May 19, 2024   5:07:35 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ฟันธง
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 13/06/2007 @ 10:39:21
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่มา : วีระชัย ครองสามสี
หัวคอลัมน์ : การเมือง และ ดอกเบี้ยเรื่องเสียวๆของตลาดหุ้นไทย
สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้เริ่มที่จะทวีความดุเดือดมากขึ้นทุกที ซึ่งเป็นที่สะใจของคอการเมืองแนว Hard Core เป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับแฟนพันธ์แท้ในตลาดหุ้นอาการกับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากแต่ละคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันแบบเซ็งๆว่า ?คนไทยหรือเปล่า? ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลังจากคดียุบพรรคก็ดูเหมือนว่าอะไรๆในทางการเมืองน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงความเสี่ยงทางการเมืองที่คาดว่าน่าพอคุยกันได้ทำไปทำมาคนที่พูดภาษาไทยเหมือนกันแต่กับพูดกันไม่รู้เรื่องซะงั้น ซึ่งก็ว่าไม่ได้เรื่องของอำนาจมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆครับเจ้านาย โดยขณะนี้ทั้งกลุ่มอำนาจใหม่ และอำนาจเก่าต่างเริ่มเปิดหน้าเปิดตาออกอาวุธแลกหมัดกันหมัดต่อหมัด ชนิดที่นักลงทุนในตลาดหุ้นต้องจับตามองแบบห้ามประพริบตาทีเดียวเพราะถ้าปรอทแตกเมื่อไหร่ก็ทางใครทางมันเหมือนกัน โดยล่าสุดฝ่ายอำนาจใหม่เริ่มที่จะเล่นแรงขึ้นทุกทีแล้วโดยล่าสุด คตส. ได้ประกาศอายัดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัวเป็นเงินประมาณ 5.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่ว่าเหตุผลจะเพื่อตัดท่ออะไรของใครก็แล้วแต่ แต่สำหรับ Sentiment ของการลงทุนมันเป็นสัญญาณให้เริ่มวิตกว่าปัญหาการเมืองในตอนนี้อะไรๆก็ไม่แน่ซะแล้ว ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนจากมูลค่าการซื้อขายในช่วง 2 วันที่ผ่านมาลดลงอย่างน่าใจหายมาอยู่ที่แถวๆ 1 หมื่นล้านบาทเท่านั้นเอง ขณะที่จอมยุทธ์ผู้กล้าที่จะเข้ามารับหุ้นต่างกลับวัดเส่าหลินไปหมดแล้ว ขณะที่ในมุมของฝรั่งก็อย่างที่ได้เรียนไปเมื่อวานนี้ว่ายังไงๆช่วงนี้ถึงพวกพี่แกจะยังไม่ออกจากตลาด แต่การจะหวังให้มาช่วยไล่ซื้อคงจะหวังยาก เพราะช่วงหลังพี่ฝรั่งแกชอบรอซื้อของถูกมากกว่า และขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังลูกผีลูกคนผลกระทบจากต่างประเทศก็น่าปวดหัวไม่แพ้กัน เมื่อล่าสุดดูเหมือนว่ามหกรรมการขึ้นดอกเบี้ยจะกลับมาหลอกหลอนพวกพี่ใหญ่ต่างๆอีกครั้ง หลังจากอัตราเงินเฟ้อของประเทศระดับผู้นำของระบบเศรษฐกิจโลกต่างพุ่งพรวดขึ้นมาทั่วหน้าตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง EU ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว 0.25% มาอยู่ที่ 4.00% ขณะที่อังกฤษก็อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามจาก 5.5% ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 6 ปีอีกครั้ง แต่ที่จะ Sensitive กับตลาดหุ้นไทยมากที่สุดต้องยกให้จอมเก๋าอย่างญี่ปุ่น จีน และสหรัฐ แม้ว่าล่าสุดญี่ปุ่นมีแนวโน้มว่าจะคงดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ แต่ในส่วนของธนาคารกลางของจีนค่อนข้างชัดเจนว่ามีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง(Real Interest Rate)เป็นบวก หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของจีนดีดตัวขึ้นสู่ 3.4 % ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน ขณะที่ในส่วนของสหรัฐที่จะมีการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ออกมาในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ในวันศุกร์นี้ซึ่งตลาดมีการคาดการณ์กันว่าตัวเลขทั้ง 2 ตัวน่าจะสูงขึ้น ซึ่งตัวเลขที่ออกมาจะมีผลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมของ FOMC ครั้งต่อไปในวันที่ 27-28 มิ.ย.นี้เป็นอย่างมาก ซึ่งจากบทเรียนที่เราได้พบจากตลาดหุ้นจีน และสหรัฐในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นได้ชัดเจนถึงความ Sensitive ตลาดหุ้นจีน และสหรัฐต่ออัตราดอกเบี้ย ดังนั้นจากภาพรวมที่ข้างในก็เริ่มร้อนขณะที่ข้างนอกก็เสียวอย่างนี้ รวมทั้งเมื่อดูจากเทคนิคแล้วโอกาสที่ตลาดจะออกมาในรูปของการซึมลงเริ่มมีสูงแล้ว โดยสั้นๆคงต้องมาลุ้นว่า 732 จุดจะรับอยู่หรือไม่ แต่ถ้าจะให้ดีถ้าเป็นขาเล่นสั้นช่วงนี้อยู่เฉยๆไม่เพิ่มพอร์ตๆน่าจะสุขภาพดีกว่า และใช้โอกาสที่มี Rebound หมุนขายออกเล่นรอบบางส่วน แต่ถ้าในมุมของนักลงทุนประเภทเงินเย็นเฉียบไม่ต้องคิดมากไปรอเก็บของโดยต้องเน้นเฉพาะหุ้นฝรั่งพื้นฐานดีแถวๆ 732 จุดครับ แต่สำหรับจอมยุทธ์ฤทธิ์มีดสั้นที่ไม่เคยหวั่นกับภาวะตลาด และไม่มีความกลัวในหัวใจ วันนี้ยังมีหุ้นกราฟสวยเก็งกำไรเพียวๆมาแนะนำเช่นเคยครับ โดยวันนี้ชอบ SOLAR มีแนวรับ 3.12 บาท แนวต้าน 3.28 บาท และมีจุดถอยบริเวณ 3.00 บาท QH มีแนวรับ 1.34 บาท แนวต้าน 1.37/1.43 บาท และมีจุดถอยบริเวณ 1.32 บาท และ SF มีแนวรับ 8.30 บาท แนวต้าน 8.55 บาท และมีจุดถอยบริเวณ 8.10 บาท และสุดท้ายต้องเตือนกันอีกรอบว่าหวั่นใจกับตลาดจริงๆในช่วงนี้ ดังนั้นขาเก็งกำไรถ้าคิดจะเล่นต้องกล้า Cut Loss นะครับ สอบถามข้อมูลการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ weerachai.k@fes.co.th[/size:0b87c51e8b">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com