May 5, 2024   11:13:15 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเด่น.....หุ้นดิ่ง.....เช้าวันพุธ
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 06/06/2007 @ 10:30:10
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

BBL
โครงสร้างรายสัปดาห์เป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนราคาหุ้นรายวันที่อ่อนตัวลงมาที่ระดับ 116 บาท เรามองว่าเป็นอ่อนตัวลงเพื่อปรับฐาน เนื่องจากก่อนหน้านี้หุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปมาก อย่างไรก็ตามหากหุ้นไม่หลุดแนวรับ 115 บาท เราคาดว่าหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นต่อระยะนี้แนะซื้อเมื่ออ่อนตัวคำแนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

EGCO
โครงสร้างราคาหุ้นรายสัปดาห์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาหุ้นจะไม่สามารถผ่านแนวต้าน 110 บาท แต่เมื่อมองสัญญาณทางเทคนิค RSI และ Slow Stochastic ยังปรับตัวเป็นสัญญาณซื้ออย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นหากหุ้นอ่อนตัวลงในระยะนี้นักลงทุนควรหาจังหวะซื้อเมื่ออ่อนตัวคำแนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

SAMART
ราคาหุ้นรายสัปดาห์ปรับฐานลงมาที่ระดับ 10.00 บาท และมาทรงตัวที่ระดับ 8.50บาทเป็นหลัก เรามองว่าระดับนี้เป็นฐานรอบใหม่ของหุ้นรายนี้ เพราะเมื่อสังเกตราคาหุ้นรายวันพบว่า ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านเส้น10,25 วัน เป็นลำดับ ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นอีก หลังสัญญาณทางเทคนิคได้ปรับตัวเป็นสัญญาณซื้อชัดเจนคำแนะนำ ซื้อลงทุน

RCL
แม้โครงสร้างราคาหุ้นรายสัปดาห์และรายสัปดาห์ จะปรับตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย แต่เมื่อสังเกตสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกว่าแรงซื้อมากเกินไป ประกอบกับวอลุ่มที่เข้ามาสนับสนุนเริ่มเบาบาง รวมทั้งราคาหุ้นไม่สามรถผ่านแนวต้านระดับ 33.00 บาท เราจึงคาดว่าหุ้นได้เวลาปรับฐานรอบใหม่อีกครั้งคำแนะนำ หาจังหวะขาย

KEST
โครงสร้างราคาหุ้นรายสัปดาห์ยังเป็นขาลง ส่วนราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงกว่า 1เดือน ที่ระดับ 23.60 บาท น่าจะเป็นการรีบาวดน์ทางเทคนิค ขณะเดียวกันราคาหุ้นที่ปรับตัวแรงในรอบนี้ส่งผลให้สัญญาณทางเทคนิค RSI และ Slow Stochastic เริ่มอยู่ในภาวะแรงซื้อมากเกินไป ระยะนี้น่าจะระวังแรงเทขายเป็นหลัก เพราะเมื่อสังเกตวอลุ่มที่เข้ามาเริ่มเบาบางบ้างแล้วคำแนะนำ ระวังแรงเทขาย

EWC
แม้ราคาหุ้นรายสัปดาห์จะปรับตัวแรงกว่า 3 สัปดาห์ แต่โครงสร้างใหญ่ๆหุ้นรายนี้ยังเป้นาลงอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันการทดสอบระดับ 8.00 บาท หุ้นไม่สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ ส่งผลให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาที่ระดับ 7.45 บาท และทำให้สัญญาณทางเทคนิคได้ปรับตัวเป็นสัญญาณขาย ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นรายนี้จะปรับตัวลงเพื่อทดสอบระดับ 6.50 บาทเป็นหลักคำแนะนำ หาจังหวะขาย

 กลับขึ้นบน
พ๊ง
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
#1 วันที่: 06/06/2007 @ 10:30:58 :
[b:9a2cce6871">STOCKFOCUS: จับตาหุ้นเด่นวันนี้ [/b:9a2cce6871">

