ผลสำรวจตั้งแต่ต้นปี (1ม.ค. ? 11พ.ค.) ASIA คว้าแชมป์ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงมากที่สุด 948.91% จากต่ำสุด 4.60 บาท สูงสุด 65.50 บาท TRAF ? PT และ S2Y คว้าที่2,3 และ 4 โบรกฯชี้ส่วนใหญ่เป็นแรงเก็งกำไร แต่เชื่อยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์กระแสหุ้นได้ทำการติดตามการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และตลาดหลักทรัพย์ MAI ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550-11 พฤษภาคม 2550 พบว่าหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากมากไปหาน้อย 10 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 บมจ.เอเชียโฮเต็ล(ASIA) ที่ล่าสุด(11 พ.ค.)ปิดการซื้อขายที่ราคา 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท หรือ 7.77% ระหว่างวันราคาสูงสุด 52.00 บาท ต่ำสุด 49.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 731,400 บาท โดยสถิติการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-10พ.ค. มีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 65.50 บาท ต่ำสุดที่ราคา 4.60 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 948.91% ปริมาณการซื้อขายรวม 17,500,900 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 843.11 ล้านบาท

อันดับ 2 บมจ.ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์(TRAF) ปิดการซื้อขายล่าสุดที่ราคา 1.91 บาท เท่ากับราคาปิดเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างวันราคาสูงสุด 1.94 บาท ต่ำสุด1.89 บาท มูลค่าการซื้อขาย 36.804 ล้านบาท โดยตั้งแต่วันที่ 1ม.ค. ? 11พ.ค. มีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 2.48 บาท ต่ำสุดที่ราคา 0.42 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 315.22% ปริมาณการซื้อขายรวม 2,205,103,100 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 1,793.08 ล้านบาท

ขณะที่ อันดับ 3 คือ บมจ.พรีเมียร์ เทคโนโลยี (PT) ปิดการซื้อขายล่าสุดที่ราคา 4.04 บาท ลดลง -0.16 บาท หรือ -3.81% ระหว่างวันราคาสูงสุด 4.30 บาท ต่ำสุด 4.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 15.486 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 6.35 บาท ต่ำสุดที่ราคา 1.12 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 223.08% ปริมาณการซื้อขายรวม 778,543,100 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 3,026.47 ล้านบาท

ส่วนอันดับ 4 บมจ.สยามทูยู (S2Y) ปิดการซื้อขายล่าสุดที่ราคา 4.02 บาท ลดลง -0.02 บาท หรือ -0.50% ระหว่างวันราคาสูงสุด 4.14 บาท ต่ำสุด 3.86 บาท มูลค่าการซื้อขาย 12.822 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 5.35 บาท ต่ำสุดที่ราคา 1.16 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 210.77% ปริมาณการซื้อขายรวม 540,625,300 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 1,936.14 ล้านบาท

อันดับ 5 บมจ.อยุธยา ออโต้ ลีส ชุดที่ 1 (AYAL-W1) ปิดการซื้อขายล่าสุดที่ราคา 1.49 บาท เท่ากับเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ระหว่างวันราคาสูงสุด 1.49 บาท ต่ำสุด 1.49 บาท มูลค่าการซื้อขาย 42,000 บาท โดยที่ผ่านมามีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 1.70 บาท ต่ำสุดที่ราคา 1.37 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 148.33% ปริมาณการซื้อขายรวม 2,062,600 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 2.97 ล้านบาท

อันดับ 6 บมจ.พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์(PE) ปิดการซื้อขายล่าสุดที่ราคา 1.44 บาท ลดลง -0.07 บาท หรือ -4.64% ระหว่างวันราคาสูงสุด1.52 บาท ต่ำสุด1.44 บาท มูลค่าการซื้อขาย 11.209 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 3.82 บาท ต่ำสุดที่ราคา 0.66 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 93.59% ปริมาณการซื้อขายรวม 2,180,155,900 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 5,762.08 ล้านบาท

โดย อันดับ 7 บมจ.อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย)(ATC) ปิดการซื้อขายล่าสุดที่ราคา 57.50 บาท ลดลง -1.50 บาท หรือ -2.54% ระหว่างวันราคาสูงสุด 59.00 บาท ต่ำสุด 56.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 338.983 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 63.00 บาท ต่ำสุดที่ราคา 30.75 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 82.95% ปริมาณการซื้อขายรวม 413,155,500 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 18,051.69 ล้านบาท

