้ปากคำต่อกรณีการถือหุ้นในบริษัทวินมารค์ในกรณีการนำหุ้น SC
เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 29 มิถุนายน โดยเมื่อวานหุ้น SC ร่วงลงไป 6.8%
ปิดที่ 8.85 บาท
ด้านปัจจัยบวกที่โดดเด่นในช่วงนี้ คือ มติคณะรัฐมนตรีเรื่องการไม่แปรรูปกิจการที่ผูกขาด
อย่างสาธารณูปโภคและการแก้ไขกฎหมายรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปไม่ให้นำสินทรัพย์สาธารณะไปเป็น
เจ้าของซึ่งคาดว่าจะดันหุ้น PTT จากความเสี่ยงที่ต้องออกจากตลาดลดลง แนวโน้ม PTT จะยังคง
จดทะเบียนในตลาดฯหลังจากถ่ายโอนความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินให้กับรัฐ
ส่วนตลาดสหรัฐฯปิดบวกเล็กน้อยหลังจากอ่อนตัวลงในช่วงการซื้อขาย โดยการลดลงของ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเข้ามาชดเชยผลลบของราคาน้ำมันที่ขึ้นไปสูงกว่า 69 US$ เมื่อคืน
วานนี้
เราแนะนำขายหุ้นพลังงานอื่น ๆ นอกจาก PTT ออกไปหากหุ้นปรับตัวขึ้นอีก แล้วเปลี่ยนไป
ลงทุนในหุ้นธนาคารใหญ่ (BBL, KBANK and BAY) หุ้นพลังงานได้ปรับตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ
ตามราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในตลาดนิวยอรค์ที่เพิ่มขึ้น 11% จาก ไตรมาสก่อนที่ 58.18 เหรียญ
สหรัฐฯ/บาร์เรล เป็น 64.39 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เรายังคงเชื่อว่าหุ้นธนาคารจะปรับตัวได้
ดีกว่าหุ้นพลังงานอื่นยกเว้น PTT เนื่องจากกลุ่มธนาคารมีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจในช่วงครึ่ง
ปีหลังเมื่อคาดหมายว่าเศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัว
ส่วนหุ้นขนาดกลางและเล็กอื่นๆ เราชอบหุ้น OISHI, MCOT และ SPALI ในด้านการ
ฟื้นตัวของการบริโภค หุ้นเหล่านี้ยังราคาถูกและตลาดยังไม่ได้ให้มูลค่าเพิ่มของศักยภาพกำไรดี
ขึ้นในครึ่งหลังปีนี้เท่าที่ควร

กลยุทธ์หุ้น
ซื้อ PTT จากข่าวกฎหมายใหม่ในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
เราคาดว่าความกังวลจากการถอดถอนหุ้น PTT ที่คลี่คลายลงจะทำให้ราคาหุ้นได้รับ
ประโยชน์ในวันนี้ การโอนคืนทรัพย์สินที่เป็นปัญหาคืนให้กับรัฐจะเป็นทางออกที่ดีกว่าการถอด
ถอน ราคาหุ้นยังถูกมากซื้อขายที่ PER เพียง 8.5 เท่า จากระดับ PER ที่เหมาะสมที่ 10 เท่า

ขาย PTTEP และ RRC แต่ซื้อ KBANK และ THAI
ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นซึ่งส่งผลให้หุ้นพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นจึงสร้างโอกาสในการขาย
โดย PTTEP นั้นมีราคาเกินมูลค่าเหมาะสมที่ 111 บาทแล้ว เราจึงแนะนำให้เปลี่ยนตัวเล่น
เป็น KBANK และ THAI ซึ่งยังมีส่วนต่างจากราคาเหมาะสมที่ 79 บาทและ 56 บาท ตามลำดับ

ซื้อ BBL เนื่องจากราคาหุ้นยังขึ้นน้อยกว่าตลาด
BBL ซื้อขายที่ P/BV เพียง 1.3 เท่า ขณะที่ธนาคารขนาดใหญ่อื่นมี P/BV อยู่ที่
1.6-2.0 เท่า ประกอบกับผลการดำเนินงานคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง

ซื้อ OISHI, MCOT และSPALI จากการเป็น หุ้นเด่นในกลุ่มหุ้นอุปโภคบริโภค
หุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคมีความน่าสนใจ ราคาหุ้นยังคงถูกขณะที่ผล
ประกอบการมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง

เก็งกำไรหุ้นหลักทรัพย์และ BAY-W1
แม้ว่านักลงทุนควรระมัดระวังในความผันผวนของตลาด แต่หุ้นหลักทรัพย์นับว่าน่าสนใจ
เช่น PHATRA, BLS, BSEC และ ASP ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจมากในช่วงที่ตลาดมี
ปริมาณการซื้อขายคึกคัก

สัดส่วนการลงทุน
เราแนะนำเลือกซื้อสะสมหุ้นธนาคารขนาดใหญ่และหุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภค
(Consumer) โดยหุ้นขนาดใหญ่เลือก BBL, KBANK, THAI, SCC, LH และ BEC
สำหรับหุ้นขนาดเล็กเราแนะนำ MCOT, OISHI, QH, SPALI และ CP7-11

สัดส่วน (%) หุ้นหลัก
เงินสด 25%
หุ้นขนาดใหญ่ 18% PTT, KBANK, BBL และ TOP
Index stocks 26% BAY, THAI, BEC, MCOT, EGCO และ RATCH
หุ้นมีประเด็น 24% HEMRAJ, QH, SATTEL, CP7-11, CK, HMPRO, BAFS
และ SPALI : ถอด DELTA
หุ้นขนาดเล็ก 7% OISHI, CENTEL, BLAND และ ROJANA