*TMB
-พร้อมจ่ายดอกเบี้ย Hybrid ราว 200 ลบ.หากธปท.อนุมัติแม้อาจขาดทุน ระบุปี 50 พอร์ตสินเชื่ออาจไม่โตหลังขาย NPA ต่อเนื่อง แต่ CAR ดีขึ้น

*TFI
-"ประยุทธ-สุวิมล" ยังทยอยขายหุ้นให้"เฉลิมชัย-อุษณีย์" ส่งผลให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งและสอง

*PTTEP
-เผยปี 51 ใช้งบลงทุนขุดเจาะและสำรวจ 5.3 หมื่นลบ.ลดลงจากปี 50 ที่มี 5.7 หมื่นลบ. เตรียมขุดขุดเจาะและสำรวจที่อิหร่านเพิ่มอีก1 หลุมปลายปีนี้ เสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด วงเงิน 1.25 หมื่นลบ. มากกว่าแผนที่ระบุไว้ 1 หมื่นลบ. คาดว่าในระยะนี้คงไม่มีการออกหุ้นกู้เพิ่มอีก ยกเว้นว่าจะมีโครงการใหม่ที่จำเป็นต้องใช้เงิน

*RS
-เผย H2/50 มีหนังจ่อคิวฉายอีก 3 เรื่อง หวังรายได้เรื่องละ 40 ลบ. เพื่อให้ได้ 360 ลบ.ตามเป้าหมายรายได้จากภาพยนตร์ในปี 50 ขณะที่ปี 51 ตั้งเป้าจะมีหนังเข้าฉายประมาณ 5-6 เรื่อง ใช้งบลงทุนเรื่องละไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยคาดว่ารายได้จากธุรกิจภาพยนตร์จะเติบโตประมาณ 10-20% จากในปีนี้

*KBANK
-ขายตั๋วแลกเงินอายุ 3 และ 6 เดือน ขั้นต่ำ 1 ลบ. ดอกเบี้ย 2.80%

*กลุ่มนิคมฯ-ยานยนต์
-ครม.อนุมัติหลักการโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ประหยัดพลังงานขนาดเล็ก(อีโคคาร์) ไว้ที่ 17% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.52

*AOT
-บอร์ดเตรียมเรียกประชุม 7 มิ.ย.นี้เพื่อหารือแนวทางการต่อสู้คดีหลัง"คิงเพาเวอร์"ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายเกือบ 7 หมื่นล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยจากกรณีที่ AOT ยกเลิกสัญญา

*SIRI
-คาด Q2/50 ยอดขายชะลอตัวจากผลกระทบการเมือง แต่ทั้งปีเชื่อทำได้ตามเป้า ครึ่งปีหลังเปิดโครงการบ้านเดี่ยว ประชาอุทิศ ใน H2/50 ส่วนเฟสใหม่ "เศรษฐสิริ ประชาชื่น" คาดปิดการขายได้ Q3

*UCOM
-DTAC จะเปิดจองซื้อหุ้น IPO 12-13 มิ.ย.กำหนดขั้นต่ำ 500 หุ้น คาดระดมทุนได้ 7.5-8.5 พันลบ.เพื่อลงทุนขยายเครือข่าย เข้าตลาด 22 มิ.ย. พร้อมเพิกถอนหุ้น UCOM หลัง DTAC เข้าซื้อขายเรียบร้อยแล้ว

*RCL
-ซื้อเรือคอนเทนเนอร์ 2 ลำ มูลค่าราว 1.45 พันลบ. รองรับตลาดภูมิภาค

*BSEC
-นสพ.ระบุ ?บล.บีฟิท? เชื่อปีนี้ดันมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นมากกว่า 4% แม้ Q1 ลดลงเหลือแต่ 3.06% เหตุมองสภาวะตลาดหุ้นครึ่งปีหลังฟื้นตัวดีขึ้น รุกเพิ่มสัดส่วน IB หนุนรายได้อีกทาง พร้อมรักษาการซื้อขายผ่าน Internet ในระดับดี เตรียมเปิดการลงทุนใหม่ ชี้แนวโน้มดีต่อการลงทุน

