หมู่นี้คำพูดของใครบ้างคนฟังดูแล้ว อาจทะแม่งๆ ชอบกล แต่คำพูดของผู้หญิงตัวเล็กๆอย่าง "โมนิก้า" รับรองว่าไม่ทำให้ใครผิดหวังทั้งนั้น เพราะทุกเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาล้วนเป็นเรื่องจริงที่คนทั่วไปถึงกับสะดุ้งโหย่งเมื่อได้รับทราบข้อมูล

*เดี๊ยนอยู่ในวงการนี้มานานก็พอจะดูออกว่า พ่อมด แม่มด การเงินงัดลูกไม้ตื้นๆ อันไหนมาเล่นอีก เพราะรูปแบบของวิศกรรมการเงินไม่เคยเปลี่ยน แต่ที่เปลี่ยนไปก็คงมีแต่คนเล่นเท่านั้น "โมนิก้า" ถึงรู้สึกเฉยๆ ที่ได้ยินชื่อเสี่ยโน้น เสี่ยนี้ ขาดทุนจากการลงทุนในหุ้น(ฉาวๆ) เพราะเรื่องจริงๆ มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยนะจะบอกให้

*วกกลับมาที่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นบ้างจะดีกว่า เพราะวานนี้อะไรๆ ก็ดูไม่เป็นใจเอาเสียเลย อาทิ ตลาดหุ้นต่างประเทศที่ทำท่าจะปรับตัวขึ้น ไปๆ มาๆ กลับอ่อนตัวลงอย่างน่าใจหาย ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนก็ออกมาแย่กว่าที่คาดคิดไว้มาก

*ถึงทำให้ดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบตลอดทั้งวัน แต่สุดท้ายก็วิ่งขึ้นมาปิดบวกได้อย่างน่าเสียวไส้ "โมนิก้า" ไม่อยากโทษฟ้า โทษฝนว่า เป็นต้นตอสำคัญที่ทำให้บรรยากาศการลงทุนเช้านี้ไม่ราบรื่น เพราะเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า การขึ้นลงของดัชนียามนี้เกิดจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมถึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

*เนื่องจากหุ้นบางตัวที่เห็นว่าดีๆ เอาเข้าจริงกลับมีปัญหาเรื่องผลกำไรลดลงอย่างน่าใจหาย และเป็นต้นตอสำคัญที่ทำให้นักลงทุนกลุ่มต่างๆ เทขายหุ้นทิ้งกันอุตลุด โดยเฉพาะในรายของ LH ทันทีที่ช่วงเช้าประกาศผลกำไรไตรมาส 1 ลดลง ราคาหุ้นก็ดิ่งพสุธาลงมาปิดที่6.75 บาท ลบไป 0.35 บาท อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยวอลุ่มซื้อหนาแน่น เหมือนเป็นการส่งซิกให้รู้ว่า หุ้นมีสิทธิทำ new low อีกนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ MCOT แม้ผลประกอบการจะลดลงฮวบฮาบถึง 27% แต่ราคาหุ้นในกระดานกลับไม่ไหวติงกับข่าวดังกล่าวมากนัก แถมยังยืนหยัดเหนือแนวรับเส้น 10 วันได้อย่างแข็งแกร่งแบบนี้ "โมนิก้า" คิดว่าคนเข้าเล่นหุ้นตัวนี้ต้องใจเย็นมากเป็นพิเศษเพราะโอกาสที่หุ้นจะขึ้นหรือลงมีพอๆ กันเลย แถมภาพลักษณ์ในปัจจุบันก็ไม่แจ่มแจ้งเหมือนเมื่อก่อน ก็เลยเชียร์ไม่ขึ้นพะยะค่ะ

*ทางด้าน THAI ผลุ๊บๆ โผล่ๆ จนไม่มีทิศทางการเคลื่อนตัวที่แน่นอนแบบนี้ไงหล่ะ นักลงทุนขาประจำถึงได้เบือนหน้าหนีไปลงทุนหุ้นตัวอื่นเป็นการทดแทน แต่จู่ๆ เช้าวานนี้มีการออกบทวิเคราะห์ว่า ผลกำไรไตรมาส 2 จะออกมาดี ราคาหุ้นถึงกระชากขึ้นมาปิดถึงที่ 46.75บาท บวกไป 1.75 บาท พร้อมด้วยวอลุ่มหนาแน่นชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเจ้าค่ะ

