หุ้นไทยสังเวยการเมืองอีกรอบ เพียง 7 วันทำการ ดัชนีฯวูบลงแล้ว 44.01 จุดหรือ 5.71% ส่วนมาร์เก็ตแคปตลาดฯหดลง 2.12 แสนลบ.ใน 6 วันทำการ ล่าสุดวงการหวั่นไอ้โม่งปล่อยข่าวร้ายทุบหุ้นเก็บของ หลังมีข่าวร้ายลือสนั่นเรื่องม็อบยกพลบุก ทบ.- ครม.เตรียมประกาศเคอร์ฟิว แต่เอาเข้าจริงไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่หุ้นรูดให้เก็บของถูกได้สำเร็จ ขณะกองทุนกลายเป็นจำเลยเผาบ้านตัวเอง หลังพบขายสุทธิต่อเนื่อง 7 วันกว่า 4.4 พันลบ.สวนกับต่างชาติที่ยังซื้อสุทธิหรือขายเพียงจิ๊บจ๊อย

ท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่า กลุ่มผู้ร่วมชุมนุม PTV และกลุ่มคนรักทักษิณ ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ เตรียมเคลื่อนพลจากท้องสนามหลวง ไปยังหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ในช่วงเย็นของวานนี้ (13 มิ.ย.) และ ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) เตรียมประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร หากปัญหาดังกล่าวบานปลายในช่วงเย็นวันเดียวกัน กดดันให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปรับลดลงอย่างรุนแรงถึง 16.82 จุด แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายจะไม่หนาแน่นมากนัก อยู่ที่ระดับเพียง 16,206.46 ล้านบาทเท่านั้น แต่ก็ทำลายบรรยากาศการลงทุนให้ย่ำแย่ลงทันที

โดยในวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ดัชนีฯหุ้นไทยเปิดการซื้อขายที่ระดับ 740.67 จุด ลดลงทันที 2.75 จุด หลังจากนั้นได้ปรับลดลงต่อเนื่องจนปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดของวันที่ 726.60 จุด หรือลดลง 16.82 จุด โดยในช่วงการซื้อขายภาคบ่ายได้มีข่าวลือออกมาอย่างต่อเนื่องในเรื่องผู้ชุมนุมประท้วงเตรียมรวมพลและเคลื่อนขบวนไปยังกองบัญชาการทองทัพบกเพื่อกดดันให้ คมช.ลาออก

-มีกระแสข่าวม็อบ PTV-คนรักทักษิณ จะมีการเคลื่อนไหวให้แตกหัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันมีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันบริเวณหน้าท้องสนามหลวง โดยมีข่าวลือออกมาเป็นระลอกอย่างต่อเนื่องว่า อาจเพื่อรอกำลังพลจากทั่วทุกสารทิศเข้ามาพร้อมเพรียงกันก่อน จึงมีการเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมไปยังที่นัดหมาย เพื่อกดดันให้ คมช.ลาออก ตามที่ขีดเส้นตายไว้เมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่าจะต้องลาออกภายใน 7 วัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาต่อมา พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุและยืนยันว่า รัฐบาลจะใช้การแก้ปัญหาด้วยการเจรจาและมั่นใจว่าหากทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยสันติวิธีด้วยกระบวนการยุติธรรม ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาและหาทางออกที่ดีที่สุดได้ อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเลือกใช้วิธีนี้ เพราะเป็นวิธีที่น่าจะหมดไปจากประเทศไทยนานแล้ว
การใช้วิธีนี้ผมคิดว่าน่าจะหมดไปจากประเทศเรานานแล้ว หมดไปจากสังคมของเรา เราต้องแก้ปัญหาด้วยการเจรจา และหากเราทุกคนช่วยกันแก้ปัญหาด้วยความสันติ ความยุติธรรมทุกอย่างก็คงเป็นไปได้ด้วยดีนายกฯ กล่าว

