*"โมนิก้า" ประหลาดใจอย่างมากที่จู่ๆ แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันถาโถมเข้าใส่ตลาดหุ้นอย่างที่ไม่เคยมาก่อนในรอบหลายสัปดาห์ แถมการเข้าซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศด้วยแล้ว เดี๊ยนไม่กล้ารับประกันว่าดัชนีจะไต่ระดับขึ้นต่อหรอกนะ

*แม้การวิ่งทะลุแนวต้าน 720 จุดขึ้นมาพร้อมวอลุ่มที่หนาแน่นจะเป็นทิศทางที่ดี แต่อย่าลืมว่าปัจจัยภายในประเทศยังไม่แข็งแกร่งพอ วันนี้คงต้องลุ้นหนักกันเป็นพิเศษ เพราะในโลกนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอพะยะค่ะ

*ขนาดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศพม่า ยังกระทบต่อการรันตัวเลข NAVประจำวันของ บลจ. เลย "โมนิก้า" ถึงไม่อยากปัจใจเชื่อเต็ม 100% ว่าดัชนีจะไต่ระดับขึ้นอย่างร้อนแรงอีกวัน เพราะอาจทำให้อุณหภูมิของตลาดหุ้นร้อนแรงเกินความจำเป็นนะจะบอกให้

*ทั้งนี้ต้องดูว่าตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวขึ้นต่อหรือไม่ หากปรับตัวขึ้นต่อ ก็มั่นใจได้ว่า การพลิกแนวต้าน 720 จุด ให้กลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งนั้น สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และมีแนวโน้มว่าดัชนีจะทะยานขึ้นต่อเจ้าค่ะ

*เนื่องจากสัญญาณแท่งเทียนรายสัปดาห์ได้ผ่านพ้นวิกฤตขาลง และผ่านพ้นการพักฐานเสร็จสรรพแบบนี้ กูรูหลายๆ สำนักถึงได้ฟันธงกัน ชับ ชับ ชับ ว่า แนวต้านสำคัญถัดไปอยู่ที่730 จุด...ส่วนจะจริง หรือไม่จริง ก็ต้องดูกันต่อไป เพราะยามนี้ไม่มีอะไรที่เชื่อถือได้เต็มรักนะซี

*หุ้นพลังงานยังเป็นหุ้นเนื้อหอมสุดแห่งปีเหมือนเช่นเคย และใครมีไว้เชยชมเป็นต้องหลงหัวปักหัวปัม โดยเฉพาะ PTTEP ทะยานขึ้นทำ New high ในรอบหลายเดือนด้วยการบวกไป 5 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 97 บาท งานนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหุ้นจะไปต่อหรือไม่ เพราะเท่าที่เห็นจากวานนี้ เป้าหมายรอบนี้ต้องเกิน 100 บาทชัวร์ๆ

*เช่นเดียวกันกับหุ้นแม่ PTT ดูเหมือนจะเอาไม่อยู่เสียแล้ว เพราะ 1-2 วันที่ผ่านมาเล่นทำ New high ทุกวี่ทุกวัน แบบไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยเลยหล่ะ...ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 236 บาท บวกไป 4 บาท พร้อมด้วยวอลุ่ม 1.39 พันล้านบาทแบบนี้...ไม่ต้องถามว่าจะไปต่ออีกหรือเปล่า เพราะรู้อยู่อย่างเดียวว่าใครไม่ถือหุ้นตัวนี้ไว้รับรองน้ำตาเช็ดหัวเขาแน่นอน

*วานนี้ไม่ใช่แค่หุ้นพลังงานตัวเดียวที่ดูหวือหวาสุด เพราะ หุ้นกลุ่มไฟแนนช์ ก็ฉกฉวยโอกาสนี้ทะยานขึ้นมาปิดอย่างร้อนแรง เลยขอเขียวเกือบทั้งแผงกับเขาบ้าง หลังออกทะเลไปซะนาน โดยเฉพาะรายของ KEST โดดเด่นกว่าใครเพื่อน เพราะวิ่งขึ้นมาปิดที่16.70 บาท บวกไป 0.70 บาท แถมมีวอลุ่มแน่นปึกขนาดนี้ ก็น่าลุ้นเหมือนกันว่าวันนี้จะไปต่อกับเขาเหมือนกัน

