May 6, 2024   3:06:39 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หาหุ้น ?กิ๊ก? ฆ่าเวลา?
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 06/06/2007 @ 12:49:33
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ระยะสั้นดัชนีราคาหุ้นเริ่ม ?ติดสัญญาณไฟแดง? เมื่อมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเข้ามาในหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่เนื่องจากผลตอบแทนจากการลงทุนระยะสั้นที่สูงและเร็วเกินไป ทำให้มีการขายทำกำไรระยะสั้นเพื่อลดความร้อนแรงของตลาด ทำให้นักลงทุนระยะสั้นต้องเพิ่มปริมาณเงินสดในมือเพิ่มขึ้น และเริ่มหาหุ้นประเภท ?กิ๊ก? ตัวเล็กๆมาคั่นจังหวะการลงทุนระยะสั้นระหว่างที่รอ ?พี่ใหญ่? ถูกเชือดเลือดไหลในสนามนักลงทุน ขณะที่เสียงปลอบใจคือ ?หุ้นไทยปัจจัยพื้นฐานดี? ถ้าไม่พูดอย่างนี้ใครจะยืนให้ ?เชือดนิ่ม? จากบทวิเคราะห์การลงทุนที่เสนอแนวคิดการลงทุน ชนิดถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ซึ่งเป็นข้อมูลอ้างอิงประกอบการตัดสินใจ ส่วนเชื่อไม่เชื่อนั้นควรเป็นคำตอบสุดท้ายของนักลงทุนเองเป็นรายบุคคล Fund Flow & Yen carry trade อาจจะเป็นตัวอย่างหนึ่งของเหตุผลที่ดูดี และเหตุผลที่ติดหุ้น ในขณะเดียวกันความเชื่อเหล่านี้อาจจะเป็นตัวแปรที่ทำให้กำไรเพิ่มเช่นกัน แต่ในทางตรงกันข้าม การระมัดระวังและไม่ประมาทในการลงทุน พร้อมทั้งมีเหตุผลมักจะเป็นตัวช่วยสำคัญ

สำหรับนักลงทุนไม่ให้ตกอยู่ภายใต้การสะกดของมนต์ ?นะจังงัง? ทำอะไรไม่ถูกเวลาตลาดหุ้นเกิดมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของตลาดหุ้นอย่างรวดเร็ว เพราะฝรั่งคงไม่โง่ถึงขนาดที่จะตะโกนบอกเราว่า ?นี่ยูระมัดระวังหน่อยนะ ไอจะขายหุ้นแล้ว? และขายอย่างรวดเร็วโดยนักลงทุนที่ตั้งรับหายใจไม่ทัน กว่าจะนึกออกปรากฏว่าตัวหายไปครึ่งหนึ่ง เพราะ ?งูเหลือมตลาดหุ้น? กลืนเข้าไปครึ่งตัว หมายความว่า ราคาหุ้นที่ซื้อมาลดไป 5 -15 % แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับราคาทุน ดังนั้นนักลงทุนเองต้องปรับกลยุทธ์ให้ฝรั่ง ?อ่านเราไม่ออก? เช่นกันเพราะเกมในตลาดหุ้นนั้น นอกจากเป็น Money Game แล้วยังเป็น Guest what next?

มีตำนานเรื่องเล่าเป็นนิทานในตลาดหุ้นว่า หากเมื่อไหร่ตลาดหุ้นเริ่มมี นักลงทุนหน้าใหม่แปลก ๆ เข้ามาในห้องค้า จงระวังเถิดว่า ราคาหุ้นนั้นใกล้ จุดหักมุม (Turning Point) เข้าไปทุกที จริงไม่จริง นักลงทุนต้องหาคำตอบเอาเอง แต่จากที่ไก่ทองใกล้ชิดตลาดหุ้นมาตั้งแต่สมัยเคาะกระดาน ความเห็นดังกล่าวใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด แต่ปัญหาคือเราคิดเร็วไปหรือเปล่า ? เพราะบางครั้งกลัวมากกลายเป็นเสียโอกาสกล้ามากกลายเป็นเสียใจ คงต้องเน้นเดินทฤษฎี ?พอเพียง? กับตลาดหุ้นจะเป็นเรื่องแปลกหรือไม่ เพราะตลาดหุ้นเดินเกมด้วย ?ความโลภและความกลัว? ซึ่งสิ่งที่ติดตามมาเป็น ?โอกาส และวิกฤติ? ส่วนความน่าจะเป็นนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครอ่านเกมได้เก่งกว่า และตัดสินใจเร็วกว่าก็มีโอกาส ?หยิบเงิน? จากตลาดหุ้นไปใส่กระเป๋าใช้จ่าย

หันมาดูมุมมองทางเทคนิคบ้างตลาดหุ้นระยะสั้นให้ ?ฟรีเมี่ยม? กับนักเก็งกำไรค่อนข้างสูงสังเกตุจากดัชนีหนีค่าเฉลี่ยขึ้นไปรวดเร็วทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งหันมาคว้ากำไรก่อน แล้วหาจังหวะในการลงทุนใหม่ แต่ตลาดยังรักษาแนวโน้มขึ้นต่อไป โดยมีเส้นแบ่งกลางบริเวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 -25 วันเป็นแนวหนุนและการฉีกหนีค่าเฉลี่ยมากกว่า 5 -10 % ในระยะเวลาอันสั้นเป็นจุด ?หักมุม? ขายทำกำไร และมีทางเลือกคือ ?การถือเงินสด หรือย้ายตัวเล่น?

