May 19, 2024   4:38:54 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เวทีวิเคราะห์
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 13/06/2007 @ 09:53:08
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ซื้อ MCOT เป้าหมาย38.50บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" MCOT หลังจากผลประกอบการอ่อนลงมากในไตรมาสแรก ฝ่ายวิจัยคาดว่า MCOT จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2550 เป็นต้นไป มีปัจจัยผลักดันจากการปรับผังรายการ มีรายได้เพิ่มเติมจาก AF4 ซึ่งมีรายได้การันตีขั้นต่ำที่ 100 ล้านบาท (AF3 มีขั้นต่ำ 51 ล้านบาท) ประกอบกับการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาและโครงการต่างๆจากภาครัฐ นอกจากนั้นช่อง 9 ยังน่าจะได้รับเม็ดเงินไหลมาจาก TITV เนื่องจากมีประเภทรายการ ค่าโฆษณา และกลุ่มคนดูที่ใกล้เคียงกัน (TITV มีส่วนแบ่งตลาด 17.3% ในปี 2549) ฝ่ายวิจัยมีความเห็นเชิงบวกต่อผังรายการใหม่ซึ่งมีรายการที่น่าสนใจ ประกอบกับ MCOT มีแนวโน้มได้อานิสงส์จากเม็ดเงินจาก TITV ซึ่งต้องกลายเป็นทีวีสาธารณะ การฟื้นตัวของการใช้จ่ายจากภาครัฐและการเลือกตั้งในช่วงปลายปี ทิศทางที่ชัดเจนขึ้นหลังจากมีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ทำให้เราเชื่อมั่นถึงศักยภาพการเติบโตของบริษัท ปรับประมาณการกำไรปี 2551 ขึ้น 3% เป็น 1,540 ล้านบาท (2.24 บาท/หุ้น) เติบโต 11% จากปีก่อน

ซื้อ ATC เป้าหมาย 70 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อ" ATC มีมุมมองเชิงบวกต่อ ATC จากการคาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/2550 สูงกว่าไตรมาส 1/2550 นอกจากนี้งวดไตรมาส 3/2550 อาจมีกำไรที่สูงกว่าการคาดการณ์เดิมของฝ่ายวิจัย เนื่องจากบริษัทมีการขยายกำลังการผลิตสารไซโคเฮกเซนเพิ่มขึ้น และประการสำคัญคือการควบรวมกับ RRC ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณอีก 6 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ ATC ประมาณ 12-15 บาทต่อหุ้น PER ปัจจุบัน 6 เท่า แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายคงเดิม 70 บาท ปัจจุบันการก่อสร้างส่วนขยายกำลังการผลิตทำได้ถึง 78% แล้ว คาดว่าจะเริ่มกำลังการผลิตใหม่ได้ในไตรมาส 3/2551 โดยเชื่อว่า Synergy ที่จะได้รับร่วมกันคือ ทำให้การจัดหา Feedstock หรือวัตถุดิบร่วมกันที่ประสิทธิภาพสูงสุด และส่วนผลพลอยได้ ซึ่งแต่ก่อนมีราคาต่ำ คือ condensate residue นำไปกลั่นต่อได้น้ำมันดีเซล ขายแล้วมีราคาดีขึ้น สามารถ upgrade โรงกลั่น RRC ให้ผลิตผลผลิตประเภทอะโรเมติกส์มีราคาสูงขึ้น ทำให้ yield สูงขึ้น

ซื้อ VIBHAเป้าหมาย 3.75 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ VIBHA นอกจากงวดครึ่งปีหลังของปีนี้จะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ ร.พ. แล้ว VIBHA ยังจะมีรายได้ที่เติบโตจากการเพิ่มศูนย์บริการเฉพาะทางซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ คือ 1. ศูนย์โรคเบาหวานและไทรอยด์ รวมทั้งขยายเตียงล้างไตจากเดิม 8 เตียงเป็น 20 เตียงในงวดไตรมาส 3/2550 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวรายได้ในงวดดังกล่าวทันที 2. ศูนย์มะเร็งที่ใช้รังสีโคบอลต์แทนรังสีแกมม่าเป็นเครื่องแรกของไทยซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งสูงทีสุดในงวดไตรมาส 4/2550 โดย VIBHA ลงทุนเพียงการเตรียมสถานที่ ส่วนพันธมิตรจีนลงทุนด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ในการรักษา ซึ่งจะแบ่งรายได้ระหว่าง VIBHA กับ พันธมิตรจีน ในสัดส่วน 30% ต่อ 70% อย่างไรก็ตามศูนย์มะเร็งน่าสร้างรายได้ไม่มากนักในระยะแรก เพราะต้องการเวลาในการสร้างชื่อเสียง นอกจากนี้จะมีการรับรู้รายได้จากการให้เช่าโกดังเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรกราว 2.1 ล้านบาทต่อไตรมาสในงวดไตรมาส 3/2550 ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ทำให้ฝ่ายวิจัยมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างโดดเด่น

ซื้อ KSLเป้าหมาย 10.45 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ KSL แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะขยายตัวอย่างมากในไตรมาส 2/2550 ประกอบกับฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อกลยุทธ์การขายในปัจจุบันที่จะช่วยลดผลกระทบจากทิศทางราคาน้ำตาลในตลาดโลกได้ จึงทำให้ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2550 อยู่ที่ 878 ล้านบาทหรือขยายตัว 29.4% จากปีก่อน ดังนั้นจึงปรับคำแนะนำจาก ?ซื้อเมื่ออ่อนตัว? เป็น ?ซื้อ? โดยคงราคาเป้าหมายที่เหมาะสมปี 2550 ที่ 10.45 บาท อ้างอิงวิธี DCF (wacc~11.5%, อัตราการเติบโต 3%) บริษัทประกอบธุรกิจโรงงานน้ำตาลรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศมีส่วนแบ่งตลาดราว 8.5% ของตลาดรวม นอกจากนั้น ยังดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อันได้แก่ โครงการโรงงานผลิตเอทานอล,โรงไฟฟ้าและโครงการปุ๋ยด้วย โดยปัจจุบัน ถือเป็นบริษัทมี Market Capital รวมสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม

ที่มา ทันหุ้น[/color:1bd8a16490">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com