Z-Strategy
ปัจจัยแวดล้อมมีทิศทางเป็นลบ จะกดดันการเคลื่อนไหวของดัชนี แต่ภาพบวกระยะกลางไม่เปลี่ยน รอสะสมเมื่อดัชนีอ่อนตัว (แนวรับ 750 - 755จุด) ในกลุ่มที่สัมพันธ์กับการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ
Technical Analysis
การเกิด Doji เหนือ gap บริเวณ 755-758 จุด แสดงถึง การเป็น แนวรับที่สำคัญ คาดว่าดัชนีจะสามารถทรงตัวเหนือระดับดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ดีดตัวทดสอบ Down Trend Line บริเวณ 780 จุดได้ต่อไป
? TCAP: เข้าสู่การพักฐานระยะกลางเคลื่อนตัวราว 12.00-13.00 บาท ช่วงสองปีที่ผ่านมาเหนือ Up Trend Line กอปรกับ สัญญาณ MACD ที่ ฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก บ่งบอกถึงโอกาสของการปรับเปลี่ยนแนวโน้มหลัก
? ACL: การอ่อนตัวหลังเกิด Tower Bottom มีนัยการพักฐานระยะสั้น ที่บริเวณ 4.80-5.00 บาท ก่อนจะดีดกลับทดสอบแนวบรรจบของเส้นค่าเฉลี่ยเส้นหลักๆ ได้บริเวณ 7.00-7.50 บาท
? SINGHA: สัญญาณซื้อที่เพิ่งพบใน RSI และ Stochastic แสดงถึง โอกาสการเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น รอขายเมื่อดีดตัวถึงเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บริเวณ 2.80 บาท
Z-Focus
News Comment
? PS: ผู้บริหารมั่นใจยอดขายไตรมาส 2/50 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ - ซื้อ
Statistic Info
ปฏิทินหุ้น, รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร
NVDR, Warrants
Z-Focus
PS : ผู้บริหารมั่นใจยอดขายไตรมาส 2/50 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ - ซื้อ
สัมภาษณ์ผู้บริหาร
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ PS กล่าวว่ายอดขาย 2 เดือนแรกของไตรมาส 2/50 สูงถึง 2.0 พันล้านบาทแล้วเทียบกับไตรมาส 1/50 ทั้งไตรมาสที่ทำได้ 2.4 พันล้านบาท ทำให้เชื่อว่าทั้งไตรมาส 2/50 จะทำยอดขายได้ถึง 3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี
ความเห็นนักวิเคราะห์
ยอดขายไตรมาส 2/50 มีโอกาสสำเร็จตามคาดจากการรุกเข้าสู่โครงการคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า
ยอดขายในไตรมาส 2/50 นับว่าสดใสมาก เป็นผลจากการปรับกลยุทธ์เพิ่มโครงการคอนโดมิเนียม โดยในเดือน พ.ค. 50 ได้เปิดคอนโดมิเนียม ไอวี่ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้นที่รัชดาภิเษก ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน มูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ถึง 650 ล้านบาทได้แล้วภายใน 2 สัปดาห์ และบริษัทจะเปิดขายส่วนที่เหลือในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะปิดการขายได้ไม่ยาก ทำให้ยอดขายไตรมาส 2/50 มีโอกาสประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของบริษัท
จะไม่ส่งผลต่อการดำเนินงานปี 50 ทำให้ผลการดำเนินงานปี 50 ค่อนข้างทรงตัว
หากพิจารณารายละเอียดยอดขายไตรมาส 2/50 ในช่วง 2 เดือนแรก ซึ่งประกอบด้วยยอดขายคอนโดมิเนียม 650 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ 1,360 ล้านบาท ยอดขายคอนโดมิเนียมคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีหน้าเมื่อดำเนินการโอนในปี 51 แต่ยอดขายแนวราบซึ่งเป็นตัวผลักดันผลการดำเนินงานปีนี้พบว่ามีการชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/50 โดยมียอดขายเฉลี่ยต่อเดือนเพียง 675 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 1/50 ที่ทำยอดขายแนวราบได้ประมาณเดือนละ 800 ล้านบาท ทำให้เราคิดว่าผลประกอบการปี 50 จะไม่สะท้อนความสำเร็จของยอดขายที่เกิดขึ้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 50 เติบโตเพียง 3% เท่ากับ 1,350 ล้านบาท
แต่จะทำให้ปี 51 เติบโตก้าวกระโดด ปรับคำแนะนำเป็น ?ซื้อ?
แม้ระยะสั้นเราคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/50 ยังมีโอกาสลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจาก Backlog ที่ลดลงและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารที่ยังอยู่ระดับสูง แต่เราคาดว่าหลังการเมืองมีความชัดเจนขึ้น จะส่งผลดีต่อความมั่นใจผู้บริโภค และกำลังซื้อบ้านโดยเฉพาะบ้านระดับกลาง-ล่าง รวมกับความสำเร็จของโครงการคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นจะช่วยผลักดันการดำเนินงานในปีหน้าให้เติบโตก้าวกระโดด โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิปี 51 จะเติบโต 20% เป็น 1,643 ล้านบาท ดังนั้น เราจึงปรับราคาตามปัจจัยพื้นฐานเป็น 7.4 บาท (P/E 10 เท่าปี 51) และปรับคำแนะนำเป็น ?ซื้อ?
รุ่งรัตน์ สุนทรปกาสิต - No. 3940,