*MINT
-นสพ.ระบุ MINT ยอมรับไตรมาส 2-3 ช่วงโลว์ซีซั่น แต่มั่นใจทั้งปีเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% คาดโรงแรมที่อินโดนีเซียเปิดให้บริการได้ประมาณปลายปีนี้ พร้อมเร่งขยายสาขาธุรกิจอาหารทั้งในและต่างประเทศ

*SOLAR
-นสพ.ระบุ ?โซลาร์ตรอน" มั่นใจแผนรุกขยายตลาดต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะเริ่มส่งผลบวกไตรมาส 2 เป็นต้นไป ?อัครเดช โรจน์เมธา" มั่นใจรายได้ทั้งปีทะลุเป้า 1.1 พันล้านบาทแน่ เผยโรงงานใหม่คืบหน้า เสร็จก่อนสิ้นปีนี้ จะมีกำลังผลิตรองรับการส่งออก จากความต้องการพลังงานทดแทนที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ใน 2-3 ปีข้างหน้า

*EMC/PLE
-นสพ.ระบุ "ชนะชัย" ประกาศล้างภาพบริษัท จากผู้วางระบบขึ้นแท่นเป็นรับเหมารายใหญ่ ภายใน 3 ปี ดันสัดส่วนรายได้รับเหมาเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากปัจจุบัน 30% ยันตั้งใจถือหุ้นยาว รวมพันธมิตรทั้งกลุ่มถือหุ้น 48% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เกิน 2.80 พันล้านบาทเล็งจับมือเพาเวอร์ไลน์ ลุยธุรกิจตะวันออกกลาง

*กลุ่มสื่อสาร
-นสพ.ระบุ ค่ายมือถือมีสิทธิแย่ ถ้าต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเป็น 30% ถ้าไอซีทีเจรจาปรับสัญญาหลังกฤษฎีกาตีความแก้ไขผิดพ.ร.บ.ร่วมทุน โบรกฯ คาด ADVANC กำไรลด 13%ดีแทค 37% ส่วนทรูหนักสุด ขาดทุนเพิ่มอีก 38%

*BBL/ACL
-นสพ.ระบุ แบงก์กรุงเทพลั่นสรุปราคาขายให้พันธมิตรได้ข้อสรุปสัปดาห์หน้าแน่นอน เล็งขายยกทั้งล็อตที่ถืออยู่สัดส่วน 19% เจ้าสัวชาตรี การันตีบีบีแอลมีกำไรทางบัญชีทันที จากก่อนหน้านี้บันทึกผลขาดทุนไปหมดแล้ว

*SECC
-นสพ.ระบุ ผู้บริหารมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีกหลายรุ่น แต่ยังรอประเมินทิศทางเศรษฐกิจว่าจะปรับไปในทิศทางใด โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปบริษัทจะทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในตลาดที่ชื่นชอบรถยนต์ในระดับพรีเมียม

*SYNTEC
-นสพ.ระบุ เตรียมศึกษาแผนบุกตลาดต่างประเทศ ส่วนงานในประเทศยังคงเดินหน้าประมูลไม่หยุดหย่อน ล่าสุดยื่นประมูลแล้วกว่า 20โครงการ ด้านผู้บริหาร ?สมชาย ศิริเลิศพานิช"ไม่โลภมากขอเพียงกวาดงานเข้ากรุสมบัติทั้งหมด ยันทั้งปีรายได้โตตามเป้าแน่ 15-20% แม้บ้านเอื้ออาทรไม่คืบแต่ก็ไม่กระทบ

*TASCO
-นสพ.ระบุ บริษัทเตรียมที่จะขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยเน้นตลาดแถบเอเชียตะวันตก เวียดนาม และออสเตรเลีย จากปัจจุบันตลาดส่งออกหลักของบริษัทคือ จีน ล่าสุดบริษัทส่งออเดอร์ไปแล้วคิดเป็นรายได้ที่จะรับรู้ประมาณ 2ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้ในปลายไตรมาส 2/2550
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com