- ตำรวจประสาน กทม. ทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมทุกพื้นที่
ขณะที่ พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ กรุงเทพมหานคร (กต.ตร.กทม.) ว่า ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เร่งประสานกับผู้อำนวยการทุกเขต เพื่อทำความเข้าใจ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ ให้หลีกเลี่ยงการเข้ามาชุมนุมที่ท้องสนามหลวง เนื่องจากจำนวนคนที่มาก จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลไม่ทั่วถึง อันจะเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มมือที่ 3 เข้ามาสร้างความวุ่นวาย ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมอาจใช้รถจักรยานยนต์ ในการเคลื่อนขบวนไปยังกองบัญชาการกองทัพบก วันเสาร์ที่ 16 มิ.ย.นี้ ตำรวจจะประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน เพื่อปรับแผนให้เหมาะสมตามสถานการณ์ โดยไม่ใช้ความรุนแรง

- กองทัพบก สั่งการผวจ. ทุกจังหวัดเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินในช่วงเวลาดังกล่าว เหตุการณ์ยังคงเป็นปกติ มีทหารประจำการเป็นจำนวนปกติไม่มีการเพิ่มกำลัง แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาครัฐโดยแผนพิทักษ์ 1 ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทยที่ได้สั่งการไปจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเฝ้าระวังประชาชนเคลื่อนไหวผิดปกติตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดห้ามออกนอกพื้นที่ที่รับผิดชอบ ห้ามเดินทางไปยังต่างประเทศในเวลานี้ และให้เปิดโทรศัพท์มือถือไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน

- กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยฯ ยืนยันไม่เคลื่อนขบวนไปกองทัพบก
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสกล่าวลือที่ออกมาถึงเรื่องความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ในที่สุดกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ ก็ออกมายืนยันว่า ยังไม่มีการเคลื่อนขบวนจากสนามหลวง ไปหน้ากองบัญชาการกองทัพบก หลังจากมีข่าวลือสะพัดตลอดทั้งวันว่า กลุ่มแนวร่วมฯ จะเลื่อนการชุมนุมใหญ่จากวันที่ 24 มาเป็นวานนี้ (13 มิ.ย.) พร้อมกับย้ายการชุมนุมไปที่หน้ากองทัพบก ส่วนวันเสาร์ที่ 16 มิ.ย. จะเคลื่อนขบวนหรือไม่นั้นยังต้องหารืออีกครั้ง
ทั้งนี้มีข่าวลืออีกว่า กลุ่มแนวร่วมจะเคลื่อนขบวนไปหน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์ ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ด้วยแต่อย่างไรก็ตามข่าวดังกล่าวไม่ได้รับยืนยันว่าจะเป็นจริงหรือไม่

ขณะที่อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย รายหนึ่ง กล่าวว่า ขณะนี้แกนนำพรรคที่เป็นฝ่ายปฏิบัติการมวลชนได้ส่งสัญญาณผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังอดีต ส.ส.ทุกคนให้ระดมประชาชนเข้ามาใน กทม.และปักหลักชุมนุมในพื้นที่ทันที หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)มีคำสั่งอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน โดยเลื่อนวันชุมนุมจากวันที่ 16 มิถุนายน มาเป็นวันที่ 13 มิถุนายน ซึ่งการเปลี่ยนวัน-เวลาการชุมนุมนั้น เพราะต้องการความแตกหักกับ คมช.

- ครม.สยบข่าวลือยัน ไม่ประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่กทม.
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวลือเรื่อง คมช.เตรียมจะประกาศเคอร์ฟิวส์ ควบคู่กับข่าวเรื่องการเคลื่อนพลไปยังกองบัญชาการกองทัพบกของกลุ่มผู้ชุมนุม ล่าสุดทาง พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช. ก็ออกมาชี้แจงผ่านสื่อออนไลน์แห่งหนึ่งว่า รัฐบาลจะไม่ประกาศใช้เคอร์ฟิวแน่นอน เพราะสถานการณ์ยังไม่รุนแรง โดย คมช.จะดูแลความสงบเรียบร้อยด้วยความนุ่มนวล เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะให้มากที่สุดดังนั้นจึงไม่เห็นมีความจำเป็นที่ต้องใช้ประกาศพระราชกำหนดฉุกเฉิน ซึ่งหากจะใช้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์มีความจำเป็นจริงๆ และเป็นทางเลือกสุดท้าย