หรือการรอดูทิศทางหากไม่แน่ใจ สถานการณ์ หรือบรรยากาศ ดังนั้นกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีระยะสั้นจะอยู่ในกรอบ 740 ? 790 จุดหรือเรียกว่าตลาดหุ้น ?ตีปิงปอง? ฝึกทักษะการวิ่งเข้าวิ่งออกของนักลงทุน และเล่นเก้าอี๊ดนตรี ประเภท ?ย้ายตัวเล่น? เพื่อรักษาระดับการเก็งกำไรไม่ให้เสียศูนย์ เพราะหากตลาดลงรุนแรงจนเสียศูนย์การ?วกกลับ? จะต้องใช้เวลา ทรัพยากรทางการเงินที่สูงขึ้น เพราะเท่ากับเป็นการเริ่มเกมใหม่เครื่องไม่ร้อนอะไรประมาณนั้น

สำหรับกลยุทธ์ คาดว่าระยะสั้นนั้น ?ความไม่ประมาทในการเก็งกำไรเป็นยุทธวิธีที่ประเสริฐในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย? ดังนั้น การเลือกตัวหุ้นมากขึ้น และการเลือกจังหวะในการลงทุนมากขึ้น คาดว่าน่าจะมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยง แต่ไม่ทำให้เสียจังหวะในการลงทุนและการทำกำไร หากเชื่อในแนวคิดว่าตลาดยังเป็นกระทิงต่อ เพียงแต่ต้องมีการปรับตัวบ้าง ยังคงสามารถถือหุ้นที่ต้นทุนได้เปรียบตลาดได้ แต่หากต้นทุนสูงกว่าราคาตลาดมาก และคาดว่าเสียเปรียบคงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยขายออก หรือเปลี่ยนตัวเล่น หรือซื้อเพิ่มเพื่อเฉลี่ยต้นทุนให้ถึงจุดคุ้มทุนและมีกำไรเร็วขึ้น สำหรับหุ้นในพอร์ตหลัก ส่วนหุ้นเกรดเก็งกำไรนั้นคงเน้นการย้ายตัวเล่น และสลับตัวเล่นประกอบการตัดสินใจมากขึ้นประกอบ

SICCO หุ้นกลุ่มเงินทุนเกรดต่อแถว แต่ราคาหุ้นนั้นค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นทางบัญชีที่อยู่ที่ระดับ 6.92 บาทต่อหุ้น ขณะที่ราคาตลาดนั้นอยู่ที่ระดับประมาณ 4.18 บาท(ขณะที่เขียน) ดูมุมมองทางเทคนิคแล้วต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนระยะสั้นอยู่บริเวณต่ำกว่า 4.50 บาท ดังนั้นเมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นทางบัญชีก็ถือว่า หุ้นยังมี ?ส่วนลด? ประมาณ 30% เมื่อเทียบกับราคายุติธรรม หากเชื่อว่า ราคายุติธรรมที่แสดงให้นักลงทุนรับรู้นั้นไม่ ?ตอแหล? เพราะเป็นหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน ที่มีการตรวจสอบและควบคุมอย่างใกล้ชิดจากธนาคารชาตและหน่วยงานอื่น ๆ ดังนั้นจุดที่นักลงทุนและนักเก็งกำไรต้องติดตามคือ ?สภาพคล่อง? เพราะองค์ประกอบอื่น ๆ พร้อมแล้วเหลือแต่การเข้ามา ?จุดพลุ? ของคนที่มีความเห็นเหมือนกันส่วนความเห็นทางเทคนิคนั้น เพิ่งเริ่มเดินทางเกียร์หนึ่ง

สำหรับหุ้นประเภท ?กิ๊ก? เล่นกันแบบ Money Game ชั่วคราวประเภทจับแล้ว ?นอนไม่หลับ? แต่เวลาเก็งกำไรแล้ว รู้สึก ?กลัว ๆ กล้า ๆ เสียว ๆ ไม่กล้ากระพริบตา? ยังเป็นหุ้นตัวเล็กที่คั่นเวลาตามสภาพ เช่น ASL APURE TMB SYNTEC DE DISTAR ส่วนหุ้นพักแล้วพื้นได้แต่รอบรอบหน่อยยังเป็น IRPC SCIB BT CPF เป็นต้น (แสดงความคิดเห็นผ่าน Email : cnantawat@yahoo.com)


[/color:fafab8e4bf">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com