May 5, 2024   3:53:03 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบหน้าจอ
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 05/06/2007 @ 12:18:20
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET Index วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2550 ปิดที่ดัชนี 770.61จุด +16.68จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,067 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 7,367.18 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 43.31 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 7,410.49 ล้านบาท แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ต่ออีกวันแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่สองหลังเข้าเดือนใหม่มาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ทำให้ดัชนีขึ้นทำ High ใหม่ของรอบได้ที่ 775.41 จุด +21.48 จุด
ด้วยแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานที่ยังคงไหลมาเทมาอย่างหนาแน่น รวมถึงหุ้นบิ๊กแคปในกลุ่มอื่น ๆ กระจายตัวกันไป
ซึ่งสภาพตลาดในรอบบ่ายเทรดกันคึกคักกว่าในรอบเช้ามากเนื่องจากครึ่งวันเช้ามีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารออกมาถ่วงดัชนี ส่งผลให้ดัชนี Low ของวันแตะที่ระดับ 757.35 จุด +3.42 จุด แต่ในช่วงบ่ายก็มีแรงซื้อกลับคืน ดัชนีในภาคบ่ายทะลุขึ้นไปหลายแนวแต่ก็ไม่สามารถไปถึงที่ระดับ 780 จุดได้ แรงซื้อที่มีเข้ามาอย่างท่วมท้นนั้นยังคงเป็น Fund Flow ที่ยังคงมีเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง K.KRAZIP มองว่าเงินส่วนหนึ่งมาจากการขายทำกำไรจากตลาดหุ้นจีนหลังรัฐบาลจีนประกาศปรับขึ้นภาษีจากการซื้อขายหุ้นเพื่อสกัดกั้นการเก็งกำไรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

SATTEL
ราคาเปิด 11.20 บาท ราคาปิด 11.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 513.07 ล้านบาท SATTELขายหุ้น บ.ย่อยที่ให้บริการมือถือรายใหญ่ในลาวและกัมพูชาเกือบครึ่งแก่กลุ่ม Temasek รวมมูลค่ากว่า 6,951 ล้านบาท และคาดว่า SATTEL ได้กำไรจากการขายหุ้นไม่ต่ำกว่า 4,384 ล้านบาท หรือ 3.1 บาทต่อหุ้น จากเงินลงทุนเพียง 132 ล้านบาท ซึ่งช่วยลดปัญหาโครงสร้างเงินทุนในปัจจุบันลงเหลือ 1.0 เท่า ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานแนวโน้มผลการดำเนินงานปกติ ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เนื่องจากยังถูกกดดันจากความล่าช้าของโครงการไอพีสตาร์ ในประเทศใหญ่อย่างจีนและอินเดีย อีกทั้งได้รับผลกระทบจากการลดสัดส่วนการลงทุน คาดการณ์ผลประกอบการปี 2550 จะมีกำไรสุทธิประมาณ 4,062 ล้านบาท เนื่องจากผลกำไรที่ได้รับจากการขายหุ้น บวกกับภาระการลงทุน ดอกเบี้ยจ่าย
และความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำลง ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อ" โดยมีแนวรับที่ 11.20 บาท แนวต้าน12บาท

RICH
ราคาเปิด 4.86 บาท ราคาปิด 5บาท มูลค่าการซื้อขาย 68.15 ล้านบาท ราคาหุ้นของ RICH ยังคงมีแรงซื้อหนุนอย่างต่อเนื่อง และราคา RICH ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 5 บาท การปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น
มั่นใจว่าปัจจัยหลักมาจากที่นักลงทุนเห็นทิศทางการเติบโตของธุรกิจ เนื่องจากที่ผ่านมา RICHสามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งการขยายรายได้ การสร้างคลังสินค้า รวมทั้งมีแนวโน้มจะได้รับผลดีจากราคาเหล็กในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากที่ภาคการเมืองมีความชัดเจน จึงทำให้นักลงทุนกลับมาซื้อขายหุ้นอย่างคึกคักในส่วนของสัญญาณทางเทคนิคสามารถที่จะปรับขึ้นได้อีก แต่ก็ควรระวังการเทขายทำกำไรด้วย K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว" แถว ๆ แนวรับที่ 4.84 บาท

QH
ราคาเปิด1.40 บาท ราคาปิด1.42 บาท มูลค่าการซื้อขาย73.83 ล้านบาท ว่าด้วยมาตรการการที่ภาครัฐจะเพิ่มค่าลดหย่อนจะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้บริโภคเพราะผู้ซื้อบ้านทั้งเก่าและใหม่ล้วนได้รับประโยชน์ทั้งสิ้นและน่าจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อความต้องการซื้อบ้านเพราะเป็นมาตรการถาวรช่วยให้ผู้ซื้อบ้านมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นและจะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อบ้านใหม่เพราะหากคำนวณจากฐานภาษีบุคคลธรรมดาส่วนใหญ่ที่อยู่ระดับ
10-20% จะช่วยเพิ่มรายได้จากค่าลดหย่อนที่เพิ่มขึ้นและปัจจุบันในปีแรกธนาคารพาณิชย์มีการเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 5-6% ต่อปี ทำให้ลูกค้าระดับล่างส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้และความชัดเจนของมาตรการเป็นผลดีทำให้ลูกค้าเริ่มหันกลับมาดำเนินการโอนบ้านตามปกติและยังคงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มที่พักอาศัยเท่าตลาดเชื่อจะช่วยให้ความต้องการซื้อบ้านจะกลับมาดีขึ้นในครึ่งปีหลังตามความมั่นใจผู้บริโภคและแนวโน้มที่ดีของการเมืองในประเทศที่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นตามลำดับเมื่อดูจากการลงทุนในตลาดที่ผ่านมาจึงทำให้ทั้งปีกำไรกลุ่มนี้น่าเติบโตอย่างแน่นนอน ดังนั้น K.KRAZIP จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยมีแนวรับที่ 1.40บาท แนวต้าน1.47 บาท

BAY
ราคาเปิด22.70 บาท ราคาปิด22.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย268.23 ล้านบาทจากที่ธปท.ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.50% ธนาคารได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยลงตามโดยธนาคารได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงประมาณ 0.25-0.50% และปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงประมาณ 0.25% ซึ่งเชื่อว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารลงในครั้งนี้จะช่วยลดภาระให้กับลูกค้าธนาคารได้เพิ่มขึ้นรวมไปถึงเป็นการช่วยกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อของธนาคารด้วยแต่สำหรับการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนหน้า และจะมีความเป็นไปได้สูงที่แบงก์ชาติจะพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งโดยมองว่าหากมีการปรับลงจริงก็ไม่น่าจะเกิน
0.25% และการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของแต่ละธนาคารส่งผลให้ฐานลูกค้าเงินฝากปรับตัวลดลงบ้างทั้งนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะธนาคารใดธนาคารหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามทางของBAYเองก็น่าจะไม่กระทบมากนักเพราะการลดดอกเบี้ยนั้นจะลดทั้งระบบดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบมากนัก ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อ" โดยมีแนวรับที่ 22.20 บาท แนวต้าน 22.90 บาท

ที่มา ทันหุ้น[/color:2db1ba520f">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com