*เช่นเดียวกับในรายของ PHATRA ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีผลกระทบเรื่องรายได้นายหน้าค้าหลักทรัพย์ลดลงเหมือนกับรายอื่นๆ แต่วานนี้เห็นหุ้นทะยานขึ้นมาสูงสุดในรอบ 5 เดือนก่อนจะมาปิดที่ 35.75 บาท ก็น่าสนเหมือนกัน เพราะสัญญาณแท่งเทียนปรับตัวขึ้นดีเหลือเกิน แถมยืนเหนือเส้น 10,25,75 วัน อีกต่างหากนะจ๊ะที่รัก

*หากนักลงทุนกำลังมองหาหุ้นเล่นสั้น รายนี้น่าสนใจกว่ารายอื่นๆ หลายเท่า เพราะแก๊ปราคารอบที่แล้ววิ่งขึ้นไปถึง 45 บาท "โมนิก้า" ถึงอยากให้นักลงทุนวัดดวงกับหุ้นตัวนี้ไงหล่ะ

*ทางด้าน TRUE ของมังกรน้อยศุภชัย กระชากขึ้นมาปิดที่ 8.65 บาท บวกไป0.55 บาท พร้อมด้วยวอลุ่มที่แน่นขนัด เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าหุ้นจะไต่ระดับขึ้นไปยืนแถว9 บาทอีกรอบ...แต่เผอิญเดี๊ยนเหลือบไปเห็นสัญยาณทางเทคนิคฟ้องว่าหุ้นเข้าเขตซื้อมากเกินไป จึงไม่กล้าแนะนำให้เล่น...ยกเว้นพวกคันมือคันไม้เต็มที่ อันนี้เชิญลุยกันตามสบายพะยะค่ะ

*ผิดกับในรายของ CPF สวยทั้งรูป จูบก็หอม แถมแต่ละไตรมาสมีการประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นประจำ "โมนิก้า" ถึงเชียร์ให้ซื้อไม่ยัง เพราะของมันเคยเห็นกันว่า ระยะยาวหุ้นตัวนี้ยังไงก็ขึ้นอยู่วันยันค่ำเจ้าค่ะ

*ด้านหุ้นUNIQ ที่ปรับตัวขึ้นมารอบนี้ ถือเป็นการปรับตัวทำนิวไฮตั้งแต่เข้าตลาดแล้วใครที่ชอบเล่นหุ้นใหม่ๆ สดๆ ไม่ต้องดอย หุ้นตัวนี้ถือเป็นหุ้นตัวอย่างพิมพ์นิยม เข้าตามตำราแป๊ะเลย อ้าว! ใครอยากเข้าก็ให้หาจังหวะให้ดีนะคะ แต่ข้อสำคัญต้องถือยาวนะคะ พวกเก็งกำไรมักไปไม่รอดคะ ราคาหุ้นปิดที่ 3.06 บาท บวก 0.06 บาท

*หุ้นGSTEEL ที่ผลประกอบการก็ออกมาแล้ว แต่ราคาหุ้นยังวิ่งได้อีก คงเป็นเพราะนักลงทุนสถาบันยังไล่เก็บหุ้นขนานใหญ่แบบนี้ หุ้นเหล็กบลูชิพตัวนี้คงไม่พลาดที่จะต้องถูกดันอีกรอบใหญ่ สถานการณ์เป็นใจแบบนี้ หุ้นราคาต่ำบาท คงจะสวิงแรงเหมือนกันคะ ราคาหุ้นปิดที่ 0.95 บาท 0.01 บาท

*ใครที่เข้าไปเล่นหุ้น SAFARI ก่อนที่จะถูกขึ้น SP คงจะมีคนเจ็บตัวหลายคนเลยนะคะเพราะช่วงเช้าก็ทุบกันซะหนักหน่วงลงไปโลว์สุดที่ 1.75 บาท ก่อนที่จะมีมือดีเข้ามาไล่ซื้อไล่ต้อนจนถึงราคาหุ้นสูงสุด 2.40 บาท

*ราคาหุ้น SAFARI ของวานนี้ปรากฏแก๊ปส่วนต่างที่หวือหวามากพอสมควร ส่วนเรื่องราคาหุ้นที่ปิดบวกขึ้นมาซิลลิ่งนั้นทั้งๆ ที่เป็นวันสุดท้ายที่หุ้นสามารถเทรดได้นั้น คงมีคนหวังว่าการยอมถือหุ้นโดยติด SP แล้วค่อยรอมาเทรดหลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจเรียบร้อยแล้วเหมือนกรณีของ THL อาจเป็นฝันร้ายได้นะคะ เพราะไม่รู้ว่าหุ้นจะกลับมาเทรดได้อีกครั้งเมื่อไหร่ ราคาหุ้นปิดที่ 2.40 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือ 29.73%