*ทั้งนี้และทั้งนั้นอย่าลืมว่า หุ้นตัวนี้มักวิ่งขึ้นรับข่าวแล้วเลิกเป็นประจำ "โมนิก้า" ถึงขอเตือนคนเล่นให้ระวังเนื้อระวังตัวกันหน่อย เพราะไม่มีอะไรการันตรีว่าหุ้นจะขึ้นแล้วขึ้นเลยนะซี

*ทางด้าน CP-711 ฉวยจังหวะชุลมุนแอบขึ้นวันละนิดวันละหน่อย ในขณะที่วานนี้กระชากขึ้นทำ new high นับตั้งแต่เข้าตลาดที่ระดับ 8.55 บาท พร้อมด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น"โมนิก้า" คิดว่าเป็นการดีดตัวรับข่าวผลประกอบการไตรมาส 1 ออกมาดีกว่าที่คาดคิดราคาหุ้นถึงกระชากขึ้นอย่างร้อนแรง และมีแนวโน้มจะไต่เพดานทำราคาสูงสุดใหม่ๆ อีกด้วย

*เช่นเดียวกับหุ้นนิคมอุตสาหกรรมอย่าง AMATA ROJANA และ TICON กระชากขึ้นอย่างร้อนแรงอย่างที่ไม่เคยมาก่อน "โมนิก้า" คิดว่ามาจากข่าวผลประกอบการไตรมาส 1ล้วนๆ เพราะเดี๊ยนพลิกดูข่าวรอบด้าน 360 องศา ไม่เห็นมีข่าวไหนพอมีน้ำหนักดันราคาหุ้นขึ้นมาได้ไกลขนาดนี้เจ้าค่ะ

*เสร็จสรรพจากหุ้นกลุ่มบลูชิพ "โมนิก้า" ขอแนะนำแวะเวียนไปดูหุ้นเก็งกำไรอย่างTHL EMC EVER และ IEC กันบ้างดีกว่า เพราะได้ชื่อว่าเป็นหุ้นแสบแห่งปี แถมสตอรี่ที่หยิบยกขึ้นมาแต่ละเรื่องนั้น เดี๊ยนยอมรับว่าเหนือชั้นจริงๆ ขนาด กลต. และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังทำได้แค่นั่งทำตาละห้อย เพราะไม่สามารถกระชากหน้ากากพวก master mindได้นะซี

*ส่วนหุ้นเก็งกำไรที่ไม่ค่อยมีพิษมีภัยอย่าง โบรกเกอร์ฯ ออกอาการเป๋ไปตามๆ กันทั้งที่โครงสร้างพื้นฐานไม่ได้แย่กว่าปีก่อนสักเท่าไหร่ แต่ทำไมราคาหุ้นไม่ยอมขยับขึ้นสักทีก็ไม่รู้...หรือว่าข่าวลือที่มีออกมาหนาหูว่า กลต. เตรียมเชือดมาร์เก็ตติ้งอีกล็อตใหญ่ ราคาหุ้นเลยไม่กล้าผงกหัวขึ้นสักราย...โดยเฉพาะในรายของ KEST ของเฮียมนตรี ศรไพศาลหมดสภาพ และไม่หลงเหลือโบรกเกอร์ชั้นนำแบบนี้ไงเล่า ราคาหุ้นถึงได้กองอยู่กับพื้นเป็นเดือน

*ทางด้านหุ้นกลุ่มอสังหาฯ และวัสดุก่อสร้าง บัดนี้กลายเป็นหุ้นเก็งกำไรเป็นรอบๆอย่างเต็มตัว เพราะต้องรอคอยข่าวดีที่นานๆ ทีจะเข้ามาสักครั้ง ราคาหุ้นก็เลยผลุ๊บๆ โผล่ๆอย่างที่เห็น "โมนิก้า" จึงขอแนะนำให้นักลงทุนอ่านจังหวะ และสัญาญาณทางเทคนิคทุกครั้งก่อนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มดังกล่าวนะจะบอกให้

*ก่อนจากกัน...ขอย้ำอีกครั้งว่าหุ้นกลุ่มหลักที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาดยังเป็น PTTและ PTTEP เพราะมีข่าวดีรองรับเต็มประตูหน้าต่าง แถมมูลค่าทางบัญชีนับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีหุ้นสองตัวนี้ติดไว้ในพอร์ต "โมนิก้า" คิดว่าอาจเป็นการปล่อยโอกาสทองให้หลุดมืออย่างน่าเจ็บใจนะจ๊ะ