บิ๊ก TKS มั่นใจราคาหุ้นพุ่งเพราะวูบมานาน-นลท.เห็นแนวโน้มธุรกิจโต
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยกับ eFinancethai.com ถึงราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงในเช้าวันนี้ว่า คาดว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้ราคาหุ้นได้ปรับลดลงมานาน ดังนั้นเมื่อนักลงทุนเห็นทิศทางของตลาดหุ้นที่ปรับตัวดีขึ้นจึงกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง ประกอบกับ ปัจจุบันถือได้ว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามราคาหุ้นที่ลดก่อนหน้านี้ แถมยังมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นตามธุรกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จึงคาดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้งในวันนี้
- เซียนหุ้นฟันธงหลังจากนี้หุ้นเล็กมาแรงแน่
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ เปิดเผยว่าสาเหตุที่หุ้นเก็งกำไร ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปขนาดเล็กหลายตัวมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้า เช่น บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APURE เพราะนักลงทุนเปลี่ยนตัวเล่น หลังจากที่หุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่พักฐานและมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง
นางสาว ศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า เป็นเพราะช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อเก็งกำไรในหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ และหุ้นพื้นฐานดีเป็นจำนวนมาก วันนี้จึงอาจมีการพักฐานในหุ้นกลุ่มใหญ่ นักลงทุนจึงเปลี่ยนมาซื้อเก็งกำไรในหุ้นเหล่านี้
ขณะที่นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่งกล่าวว่า หลังจากนี้หุ้นเก็งกำไรคงกลับเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนลง โดยวานนี้นลท.ต่างชาติขายสุทธิ 626.04 ลบ. ซึ่งถือเป็นการขายสุทธิครั้งแรกหลังจากที่ซื้อสุทธิต่อเนื่องมานาน
ดังนั้น อาจมีผลให้นักลงทุนบางกลุ่มหันมาเล่นหุ้นขนาดเล็กที่ไม่มีผลกระทบจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่แทน
"หลังจากนี้บทบาท การลงทุนน่าจะเป็นบทบาทของนักลงทุนรายย่อย เพราะหุ้นใหญ่โดนขาย และหุ้นเล็กก็ไม่ได้รับผลบกระทบจากการขายของนักลงทุนต่างชาติ การเล่นก็คงเน้นเล่นสั้นในวันเดียวมากว่าถือต่อเนื่องกันหลายวัน"
เขากล่าวอีกว่า ยอมรับว่าหุ้นขนาดเล็กหากมีการเคลื่อนไหวหวือหวาก็จะถูกจับตามองจากทางตลาดหลักทรัพย์ แต่เชื่อว่านักลงทุนไม่ได้สนใจนัก เพราะเชื่อว่า ตลท.ทำตามหน้าที่เท่านั้น และการเล่นเก็งกำไรในหุ้นที่เคลื่อนไหวหรือหวาก็น่าจะยังอยู่ต่อไป
- มูดี้ส์ ลดอันดับเครดิต TRUE Corp. กดดันการลงทุนหุ้นใหญ่
มูดี้ส์ลดอันดับเครดิต TRUE Corp. จาก Ba3 เป็น B1 มุมมองมีเสถียรภาพ หลังไม่มั่นใจว่าการรีไฟแนนซ์หนี้ที่จะครบกำหนดชำระวันที่ 30 กันยายนนี้ แต่ปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ค้ำประกันไม่ด้อยสิทธิเป็น B1 เพิ่มมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือจาก เชิงลบ เป็น มีเสถียรภาพ หลัง DBS Bank ตอบรับจะให้เงินกู้รีไฟแนนซ์
รายงานข่าวจากสถาบันจัดอันดับความมูดี้ส์อินเวสเตอร์สเซอร์วิส หรือ มูดี้ส์ระบุวันนี้ว่า มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเครือองค์กรของ TRUE Corp.จาก Ba3 เป็น B1 มุมมองมีเสถียรภาพ โดยการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงความหวั่นเกรงเกี่ยวกับความสามารถในการหาแหล่งเงินกู้เพื่อการรีไฟแนนซ์หลังหุ้นกู้ระยะยาวจะครบกำหนดชำระในวันที่ 30 กันยายนนี้
ขณะเดียวกันมูดี้ส์ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของไทยยังเป็นปัจจัยลบต่อสถานะทางการเงินของ TRUE Corp. ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินการขอเงินกู้ นอกจากนี้ TRUE Corp.ยังเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนด้านกฎเกณฑ์ในอุตสหากรรมโทรคมนาคมไทยอีกด้วย จากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวทำให้มูดี้ส์เห็นว่า อันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ B สอดคล้องต่อสถานะการเงินในปัจจุบันของ TRUE Corp.
อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ไม่ค้ำประกันไม่ด้อยสิทธิของ TRUE Move มาอยู่ที่ระดับ B1 พร้อมยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือเครือองค์กรของ TRUE Move ที่ระดับ B1 และเปลี่ยนมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือทั้งสองจาก เชิงลบ เป็น มีเสถียรภาพ
การเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือและมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จในขอสินเชื่อจากธนาคาร DBS Bank เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้ธนาคารในประเทศ ทั้งนี้ มูดี้ส์ระบุว่า สถานะอันดับความน่าเชื่อถือระหว่าง TRUE Corp. และ TRUE Move มีความสัมพันธ์ต่อกันไม่มาก เนื่องจากรายได้จาก TRUE Corp. คิดเป็นสัดส่วน 43% ของรายได้รวมของ TRUE Corp. ซึ่งมีโครงสร้างรายได้ที่หลากหลาย
อย่างไรก็ตาม การปรับลดจ้ำหลักการลงทุนของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือเหล่านี้ อาจจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ และนำไปสู่การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่ต่างชาติไม่เข้ามาแตะต้อง ซึ่งจะส่งผลให้บรรยากาศการเล่นหุ้นเก็งกำไรกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากนี้ โดยเฉพาะหุ้นเก็งกำไรที่ได้รับการจับตามองจาก ตลท.ที่เคยมีประวัติโชกโชนและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักลงทุนเก็งกำไรมาก่อน