April 30, 2024   4:32:05 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > *****หุ้นเด่น หุ้นดิ่ง*****
 

???
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
วันที่: 04/05/2007 @ 10:46:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นเด่น

BBLซื้อลงทุนราคา 111-112 บาท

DELTAทยอยซื้อสะสมราคา 15.70-15.80 บาท

SSIซื้อเล่นสั้นราคา 1.09-1.10 บาท

หุ้นดิ่ง------

MAJORหาจังหวะขาย

APหาจังหวะขาย

LIVEหาจังหวะขาย

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 709.91 จุด

เปลี่ยนแปลง +4.44 จุด

มูลค่าการซื้อขาย 17,233.32 ล้านบาท

 กลับขึ้นบน
พ๊ง
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
#1 วันที่: 04/05/2007 @ 10:48:07 :
MAJOR

แม้ราคาหุ้นจากสัญญาณแท่งเทียนรายสัปดาห์และรายวัน จะปรับตัวเหนือแนวต้านทุกเส้นได้ แต่เมื่อสังเกตราคาหุ้นที่ระดับ 16.30 บาท ถือเป็นระดับที่หุ้นได้ปรับตัวขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิค RSI และ Slow Stochastic โดยเฉพาะเปอร์เซ็น K ที่อยู่ในระดับ 83.55% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่หุ้นเข้าสู้ภาวะแรงซื้อมากเกินไปอย่างมาก ดังนั้นในระยะนี้หุ้นจึงมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลง นักลงทุนที่เล่นหุ้นรายนี้น่าจะหาจังหวะขายหุ้นออกไปก่อนคำแนะนำ หาจังหวะขาย

ADVANC

เมื่อพิจารณาสัญญาณหุ้นรายสัปดาห์พบว่าราคาหุ้นยังเป็นขาลง ส่วนราคาหุ้นรายวันที่ปรับตัวขึ้นแรงที่ระดับ 82.00 บาท เรามองว่าเป็นระดับที่หุ้นขึ้นมาสูงมากแล้ว โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาประกอบกับสัญญาณทางเทคนิค RSI และ Slow Stochastic นับว่าเป็นระดับที่หุ้นเข้าสู่ภาวะแรงซื้อมากเกินไปอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันเมื่อสังเกตแนวต้านของราคาหุ้นรายสัปดาห์ยังพบว่า เส้น 75 สัปดาห์ ที่ระดับ 82.75 บาท ถือเป็นแนวต้านที่สำคัญ หากหุ้นไม่สามารถผ่านเส้นนี้ไปได้ ในระยะหุ้นรายนี้ก็มีโอกาสที่จะได้เวลาพักฐานแล้ว คำแนะนำ หาจังหวะขาย

AP

แม้โครงสร้างแท่งเทียนรายวันจะเป็นขาขึ้น แต่เมื่อพิจารณาราคาหุ้นรายวันพบว่า ราคาหุ้นเริ่มที่จะทรงตัวที่ระดับ 4.68 บาท เนื่องจากวอลุ่มที่เข้ามาเริ่มเบาบาง พร้อมทั้งสัญญาณที่สนับสนุนแรงซื้อขาย RSI และ Slow Stochastic มีแนวโน้มจะปรับตัวเป็นขาย หากหุ้นไม่สามารถยืนที่ระดับ 4.68 บาท ได้ มั่นคง คาดว่าหุ้นรายนี้มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงได้อีก และมองว่าแนวรับที่ระดับ 4.50 บาท น่าจะเป็นแนวรับที่หุ้นจะอ่อนตัวลงมาทดสอบคำแนะนำ หาจังหวะขาย
 กลับขึ้นบน
พ๊ง
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 410
#2 วันที่: 04/05/2007 @ 10:54:31 :
หุ้นโบรกเกอร์ไม่ได้เกิด โดนลดน้ำหนักฯถ้วนหน้า

หุ้นโบรกเกอร์อ่วม นักวิเคราะห์แห่ปรับลดประมาณการณ์ลงทุน หลังจากงบไตรมาสแรกซบสุดขีด แถมภาวะตลาดยังไม่มีทีท่าดีขึ้น วอลุ่มต่อวันไม่กระเตื้อง ส่งผลงบทั้งปีต่ำกว่าที่คิดไว้ KEST BLS ASP ถูกปรับลดคำแนะนำจาก"ซื้อ"เหลือเพียง"ถือ"ขณะที่ ASL ไม่ได้เกิดถูกแนะ"ขาย"สถานเดียว เผย 6 โบรกประกาศงบกำไรรวมลดลงถึง 73.85%

จากภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นซบเซาหนักตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยลดลงเหลือเฉลี่ยประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทุกแห่ง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาจะเห็นว่ากำไรของโบรกเกอร์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้าค่อนข้างมาก และจากปรากฎการณ์ดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์พร้อมใจกันปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นโบรกเกอร์ลง

โดยเฉพาะหุ้นอย่างบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)หรือ KEST หุ้นบล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS ที่ปกติจะเป็นหุ้นที่มีความโดดเด่นในกลุ่มและถูกวางน้ำหนักการลงทุนเป็น "ซื้อ"ก็ถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนมาเหลือเพียง"ถือ" หรือ "ขาย"

ทั้งนี้จากการสำรวจบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์หลายแห่งพบว่า ได้ปรับลดคำแนะนำการลงทุนในหุ้น KEST ลงมาเหลือเพียง"ขาย"และ "ถือ"เท่านั้น โดยบล.ซีมิโก้และบล.ยูไนเต็ดแนะนำขายหุ้น KEST และให้ราคาเป้าหมาย 12.10 บาทและ 14.50 บาท ตามลำดับ

โดยให้เหตุผลว่าผลการดำเนินงานไตรมาสแรกลดลงมาก รวมทั้งมาร์เก็ตแชร์ที่ลดเหลือเพียง 7% จาก 9% อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานตลอดทั้งปี

ขณะที่บล.ไทยพาณิชย์และบล.เกียรตินาคิน แนะนำ"ถือ"หุ้น BLS โดยให้ราคาเป้าหมาย 12.5 บาท และ 12.09 บาท โดยให้เหตุผลเหมือนกันว่างบไตรมาสแรกลดลงถึง 41% และมาร์เก็ตแชร์ที่ลดลงเล็กน้อย ขณะเดียวกันมูลค่าการซื้อขายในตลาดก็ลดลงจากที่คาดไว้ที่ 1.6 หมื่นล้านบาทต่อวันเหลือ 1.2 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลประกอบการทั้งปีของบัวหลวง

ส่วนบล.ซีมิโก้ แนะนำขายหุ้น บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด(มหาชน)หรือ ASL โดยให้มูลค่าพื้นฐานที่ 0.66 บาท และให้เหตุผลว่าแม้คาดอยู่แล้วว่าบริษัทจะยังคงแสดงผลขาดทุน แต่บริษัทก็ยังแสดงผลขาดทุนสูงกว่าที่คาดมาก โดยสาเหตุหลักมาจาก บริษัทมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนสูงถึง 56 ล้านบาทและบริษัทยังคงมีค่าใช้จ่ายด้านพนักงานระดับสูงกว่ารายได้ โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายพนักงานต่อรายได้ค่านายหน้าปรับเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 83% ในปี 49 มาอยู่ที่ระดับ 105% ในไตรมาสแรก แสดงให้เห็นว่ารายได้ของบริษัทยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย

ด้านบล.ฟินันซ่า จำกัด แนะนำขายหุ้นบล.เอเชีย พลัส จำกัด(มหาชน)หรือ ASP โดยให้ราคาเหมาะสมเพียง 1.87 บาท และให้เหตุผลว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจากงานวาณิชธนกิจปรับลดลงถึง 36% ขณะที่รายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลงถึง 22% ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลการดำเนินงานลดลงมากและทั้งปีอาจต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจากสภาพการร์ดังกล่าวอาจกดดันราคาหุ้นให้ทำจุดต่ำสุดได้

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากการสำรวจผลประกอบการไตรมาสแรกปี 50 ของบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งประกาศมา แล้วจำนวน 6 บริษัท ได้แก่ ASL, BLS, บล.บีฟิท (BSEC), บล.พัฒนสิน (CNS),KEST และ บล.ภัทร(PHATRA) ปรากฎว่า มีกำไรสุทธิรวม 146.56 ล้านบาท ลดลง 413.93 ล้านบาท หรือ 73.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 560.59 ล้านบาท

ผลประกอบการ 6 โบรกเกอร์โบรกเกอร์ งบ31มี.ค.50 ลดลงเทียบYoY

(ล้านบาท) (%)ASL -106.79 122.24PHATRA 103.49 42.85 BLS 37.64 41.32KEST 65.52 74.42BSEC 26.06 54.52 CNS 20.64 69.68
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com