คาด SET Index เช้านี้พักฐานต่อ หลังหุ้นนอกลบนำ-แรงขายทำกำไรยังไม่สะเด็ดน้ำ

โบรกฯ คาด SET Index เช้านี้มีโอกาสปรับลดลงต่อ
เหตุหุ้นนอกที่ยืนแดนลบส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุน
แถมแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ยังมีอยู่ แนะเก็บหุ้นจิ๋วที่มีข่าวดีใหม่หนุนแทนลุยหุ้นใหญ่
ให้แนวรับไว้ที่ 750 จุด ส่วนแนวต้านไว้ที่ 765 จุด

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.แอ๊คคินซัน
กล่าวถึง แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเช้าวันนี้ว่า
น่าจะมีการปรับตัวลดลงคล้ายกับเมื่อวานนี้ เนื่องจากดัชนีฯยังอยู่ในช่วงของการพักฐาน
หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง
ประกอบกับตลาดหุ้นต่างประเทศก็มีการปรับตัวลดลงเช่นกัน
จึงปัจจัยที่กดดันจิตวิทยาการลงทุนในวันนี้ด้วย
โดยดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดที่ระดับ 13595.46 ลดลง 80.86 หรือ 0.59%
ส่วนดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เวลา 08:23 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
อยู่ที่ระดับ 18,046.54 จุด ลดลง 7.27 จุด

ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในวันนี้ไม่น่าจะมีผลต่อการปรับตัวของหุ้นในกลุ่มพลังงาน
เพราะมองว่าปัจจัยที่กดดันการปรับตัวของหุ้นทุกกลุ่มน่าจะเป็นผลมาจากตลาดหุ้นในภูมิภาคมากกว่า
โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกรกฎาคม
ที่ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดที่ราคา 65.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 60 เซนต์

กลยุทธ์การลงทุนให้นักลงทุนปรับลดความเสี่ยง
โดยให้รอดัชนีฯพักฐานระยะหนึ่งก่อนจึงค่อยๆซื้อ
ประเมินแนวรับไว้ที่ 750 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 765 จุด

ส่วนนางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เค
ทีบี เปิดเผยว่า
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้ (6 มิ.ย.50) มีโอกาสปรับลดลงต่อเนื่องจากวานนี้
เพราะอาจจะได้รับแรงกดดันจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง

โดยในวันนี้ดัชนีดาวโจนส์ ปรับลดลง 80.86 จุด อยู่ที่ระดับ 13595.46 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปรับลดง 56.96 จุด อยู่ที่ระดับ 7919.83 จุด
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปรับลดง 7.06 จุด อยู่ที่ระดับ 2611.23 จุด
และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปรับลดลง 47.27 จุดอยู่ที่ระดับ 6078.54 จุด
ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุน

ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลง
คาดว่าไม่มีนัยสำคัญต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานและบรรยากาศการลงทุนโดยรวม เนื่องจากเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก
โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลดลง 60 เซนต์ อยู่ที่ระดับ 65.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

ปัจจัยภายนอกประเทศในวันนี้จะมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่าปัจจัยในประเทศ
จึงคาดว่าช่วงเปิดตลาดฯ ดัชนีฯ มีโอกาสจะปรับลดลงแต่คงไม่แรงเท่าเมื่อวานนี้
ส่วนการที่ ครม.อนุมัติผ่อนปรนประกาศ คปค.ฉบับที่ 15
ก็ถือว่าเป็นปัจจัยบวก จึงเป็นข่าวดีที่ช่วยพยุงตลาดฯ ได้ นางสาวสุภากร กล่าว

กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำเลือกลงทุนในหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีข่าวบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน
ส่วนหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ควรรอซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว หลังจากที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมากแล้ว
โดยให้แนวรับไว้ที่ 750 จุด ให้แนวรับถัดไปไว้ที่ 742 จุด
และให้แนวต้านไว้ที่ 773 จุด ให้แนวต้านถัดไปไว้ที่ 780 จุด

ขณะที่นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน
กล่าวถึงแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้( 6 มิ.ย. 50) ว่า
น่าจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบ เพราะอาจมีแรงเทขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มมาร์เก็ตแคปใหญ่
ที่มีอิทธิพลต่อการคำนวณดัชนีฯอย่างกลุ่ม พลังงาน และธนาคารพาณิชย์
ประกอบกับแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอลงต่อ
หลังจากช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 1 - 5มิถุนายนได้เข้าซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องกว่า 15,515 ลบ.

ส่วนปัจจัยตลาดหุ้นต่างประเทศในส่วนของตลาดหุ้นจีนที่วานนี้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้ง
หลังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีนเห็นชอบให้มีการจัดตั้งกองทุนรวม
เพื่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ 3 กองทุนซึ่งนับว่าสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
มองว่าไม่น่าส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก
เนื่องจากนักลงทุนให้ความสำคัญกับปัจจัยภายในที่สำคัญอย่างสถานการณ์การเมืองและการร่างรัฐธรรมนูญมากกว่า
โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 3,767.10 จุด เพิ่มขึ้น 96.70 จุด หรือ 2.63 %

กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัวในหุ้นพื้นฐานดี อย่างกลุ่มพลังงาน
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์
ประเมินแนวรับไว้ที่ 750 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 770 จุด