อันดับ 8 บมจ.ยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี (UCOM) ปิดการซื้อขายล่าสุดที่ราคา 61.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.67% ระหว่างวันราคาสูงสุด 61.50 บาท ต่ำสุด 59.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7.617 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 63.00 บาท ต่ำสุดที่ราคา 28.75 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 77.78% ปริมาณการซื้อขายรวม 29,538,100 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 1,425.73 ล้านบาท

อันดับ 9 บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) ปิดการซื้อขายล่าสุดที่ราคา 2.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 2.05% ระหว่างวันราคาสูงสุด 3.08 บาท ต่ำสุด2.82 บาท มูลค่าการซื้อขาย 462.044 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 4.88 บาท ต่ำสุดที่ราคา 2.64 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 75.90% ปริมาณการซื้อขายรวม 828,482,700 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 1,425.73 ล้านบาท

สุดท้าย อันดับ 10 บมจ.ธนาคารธนชาต (TBANK) ปิดการซื้อขายล่าสุดที่ราคา 16.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 443,200 บาท โดยที่ผ่านมามีการซื้อขายสูงสุดที่ราคา 16.00 บาท ต่ำสุดที่ราคา 8.80 บาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง 74.86% ปริมาณการซื้อขายรวม 828,482,700 หุ้น มูลค่าการซื้อขายรวม 1,425.73 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามไปยังนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินความเป็นมา หรือแสดงมุมมองความคิดเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในหุ้น 3 อันดับแรก เพื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลประกอบการพิจารณาการลงทุนของนักลงทุนในอนาคตต่อไป

โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) หรือ AYS กล่าวให้ความเห็นถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้น ASIA ว่า การที่ ASIA กลับเข้ามาเทรดบนกระดานอีกครั้ง ประกอบกับสามารถมีผลดำเนินงานกลับมาเป็นบวกได้ หลังที่จากก่อนหน้ามีการขาดทุนจนต้องเข้าแผนฟื้นฟู ทำให้มีความน่าสนใจ โดยขณะนี้ถ้าดูจากกราฟและการดำเนินงานดังลงทุนยังสามารถเข้าลงทุนในหุ้นดังกล่าวได้

ขณะที่ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน) หรือ KESTให้ความเห็นทางเทคนิคสำหรับหุ้น TRAF และ PT ว่า ที่ผ่านมาหุ้นทั้ง 2 ตัวเป็นลักษณะของหุ้นเก็งกำไร โดยราคาได้ลงมาลึกพอสมควรแล้ว ดังนั้น ถ้าราคาไม่หลุดลงมาต่ำกว่าแนวรับที่ให้ไว้น่าจะมีโอกาสรีบาวด์ในช่วงสั้นได้ แต่ถ้าหลุดลงมาให้นักลงทุนขายตัดขายทุนจะดีกว่า ซึ่งทางฝ่ายวิเคราะห์ไม่แนะนำถือหรือซื้อลงทุน

ทั้งนี้ ประเมินราคาแนวรับของหุ้น TRAF ไว้ที่ 1.88-1.86 บาท ส่วนแนวต้านมองที่ 1.94 บาท ขณะที่หุ้น PT มีแนวรับที่ 3.96-3.94 บาท แนวต้านอยู่ที่ 4.30 บาท

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) หรือ CNS กล่าวให้ความเห็นว่า ในส่วนของหุ้น S2Y ที่มีการเก็งกำไรนั้น มองว่าเป็นไปตามข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์มากกว่า โดยจะมีเรื่องประเด็นของนักลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามา ประกอบกับยังมีเรื่องธุรกิจใหม่ด้านอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น ประเมินแนวรับที่ 4.20 บาท และแนวต้านที่ 3.80 บาท

ส่วน AYAL-W1 ที่ตั้งแม่ AYAL มีข่าวการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ซึ่งที่ผ่านมาราคาหุ้นไม่ค่อยหวือหวามากนัก โดยมีการแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 4-6 บาท และเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเมื่อมีปัจจัยเรื่องการถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์