May 19, 2024   3:04:22 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเล็กรุ่งลุยไฟการเมืองร้อน!
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 12/06/2007 @ 20:12:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นเล็กยังรุ่งหลังการเมืองไม่นิ่ง แถมมีแววระอุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข่าวล่าสุดระบุ "ทักษิณ" เล็งกลับไทยเร็วขึ้นเพื่อมาต่อสู้ทางการเมือง หลังไม่ได้รับความยุติธรรม จับตาวันนี้ LIVE-APURE-ACL-NEP-W1-EVER-BLISS-IEC ไปต่อหรือไม่ ในเมื่อ ตลท.สั่งดับร้อน LIVE ด้วยการสั่งห้ามเน็ต-มาร์จิ้น 30 วันทำการ เริ่มวันนี้เป็นต้นไป!

* SET Index ร่วง-วอลุ่มแผ่วหลัง คตส.ยึดทรัพย์อดีตนายกฯ
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันที่ 12 มิถุนายน 2550 ปรับตัวลดลงแรงถึง 10.73 จุด มาอยู่ที่ 743.42 จุด หรือ 1.42% พร้อมมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงเหลือ 14,798.31 ล้านบาท หลังจากช่วงค่ำของวันที่ 11 มิถุนายน 2550 คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ทุกบัญชีเงินฝาก ทุกธนาคาร และทุกสถาบันการเงิน โดยอาศัยอำนาจตามความในประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีความประพฤติมิชอบ และพบว่ามีเงินบางส่วนยักย้ายออกไปแล้ว โดยอายัดทรัพย์รวม 21 บัญชีเงินฝาก เป็นจำนวนเงิน 5.2 หมื่นล้านบาท

คำสั่งของ คตส. ดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนต่างวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดปัญหาความรุนแรงตามมาจากผู้ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และได้ชุมนุมต่อต้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเพิ่มปริมาณผู้ชุมนุมในระยะเวลาอันใกล้นี้ จึงเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงจนหลุดแนวรับ 750 จุด และ 745 จุดในเวลาไม่นาน

* นลท.วิตกหลัง "ทักษิณ" เล็งกลับไทยเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้ทางการเมือง
ความรุนแรงทางการเมือง กลายเป็นประเด็นหลักที่สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุน และยังต่อยอดไปเรื่อยๆ เมื่อ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัว ออกมาระบุว่า จะฟ้อง คตส.กลับทั้งทางแพ่งและอาญา และยังระบุด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลับไทยเร็วขึ้นเพื่อมาต่อสู้ทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยจะขอเวลา 2-3 วันเพื่อตัดสินใจ

ขณะเดียวกัน ยังกังวลว่าในวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายนนี้ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ จะเดินขบวนเพื่อไปชุมนุมกันหน้ากองทัพบก ก่อนที่รวมพลใหญ่ในวันเสาร์ อาทิตย์ นี้ แม้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้ง กรุงเทพมหานคร, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช., อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. และรัฐบาล จะเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อย่างดีแล้วก็ตาม

* หุ้น ชิน คอร์ป.ร่วงยกแผง
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นในกลุ่ม ชิน คอร์ป. ปรากฏว่าได้ปรับตัวลดลงอย่างพร้อมเพรียงกัน แม้จะอยู่ภายใต้การถือหุ้นของกลุ่ม เทมาเส็ก ก็ตาม นำโดย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) ปิดที่ 86 บาท ลดลง 3.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 208.86 ล้านบาท, บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) (SATTEL) ปิดที่ 10.20 บาท ลดลง 1.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย และ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 28 บาท ลดลง 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3.86 ล้านบาท

* หุ้นเล็กมาแรงทั้ง LIVE-APURE-ACL-NEP-W1-EVER-BLISS-IEC
ขณะที่ประเด็นทางการเมืองได้ฉุดหุ้นกลุ่มชิน คอร์ป. และบรรดาหุ้นบิ๊กแคป ให้ปรับลดลงถ้วนหน้า ได้เปิดโอกาสให้หุ้นเล็กๆ มีแรงเก็งกำไรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น จนกลายเป็นดาวเด่นที่นักลงทุนทุกคนจับตามองไปแล้ว ซึ่งหลายหุ้นได้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง สวนทางกับภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ในช่วงขาลง

อาทิ บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (LIVE) ซึ่งวานนี้ปิดที่ระดับ 3.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 25.74% มูลค่าการซื้อขาย 792.36 ล้านบาท, บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (APURE) ปิดที่ 2.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.31 บาท หรือ 16.58% มูลค่าการซื้อขาย 506.73 ล้านบาท, ใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (NEP-W1) ปิดที่ 0.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 2.56% มูลค่าการซื้อขาย 47.36 ล้านบาท

บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (EVER) ปิดที่ระดับ 1.97 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 2.60% มูลค่าการซื้อขาย 149.13 ล้านบาท, ธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) (ACL) ปิดที่ระดับ 5.45 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.91% มูลค่าการซื้อขาย 323.80 ล้านบาท, บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) ปิดที่ระดับ 0.82 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 54.94 ล้านบาท และ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) (BLISS) ปิดที่ระดับ 4.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 2.43% มูลค่าการซื้อขาย 86.81 ล้านบาท


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 12/06/2007 @ 20:13:18 :
* นลท.-ตลท. ไม่ให้คลาดสายตา
การซื้อขายหุ้นเล็กๆ ที่กลับมาได้รับความนิยมอย่างร้อนแรงอีกครั้งในระยะนี้ ยังคงเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดทั้งจากนักลงทุน และจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เอง ที่ได้มีคำถามไปยังหุ้นร้อนๆ ว่ามีการเปลี่ยนอะไรหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมามีการสอบถามไปยัง BLISS, IEC และ LIVE ซึ่งคำตอบที่ได้รับคือ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญใดๆ

นอกจากนี้ ยังเป็นที่คาดหมายว่า หุ้นเล็กๆ เหล่านี้จะยังคงได้รับความสนใจสูงต่อไป จนกว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดๆ ขณะที่นักลงทุนเอง คาดว่าจะเน้นการลงทุนในรูปแบบการเก็งกำไรมากกว่า และหาจังหวะเล็งเก็บหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคาถูก

* โบรกฯ ชี้การเมืองร้อนทำหุ้นร่วงต่อ-ปรับพอร์ตถือเงินสด
นางสาวศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า แนวโน้มวันนี้ (13 มิ.ย.) คาดว่าดัชนีฯ น่าจะเคลื่อนไหวในแดนลบไม่แตกต่างจากวันก่อน เนื่องจากยังคงมีปัจจัยความเสี่ยงทางการเมืองเกี่ยวข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับเมืองไทยเร็วขึ้นเพื่อเข้าสู่วงการการเมืองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นการกระตุ้นเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม จึงอาจทำให้มีแรงเทขายทำกำไรออกมา

ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุน จึงส่งผลทำให้ดัชนีฯ อาจมีการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีฯ น่าจะมีการรีบาวน์ขึ้นมาในช่วงสั้นๆ ระหว่างการซื้อขายจากแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งน่าจะส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนไม่เงียบเหงามากนัก

ส่วนปัจจัยตลาดหุ้นต่างประเทศในพรุ่งนี้คาดว่าไม่น่าจะมีนัยสำคัญต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยมากนักเนื่องจากนักลงทุนให้น้ำหนักไปที่ประเด็นการเมืองภายในมากกว่า ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นที่บริเวณแนวรับ 740 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 751 จุด

ด้านนางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย ประเมินไปในทิศทางเดียวกันว่า แนวโน้มดัชนีฯ ยังคงมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่น่าจะเป็นการปรับตัวลดลงแรงเช่นวันก่อน เนื่องจากหลายฝ่ายต่างรอดูสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองให้มีความชัดเจนก่อน ประกอบกับปัจจัยภายนอกของธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) ที่มีแนวโน้มจะปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีการปรับพอร์ตเพื่อไปลงทุนในตลาดเงินหรืออัตราแลกเปลี่ยนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำระยะสั้นให้ปรับพอร์ตแล้วหันมาถือเงินสดเพื่อลดความเสี่ยง ส่วนระยะยาวแนะซื้อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า อย่าง บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) และหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อย่าง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด จำกัด (มหาชน) (KBANK) และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) เพราะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยประเมินแนวรับดัชนีฯ ไว้ที่ 745 จุด

* ประเมินหุ้นเล็กยังเก็งกำไรได้
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธการลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ เปิดเผยว่า ในภาวะตลาดฯ ที่ถูกกดดันจากปัญหาทางการเมือง ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นนั้น แนะนำนักลงทุนว่า ควรรอดูสถานการณ์ไปก่อนระยะหนึ่ง แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวนั้นแนะนำว่า เมื่อดัชนีฯ ปรับตัวลดลงแรง น่าจะเป็นโอกาสที่จะทยอยเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า รวมถึงในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้าน และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

"หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่นั้น ก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อเข้ามาเยอะ แต่เมื่อดัชนีฯ มีการปรับตัวลดลง ก็เพียงแค่ทยอยปรับพอร์ตการลงทุน ไม่ได้เทขายออกมาทีเดียว ดังนั้นจึงมองว่าเมื่อดัชนีฯ ปรับตัวลดลงแรงมาก จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว" นายวีระชัย กล่าว

ขณะที่นักลงทุนที่สนใจเข้าเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก ก็ยังสามารถเข้าเก็งกำไรต่อได้ เนื่องจากเมื่อพิจารณาภาวะตลาดฯ โดยรวมขณะนี้ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มเปลี่ยนมาเล่นเก็งกำไรมากขึ้น ซึ่งหุ้นที่มีสัญญาณเทคนิคที่ดี และสามารถเข้าเก็งกำไรได้ในวันนี้ (13 มิ.ย.) คือ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (QH) ให้แนวรับไว้ที่ 1.34 บาท แนวต้านให้ไว้ที่ 1.42 บาท และ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) (SOLAR) ให้แนวรับไว้ที่ 3.02 บาท แนวต้านให้ไว้ที่ 3.34 บาท

อย่างไรก็ตาม ตลท.ได้ประกาศสั่งห้ามเน็ตเซ็ทเทิลเม้นท์ และมาร์จิ้นหุ้น LIVE รวม 30 วันทำการ มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Efinance

:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com