หุ้นน่าจับตา
OISHI : ธุรกิจของ OISHI กำลังดีขึ้นอย่างเป็นนัยยะสำคัญ โดยผลร้ายของภาษีสรรพสามิต
และการบังคับลดราคาในปีก่อนบรรเทาลงไปมาก การใช้กำลังการผลิตชาเขียวดีขึ้นเป็น 50%
ผ่านจุดคุ้มทุนที่ 30-35% ไปแล้วแม้ภาวะเศรษฐกิจจะยังซบเซา ด้านธุรกิจอาหารก็ยังคงดีและให้
กระแสเงินสดต่อเนื่อง เราคาดว่าบริษัทจะทำกำไรโตได้ 99% ในปีนี้เป็น 376 ล้านบาท ซึงยังต่ำ
กว่าปี 2548 ที่ดีที่สุดอยู่ 40% ตลาดควรจะยี่งชอบการเติบโตในระยะใกล้ รวมทั้งความแข็งแกร่ง
ของโออิชิในระยะยาวมากขึ้นต่อไป จึงจะทำให้หุ้นขึ้นไปที่ราคาเป้าหมายของเราที่ 27.5 บาทได้
อีก 45%

สรุปข่าว
MCOT กำไรQ3พีคสุด ปรับข่าวเช้าสู้ช่อง3 (ข่าวหุ้น 20/06/50)
อสมท เปิดศึกชิงสถานีข่าวเช้าสู้วิกพระราม 4 ซุ่มฟอร์มทีมครอบครัวข่าวเล็งดึงกิตติ
สิงหาปัด-นรากร ติยายน-ม.ล.ปลื้มเสริมทัพ วสันต์ลั่นรายได้ควอเตอร์ 3 พีคสุดในรอบปีได้งบ
ภาครัฐช่วยหนุน มั่นใจสอบทุจริตไร่ส้มสิ้นเดือนนี้รู้ผลแน่นอน

CEI คุยปีนี้โชว์กำไรรอบ2ปี รายได้9เดือนแรกสุดเจ๋ง (ข่าวหุ้น 20/06/50)
CEI มั่นใจผลงานปีนี้ โชว์กำไรครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังไม่ต้องตั้งสำรองเงินพร้อมเล็งแตก
ไลน์ธุรกิจใหม่เจาะกลุ่มเครื่องจักร คุย ม.ค.ปี 51 ได้ฤกษ์เปิดตัว รายได้ปีหน้าโต 5 -10% จากปี
นี้ ส่วนราคาหุ้นวิ่งฉิว เป็นเพราะนักลงทุนเข้าลุยรับงบ 9 เดือนแรกสุดเจ๋ง

SICCO ครึ่งปีหลังกำไรแจ่ม รับผลดีดอกลง-ขายทิ้ง SSEC (ข่าวหุ้น 20/06/50)
SICCO ได้ 2 ปัจจัยดีหนุนกำไรครึ่งปีหลังพุ่ง โบรกเกอร์ฟันธงบรรลุข้อตกลงขายโบรกเกอร์
ลูก SSEC ให้พันธมิตร ปลดภาระที่ต้องใส่เงินเสริมแกร่ง รับมือธุรกิจแข่งแรง แถมอานิสงค์
ดอกเบี้ยขาลงเริ่มออกฤทธิ์ เอเซียพลัส เชื่อลง 0.25% ดันกำไรเพิ่ม 33 ล้านบาท

ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.แปรรูปฯ (กระแสหุ้น 20/06/50)
ค.ร.ม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.แปรรูปรัฐวิสาหกิจแล้ว ด้านสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
ออกโรงค้าน อ้างการเดินหน้าแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นการนำรัฐวิสาหกิจไปขายให้นายทุน พร้อม
เสนอให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจอย่างไม่มีเงื่อนไข

THAI ได้แค่เช่านกเหล็กเพิ่ม คมนาคมชี้ช่วยประหยัดงบ (กระแสหุ้น 20/06/50)
ค.ร.ม.ตีกลับแผนซื้อเครื่องบินของการบินไทย เปลี่ยนเป็นเช่าแทน พร้อมปรับแผนธุรกิจ
จาก 5 ปี เป็น 10 ปี เพื่อรองรับ รมว.คมนาคมชี้ประหยัดงบประมาณและทำให้การบินไทยจัดหา
เครื่องบินรุ่นใหม่ที่ประหยัดพลังงานได้มากกว่า ลั่นผลพิจราณาครม.ถูกต้อง ไม่สนข่าวลือผู้บริหาร
ลาออกหากแผนซื้อ 8 เครื่องบินใหม่ปิ๋ว วงการยังเชื่อมั่นแนะนำ ลงทุน

ธปท.รับสภาพปี49 ขาดทุนแสนล้าน พิษอุ้มค่าเงินบาท
แบงก์ชาติเผยผลขาดทุนปี 2549 หลังตรวจสอบจาก สตง.สูงถึง 1.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น
กว่าแสนล้านบาท หรือมากกว่า 5,769% จากปี 2548 โดยเป็นผลมาจากการขาดทุนอัตราแลก
เปลี่ยนกว่า 9.97 หมื่นล้านบาท และเป็นดอกเบี้ยจ่าย 6.2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีภาระ
ผูกพันจ่ายคืนหนี้ที่เกิดจากสัญญาซื้อขายเงินดอลลาร์ล่วงหน้าในปี 2550 ที่มีผลขาดทุนอีก 1.7
พันล้านบาท รวมทั้งขาดทุนจากสัญญาซื้อเงินสกุลต่างประเทศอื่นจากอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อสิ้นปี
2549 จำนวน 542.2 ล้านบาท
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com