??? สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 410 | วันที่: 04/05/2007 @ 10:46:03 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต หุ้นเด่น
BBLซื้อลงทุนราคา 111-112 บาท
DELTAทยอยซื้อสะสมราคา 15.70-15.80 บาท
SSIซื้อเล่นสั้นราคา 1.09-1.10 บาท
หุ้นดิ่ง------
MAJORหาจังหวะขาย
APหาจังหวะขาย
LIVEหาจังหวะขาย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 709.91 จุด
เปลี่ยนแปลง +4.44 จุด
มูลค่าการซื้อขาย 17,233.32 ล้านบาท
|
พ๊ง สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 410 | #2 วันที่: 04/05/2007 @ 10:54:31 : หุ้นโบรกเกอร์ไม่ได้เกิด โดนลดน้ำหนักฯถ้วนหน้า
หุ้นโบรกเกอร์อ่วม นักวิเคราะห์แห่ปรับลดประมาณการณ์ลงทุน หลังจากงบไตรมาสแรกซบสุดขีด แถมภาวะตลาดยังไม่มีทีท่าดีขึ้น วอลุ่มต่อวันไม่กระเตื้อง ส่งผลงบทั้งปีต่ำกว่าที่คิดไว้ KEST BLS ASP ถูกปรับลดคำแนะนำจาก"ซื้อ"เหลือเพียง"ถือ"ขณะที่ ASL ไม่ได้เกิดถูกแนะ"ขาย"สถานเดียว เผย 6 โบรกประกาศงบกำไรรวมลดลงถึง 73.85%
จากภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นซบเซาหนักตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยลดลงเหลือเฉลี่ยประมาณ 9,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทุกแห่ง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาจะเห็นว่ากำไรของโบรกเกอร์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้าค่อนข้างมาก และจากปรากฎการณ์ดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์พร้อมใจกันปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นโบรกเกอร์ลง
โดยเฉพาะหุ้นอย่างบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)หรือ KEST หุ้นบล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS ที่ปกติจะเป็นหุ้นที่มีความโดดเด่นในกลุ่มและถูกวางน้ำหนักการลงทุนเป็น "ซื้อ"ก็ถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนมาเหลือเพียง"ถือ" หรือ "ขาย"
ทั้งนี้จากการสำรวจบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์หลายแห่งพบว่า ได้ปรับลดคำแนะนำการลงทุนในหุ้น KEST ลงมาเหลือเพียง"ขาย"และ "ถือ"เท่านั้น โดยบล.ซีมิโก้และบล.ยูไนเต็ดแนะนำขายหุ้น KEST และให้ราคาเป้าหมาย 12.10 บาทและ 14.50 บาท ตามลำดับ
โดยให้เหตุผลว่าผลการดำเนินงานไตรมาสแรกลดลงมาก รวมทั้งมาร์เก็ตแชร์ที่ลดเหลือเพียง 7% จาก 9% อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานตลอดทั้งปี
ขณะที่บล.ไทยพาณิชย์และบล.เกียรตินาคิน แนะนำ"ถือ"หุ้น BLS โดยให้ราคาเป้าหมาย 12.5 บาท และ 12.09 บาท โดยให้เหตุผลเหมือนกันว่างบไตรมาสแรกลดลงถึง 41% และมาร์เก็ตแชร์ที่ลดลงเล็กน้อย ขณะเดียวกันมูลค่าการซื้อขายในตลาดก็ลดลงจากที่คาดไว้ที่ 1.6 หมื่นล้านบาทต่อวันเหลือ 1.2 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลประกอบการทั้งปีของบัวหลวง
ส่วนบล.ซีมิโก้ แนะนำขายหุ้น บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด(มหาชน)หรือ ASL โดยให้มูลค่าพื้นฐานที่ 0.66 บาท และให้เหตุผลว่าแม้คาดอยู่แล้วว่าบริษัทจะยังคงแสดงผลขาดทุน แต่บริษัทก็ยังแสดงผลขาดทุนสูงกว่าที่คาดมาก โดยสาเหตุหลักมาจาก บริษัทมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนสูงถึง 56 ล้านบาทและบริษัทยังคงมีค่าใช้จ่ายด้านพนักงานระดับสูงกว่ารายได้ โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายพนักงานต่อรายได้ค่านายหน้าปรับเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 83% ในปี 49 มาอยู่ที่ระดับ 105% ในไตรมาสแรก แสดงให้เห็นว่ารายได้ของบริษัทยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย
ด้านบล.ฟินันซ่า จำกัด แนะนำขายหุ้นบล.เอเชีย พลัส จำกัด(มหาชน)หรือ ASP โดยให้ราคาเหมาะสมเพียง 1.87 บาท และให้เหตุผลว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจากงานวาณิชธนกิจปรับลดลงถึง 36% ขณะที่รายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลงถึง 22% ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลการดำเนินงานลดลงมากและทั้งปีอาจต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจากสภาพการร์ดังกล่าวอาจกดดันราคาหุ้นให้ทำจุดต่ำสุดได้
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากการสำรวจผลประกอบการไตรมาสแรกปี 50 ของบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งประกาศมา แล้วจำนวน 6 บริษัท ได้แก่ ASL, BLS, บล.บีฟิท (BSEC), บล.พัฒนสิน (CNS),KEST และ บล.ภัทร(PHATRA) ปรากฎว่า มีกำไรสุทธิรวม 146.56 ล้านบาท ลดลง 413.93 ล้านบาท หรือ 73.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 560.59 ล้านบาท
ผลประกอบการ 6 โบรกเกอร์โบรกเกอร์ งบ31มี.ค.50 ลดลงเทียบYoY
(ล้านบาท) (%)ASL -106.79 122.24PHATRA 103.49 42.85 BLS 37.64 41.32KEST 65.52 74.42BSEC 26.06 54.52 CNS 20.64 69.68 |