May 6, 2024   1:00:53 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เวทีวิเคราะห์
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 07/06/2007 @ 09:52:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ซื้อ MAJOR เป้าหมาย 19 บาท
บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง(ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน):แนะนำ "ซื้อลงทุน"MAJOR ราคาเป้าหมาย 19 บาท/หุ้น
หลังจากทำกำไรสูงในไตรมาสแรก MAJOR มีแนวโน้มจะมีกำไรดีต่อเนื่องในไตรมาส 2/50 จากกำไรจากการจัดตั้งกองทุนฯ และภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ซึ่งทำรายได้สูง ในเดือน เม.ย.?พ.ค. โดย กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) จะเสนอขายในวันที่ 13-21 มิ.ย. ที่ราคา 10 บาท/หน่วย คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ต้นเดือน ก.ค. ขนาดกองทุน 2,300 ล้านบาท การออกกองทุนคาดว่าจะทำให้ MAJOR บันทึกกำไรหลังหักภาษี 30% ในไตรมาส 2/50 ที่600-1,000 ล้านบาท และจะได้รับค่าธรรมเนียมจากการเป็นผู้บริหารสินทรัพย์ในอัตราไม่เกิน 0.3% ของรายได้ ค่าธรรมเนียมจากการบริหารสินทรัพย์ไม่เกิน 0.3% ของ NAV กองทุนต่อปี และ Performance fee ไม่เกิน 2.35% ของกำไร การที่ MAJOR ถือกองทุน 33% ทำให้ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกองทุนรวมทั้งเงินปันผลคาดว่ามีอัตราผลตอบแทน8.24% จากกำไรปี 2550

ซื้อ AP เป้าหมาย 5.55 บาท
บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน):แนะนำ "ซื้อ"AP ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2550 อยู่ที่ 5.55 บาท จากประเมิน Backlog ณ ปัจจุบันมียอดรวมอยู่ที่ 13.5 พันล้านบาท โดยที่เป็นสัดส่วนของบ้านเดี่ยวและทาวเฮ้าส์ประมาณ 2.2 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นโครงการคอนโดมิเนียม สำหรับงวดQ2/50 การบันทึกรายได้เกือบทั้งหมดจะมาจากโครงการบ้านเดี่ยวและทาวเฮ้าส์ แต่สำหรับงวด Q3/50 เป็นต้นไป และเฉพาะอย่างยิ่ง Q4/50 การบันทึกรายได้จะสูงมาก เนื่องจากมีการโอนฯโครงการบ้านกลางกรุงสยาม-ปทุมวัน มูลค่าโครงการ 2.9 พันล้านบาท จะทำให้ทั้งรายได้ และกระแสเงินสดของ AP มีจุด Peak ใน Q4/50 ส่วนแผนทางการตลาดในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2550 AP จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อีก 3 โครงการ ภายใต้ Brand เดิมคือ Life@ มูลค่าโครงการ 2.5 พันล้านบาท คาดเปิดตัวครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ยังมีโครงการทาวเฮ้าส์ใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่า 1.71 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ Presale ในปี 2550 ทะลุ 1 หมี่นล้านบาท ด้วยศักยภาพการเติบโตในระยะยาวที่เด่นชัด ทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ ซื้อ

ซื้อ ROJANA เป้าหมาย 17.50 บาท
บริษัทหลักทรัยพ์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด:แนะนำ?ซื้อ?ROJANA มูลค่าพื้นฐานปี51 ที่ 17.50 บาท เพื่อสะท้อนการขายทิ่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่ดีกว่าคาดการณ์ การขยายกำลังผลิตไฟฟ้าที่เป็นไปตามแผนงานระยะยาวของบริษัท และ ฐานลูกค้ารายใหญ่ดังเช่น Honda ที่เป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูงในโครงการ Ecocar ที่เพิ่งได้รับความชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขด้านภาษีสรรพสามิต ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่า ROJANA จะเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์ทางตรงจากโครงการ Ecocar มากที่สุด จะเป็นปัจจัยผลักดันการขอสิทธิพิเศษ BOI ตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป จุดเด่นของ ROJANA ในแง่ของอัตราเติบโตต่อเนื่องของ Recurring Income ยังมีความโดดเด่นเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมรายอื่นๆ โดยบริษัทเตรียมที่จะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 55 เมกกะวัตต์ และกำหนดกำลังการผลิตรวมระยะยาว เท่ากับ 400 เมกกะวัตต์ภายในสิ้นปี 55 คาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะทรงตัวอยู่ในระดับ 60-70% ของรายได้รวมนับตั้งแต่ปี 50 เป็นต้นไป ณ ระดับราคาหุ้นปัจจุบัน หุ้น ROJANA มีอัตราตอบแทนเงินปันผล 7.14% ต่อปี และมี Upside ของราคาหุ้นอีกประมาณ 25%

ซื้อTT&T เป้าหมาย 1.45 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด: แนะนำ?ซื้อเก็งกำไร?TT&T ราคาเป้าหมาย1.45 บาท บริษัทได้ใช้เงินลงทุนในการขยายโครงข่ายต่อเลขหมายใหม่ของโทรศัพท์พื้นฐานอยู่ที่ 15,000-20,000 บาท/เลขหมาย ในขณะที่สินทรัพย์หลักของTT&T คือโครงข่ายภายใต้สัญญาสัมปทาน เนื่องจากโทรศัพท์พื้นฐานได้รับความนิยมลดลงและถูกทดแทนด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ ดังนั้นจึงประเมินมูลค่าโครงข่ายของTT&Tที่EV/subscriber ที่12,000 บาท และผู้ใช้งานที่ 1.5 ล้านรายซึ่งจะได้มูลค่าโครงข่ายปัจจุบันของTT&T ที่ 18,000 ล้านบาท (ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่25,938 ล้านบาท)คิดเป็นNAV.1.55 บาท/หุ้น ซึ่ง ณ ราคาเหมาะสมที่1.45 บาท มีส่วนลดจากNAV.6% และสะท้อนการด้อยค่าของมูลค่าโครงข่ายแล้วถึง 30.6% จากมูลค่าปัจจุบัน แม้จะมีความเสี่ยงทางธุรกิจแต่พิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ที่ต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมมาก TT&T ดังนั้นแนะนำ?ซื้อเก็งกำไร? ซึ่งราคาหุ้นunderperform มานานจากผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง แต่ตลาดได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าวและราคาตอบสนองไปมากแล้ว ดังนั้นตลาดจะให้ความสนใจTT&T มากขึ้น


[/color:723452d1f9">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com