- ภาวะ ตลาดหุ้น สัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถฝ่าแนวต้านที่ 700 จุด ได้เป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ โดยตลาดเปิดวันแรกดัชนีปิดที่ 699.16 จุด เพิ่มขึ้น 4.054 จุด มูลค่าการซื้อขาย 11,296.28 ล้านบาท ซึ่งได้แรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่ม ปตท.ได้แรงซื้อเข้ามา ขณะที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลการปรับตัวเลขจีดีพี

- กลางสัปดาห์ดัชนีปิดที่ 705.47 จุด เพิ่มขึ้น 6.3 จุด มูลค่าการซื้อขาย 13,154.19 ล้านบาท ซึ่งมีเม็ดเงินจากต่างชาติทยอยเข้ามาซื้อหุ้นไทย เพื่อรอรับข่าวการปรับดัชนีเอ็มเอสซีรอบใหม่ จึงทำให้มีการเข้ามาเก็งหุ้นไทยจำนวนมาก บวกกับผลประกอบการในบางกลุ่มออกมาดีเกินคาด ทำให้มีการเข้ามาซื้อลงทุนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวดีจากคลังอนุมัติให้ธนาคารของรัฐปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนรากหญ้า มูลค่า 4.61 แสนล้านบาท

- ขณะที่ท้ายสัปดาห์ต่างชาติยังซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งการกลับมาซื้อลงทุนในหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ พลังงาน และสื่อสาร แทนกลุ่ม ธนาคาร ที่ซื้อไว้เต็มเพดานแล้ว

- ชนะคู่แข่งไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด สำหรับตำแหน่งนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งได้ "กัมปนาท โลหะเจริญวณิช" นั่งต่ออีกวาระหนึ่ง โดยชนะคะแนนคู่แข่งไปเพียง 2 คะแนน เลยทำให้ "วิบูลย์ เพิ่มอารยาวงศ์" ชวดตำแหน่งไปแบบน่าเสียดาย แต่เจ้าตัวกลับบ่นอุบว่า สงสัยคงมีใครอยากให้ลำบากต่อไปอีก 4 ปี เพราะมีแต่งานหินๆ ที่รออยู่ข้างหน้า

- โดยเฉพาะเรื่องฮอตกับการแปรรูปตลาดหุ้นไทย ที่นายกสมาคมคนใหม่ต้องการจะให้สมาคมเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เพราะถือว่าผู้ประกอบการโบรกเกอร์ได้รับผลกระทบอันดับแรกถ้ามีการแปรรูปกันจริงๆ เลยมีการเดินสายไปพูดเรื่องนี้กันถึงภูเก็ตเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน จนสมาชิกทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

- พอเลื่อนวันประชุมไปเป็นวันที่ 11 พ.ค. บริษัทอีเอ็มซีก็ประกาศรายชื่อกรรมการใหม่ มีนายพิษณุ เกิดลาภพล, เคนซิโระ ซุเกะโอชิสึ และ นายไพบูลย์ ทองระอา แถมมีวาระใหม่แต่งตั้งกรรมการใหม่ ซึ่งก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น "ชนะชัย ลีนะบรรจง" ที่ขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

- ระหว่างที่รอประชุมผู้ถือหุ้นอีเอ็มซี "ชนะชัย" ก็ไม่รอช้า เก็บหุ้นอีเอ็มซีเข้ากระเป๋าไปอีก 5.053% เท่ากับปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 6.963%

- พอเปิดดูรายชื่อผู้ถือ หุ้นอีเอ็มซี ล่าสุดแทบจะตกเก้าอี้ เพราะรวมก๊วนจากทุกกลุ่มมาไว้ที่นี้หมด ทั้ง ชยุตม์ ลี้อิสสระนุกุล, นวลพรรณ ล่ำซำ จากเมืองไทยประกันภัย, อภินันท์ ปัญญากร, ฉัตรสุดา เบ็ญจนิรัตน์, พวงพันธุ์ บูลภักดิ์ ซึ่งถือว่าเป็นชื่อคุ้นเคยกันดีในกลุ่มผู้ถือหุ้นปั่น

- สรุปกันไปแล้วว่า "หุ้นดีแทค" จะยื่นไฟลิ่งให้ ก.ล.ต.สัปดาห์หน้าแน่นอน โดยได้ ธนาคารกสิกรไทยและไทยพาณิชย์ เป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้นให้ ซึ่งกรณีธนาคารกสิกรไทยถือว่าบริษัทลูกทำดีลที่ปรึกษาให้ ยังไงก็ต้องได้ แต่กับธนาคารไทยพาณิชย์ที่เคยเป็นที่ปรึกษาเก่า แม้ไม่ได้รายได้จากการเป็นที่ปรึกษา แต่ก็ยังได้เกี่ยวจนหยดสุดท้าย

- แม้จะไม่ตื่นเต้นเท่ากับม็อบเบียร์ช้างที่ขนมาทั้งพระ เด็ก แต่ม็อบไอทีวีกว่า 50 คน ที่เดินทางมายื่นหนังสือให้ "ภัทรียา เบญจพลชัย" ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการตลาด หลักทรัพย์ฯ เพราะถือว่าไม่ปฏิบัติการคุ้มครองผู้ถือหุ้นโดยเตือนนักลงทุนล่วงหน้า แต่ที่เห็นแล้วขัดตากับอารมณ์ของม็อบ ที่ร้องเรียกผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯว่า "นังนั่นนังนี่" แถมพอผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯลงมารับหนังสือก็โวยวายว่า ต้องการพบผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯให้ได้ ทำให้แทนที่จะได้ปรับความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็น กลับกลายเป็นชี้หน้าว่ากันซะงั้น

- สัปดาห์นี้ บล.นครหลวงไทย เชื่อดัชนียังได้รับแรงซื้อไปต่อจากเงินต่างชาติ และภาวะตลาดอื่นในภูมิภาคที่ปรับขึ้นมาปิดบวก โดยมีแนวรับที่ 714 จุด แนวต้าน 720 จุด

- ด้านความเคลื่อนไหว ค่าเงินบาท เปิดตลาดต้นสัปดาห์ 34.79/81 บาท/ดอลลาร์ การซื้อขายยังเป็นไปเบาบาง ตลอดสัปดาห์ยังเคลื่อนไหวตามปัจจัยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ตามการคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ประกอบกับเมื่อ ธปท.ประกาศตัวเลขเกินดุลบัญชีเดินสะพัดช่วงต้นสัปดาห์ ทำให้คาดว่าเงินบาทจะแข็งขึ้นอีก ผู้ส่งออกบางส่วนจึงขายดอลลาร์ล่วงหน้า ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นบ้าง ระหว่างสัปดาหเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ 34.75/80 และปิดตลาดที่ 34.75/78

- นักค้าเงินจาก ธนาคารไทยธนาคาร คาดว่าเงินบาทสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.65/85 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องจับตาผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และเฟด ว่าจะมีแนวโน้มดอกเบี้ยอย่างไร โดยเฉพาะหากเฟดลดดอกเบี้ยอาจส่งผลให้ดอลลาร์อ่อน และเงินบาทแข็งค่าขึ้นได้


ประชาชาติ