- นลท.ชิงขายหุ้นหนีตาย ผวาการเมืองเดือดพล่าน ฉุดหุ้นไทยดิ่งเหวกว่า 16 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข่าวร้ายเรื่องความรุนแรงที่ลือออกมาอย่างตอ่เนื่อง ทำให้ดัชนีฯวานนี้ปิดลดลงถึง 16.82 จุด มาปิดที่ระดับ 726.60 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16,206.46 ล้านบาท
นายอภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงแรงในขณะนี้ ว่า ปัจจัยที่เข้ามาฉุดดัชนีฯ ให้ลดลงน่าจะมาจากเรื่องการเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะข่าวการเดินทางกลับสู่ประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนข่าวลือที่ออกมาว่าจะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่ย้ายพลจากท้องสนามหลวงไปสู่หน้ากองบัญชาการกองทัพบกนั้น ยังไม่มีความชัดเจน แต่ถ้าหากเกิดขึ้นจริงตามข่าวก็คาดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่เข้ามากดดันจิตวิทยาการลงทุนและกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

- วงการหวั่นไอ้โม่งทุบหุ้นหวังเก็บของถูก
แหล่งข่าวนักลงทุนรายหนึ่งกล่าวว่า น่าสงสัยว่าการลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ อาจจะเป็นการจงใจทุบหุ้นของบุคคลบางกลุ่ม เพราะจะเห็นได้ว่ามีข่าวร้ายถูกปล่อยออกมาเป็นระยะจนดัชนีฯปรับตัวลดลงค่อนข้างลึก ในขณะที่ในความเป็นจริงไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
"ดูเหมือนมีคนจงใจปล่อยข่าวลือทุบหุ้นเพื่อเก็บของถูก เพราะเมื่อหุ้นตกแล้วถ้าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น ดัชนีฯก็จะรีบาวน์ แถมต่างชาติก็ไม่ได้เทขายมากมายอะไร โอกาสที่ดัชนีฯจะปรับตัวดีขึ้นก็เป็นไปได้มาก ซึ่งถ้าใครเก็บหุ้นไว้ในช่วงที่ดัชนีฯลดลงแรงก็ถือว่าได้ประโยชน์" แหล่งข่าวกล่าว

- พบกองทุนเผาบ้านตัวเองขายสุทธิต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางข่าวร้ายเรื่องความรุนแรงทางการเมืองที่ออกมาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันพบว่า กดดันให้ดัชนีฯปรับลดลงต่อเนื่องถึง 44.01 จุด หรือ 5.71% จากดัชนีฯที่ปิดการซื้อขายที่ระดับ 770.61 จุดเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนล่าสุด (13 มิ.ย.) ปิดที่ 726.60 จุด ภายใน 7 วันทำการเท่านั้น ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่ากองทุนมีการขายสุทธิออกมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติเป็นฝ่ายซื้อสุทธิเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
รายการซื้อ-ขายของกองทุน (4-13 มิ.ย.50)
วันที่ ซื้อ- (ขายสุทธิ) ลบ.
4 มิ.ย.50 43.31
5 มิ.ย.50 (512.25)
6 มิ.ย.50 (830.77)
7 มิ.ย.50 (399.26)
8 มิ.ย.50 (303.12)
11 มิ.ย.50 (920.07)
12 มิ.ย.50 (1,087.89)
13 มิ.ย.50 (349.44)
รวมขายสุทธิ 4,402.80 ลบ.ภายใน 7 วันทำการ

- 6 วันทำการ มาร์เก็ตแคปลดลง 212,423.2 ลบ.เหลือ 5,614,725.90 ลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่า ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2550 จนถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2550 พบว่ามาร์เก็ตแคปลดลงถึง 212,423.2 ลบ.จากมาร์เก็ตแคป 5,827,149.13 ลบ.ในวันที่ 4 มิถุนายน 2550 มาอยู่ที่ 5,614,725.90 ลบ. ในวันที่ 12 มิถุนายน 2550


Efinance

:lol: