May 19, 2024   2:36:12 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : สถานการณ์พลิก
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 11/06/2007 @ 08:13:35
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*แรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่ออกมาเป็นจำนวนมากเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ทำท่าจะดีขึ้นกลับแย่ลงไปในพริบตา พร้อมทั้งทำให้ความฝันที่จะได้เห็นดัชนีไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 780 จุดเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

*แม้เฮียฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง จะพร่ำพรรณนาโวหารว่า บรรยากาศการลงทุนของประเทศไทย เริ่มดีขึ้น หลังจากได้ชี้แจงให้นักลงทุนต่างชาติเข้าใจถึงนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อต่างชาติอย่างชัดเจน ว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายหันหลังให้กับโลก หรือไม่สนใจทำการค้ากับต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีอะไรกระเตื้องขึ้นเป็นรูปธรรมนะเฮีย

*โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เฮียฉลองภพก็ออกตัวดังเอี๊ยดว่า สถานการณ์ดีขึ้นมาก ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นไทยในช่วง 2สัปดาห์ค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนะจะบอกให้

*เผอิญสัปดาห์ที่แล้วสหรัฐดันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของพันธบัตรอายุ 10 ปีไปอยู่ที่ระดับร้อยละ 5 นักลงทุนต่างชาติถึงแห่เทขายหุ้นในไทยออกไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ดัชนีตกลงอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะดีขึ้นในไม่ช้าก็พอจะฟังได้นะค่ะ

*เนื่องจากเฮียเล่นยกภาพโดยรวมของการลงทุนจะกระเตื้องขึ้น หลังจากรัฐบาลได้ตัดสินใจลดภาษีสรรพสามิตสำหรับอีโคคาร์ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ไทยมีรถประเภทใหม่ เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองนโยบายการประหยัดพลังงาน แต่ทั้งหมดต้องรอดูพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยเช่นกันว่าจะตอบสนองความต้องการได้มากน้อยเพียงใด มันไม่เป็นการวาดฝันวิมานในอากาศเกินไปหน่อยเหรอจ๊ะ

*ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่า ตลาดหุ้นกับอัตราดอกเบี้ย เป็นของแสลงซึ่งกันและกันมานาน "โมนิก้า" ถึงไม่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้นในไม่ช้า เพราะคราใดที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นพร้อมกับนำเงินไปลงทุนยังตลาดพันธบัตร ตลาดหุ้นไทยมักจมปลักอยู่ในช่วงขาลงและแกว่งตัวในลักษณะ side way down อยู่ร่ำไปนะตัวเอง

*ยิ่งการเพิ่มทุนของ TMB ส่อเค้าจะยืดเยื้อไปอีกนาน หลังบอกว่าจะเสร็จในเร็วๆนี้ แต่จนแล้วจนรอดก็เลื่อนออกไปแล้ว เลื่อนออกไปอีก แถมยังต้องรอรายละเอียดปลีกย่อยรหลังไปเจรจากับทางผู้ร่วมทุน เพราะต้องรายงานถึงแผนการปรับโครงสร้างการบริหารต่อผู้ถือหุ้นแบบนี้...มันจะไปรอดไหมหนอ

* ประกอบกับตัวเฮียแกเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเสร็จทันตามกำหนดที่พูดไว้ เพราะไม่ต้องการเพิ่มทุนแล้วต้องกลับมาเพิ่มอีก มันเป็นการลงทุนที่เปล่าประโยชน์ มิหน่ำซ้ำยังทำให้เงินของกระทรวงการคลังหร่อยหรอไปเป็นจำนวนมาก มันก็เป็นเรื่องที่น่าคิดหนักไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เพราะหมายหมั้นปั้นมือกันมาหลายยุคว่า ในอนาคต ธ.ทหารไทย จะมีกำไรและมีความยั่งยืน...แต่สุดท้ายก็ยังเจ๊งกะบงทั้งปีทั้งชาติ อิอิอิ

*ร้อนถึงเฮียสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารเพราะดันมีข่าวออกมาว่า S&P ปรับเกรดธนาคารจาก Stable เป็น Negative เฮียถึงต้องออกมายืนยัน นอนยัน และนั่งยันว่า ธนาคารยังคงมีสถานภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งและสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ(แล้วเพิ่มทุนหาอะไรมิทราบ)

*โดยเฉพาะการหยิบยกประเด็นเรื่องความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 10.6% ซึ่งสูงกว่า 8.5% อันเป็นเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดขึ้นมาพูด พร้อมกับบอกว่าจะเร่งเสริมให้ระดับความเพียงพอของเงินกองทุนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 12% ในอนาคตอันใกล้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินยิ่งขึ้นและให้อยู่ในระดับเดียวกันกับคู่แข่งในฐานะที่เป็นธนาคารชั้นนำของประเทศ ถือเป็นคำพูดปลอบใจที่เลิศหรูอลังกาลมากๆ นะตัวเอง

*เนื่องจากนายแบงก์ทุกแห่งรู้หมดไส้หมดพุงว่า หาก TMB เพิ่มทุนไม่สำเร็จตามแผนที่วางไว้ การดำเนินงานในอนาคตมีปัญหาแน่ๆ แถมก่อนหน้านี้มีข่าวลือที่เมืองนอกพูดกันหนาหูว่า ถ้าดีบีเอสไม่ยอมเพิ่มทุน อนาคตธนาคารแห่งนี้ก็จะดับสนิทในทันที...บอกตามตรงว่า "โมนิก้า" เสียวไส้แทนเหลือเกินเจ้าค่ะ

*ถัดจากหุ้นเน่าๆ ก็ลองหันมาดูหุ้นบลูชิพยอดนิยมอย่าง หุ้นกลุ่มพลังงาน กันบ้างจะดีกว่า...เพราะก่อนหน้านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ราคาหุ้นที่บอกว่าแพงนักแพงหนา เอาเข้าจริงราคาหุ้นก็ยังเดินหน้า และไต่ระดับข้นไปทำราคาสูงสุดใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา "โมนิก้า" ถึงต้องออกมาย้ำว่า คิดจะเล่นหุ้นพื้นฐานดีมีอนาคตไกล ก็อย่ากังวลเรื่องราคาจนเกินเหตุเพราะคราที่เกิดอาการลังเลมักลงเอยด้วยการ เตะหมูเข้าปากหมา เป็นประจำนะตัวเอง

*โดยเฉพาะในรายของ PTTEP "โมนิก้า" ย้ำเตือนเสมอว่า ราคาหุ้นระดับ 100บาทต้นๆ นั้นถูกเกินไปสำหรับ หลุมก๊าซที่มีอยู่ในมือมูลค่าหลายพันล้านบาท และหากเปรียบเทียบกับอนาคตอันโชติช่วง เพราะธุรกิจก๊าซถูกผูกขาดแบบเบ็ดเสร็จมาแต่ไหนแต่ไรเดี๊ยนถึงมั่นใจว่า ซื้อได้วันยันค่ำ(แต่ต้องดูภาพรวมตลาดว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลงด้วยนะจ๊ะ)

*หนักไปกว่านั้นก็คือ หาก PTT ถูกถอดถอนออกจาตลาดหลักทรัพย์ฯ จริงๆ คงเป็นหายนะของตลาดหุ้นไทยเลยก็ว่าได้ เพราะใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่า หุ้นตัวนี้เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และการลงทุน แต่สุดท้ายกลับถูกยึดคืนกลับไปสู่การบริหารงานรูปแบบเดิมๆ คงไม่มีนักลงทุนต่างชาติหน้าไหนกล้าเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกแล้วหล่ะ

*ทางที่ดีช่วงนี้เก็บเนื้อเก็บตัวกันสักหน่อยจะดีกว่านะค่ะ



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com