ต่างชาติดาหน้าซื้อหุ้นสื่อสาร หลังเก็บพลังงาน -แบงก์ จนเกือบเต็มเพดาน ดันราคาทั้งกลุ่มพุ่งเกือบ 5% มีSHIN-ADVANC-TRUE นำทีม หุ้นบวก 9.71% 5.13% และ 5.34% ขณะที่ราคาหุ้นเริ่มถูกสุดๆ เป็นเหตุโยกเก็บหุ้นเข้าพอร์ต แต่วงการฟันธงยังไม่น่าสน ระบุงบฯQ1/50 ยังจะทรงตัวจากในไตรมาส 4 อีกทั้งมีแนวโน้มลดลงอีก เหตุอุตฯ สื่อสารเริ่มถึงจุดอิ่มตัว ธุรกิจโทรศัพท์มือถือยังเจอสงครามราคา และยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายทางภาครัฐที่ยังกดดันและอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขยายธุรกิจต่อไปได้ จึงแนะนำ หลีกเลี่ยง
คึกคักเหลือเกินสำหรับหุ้นกลุ่มสื่อสาร เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) โดยราคาหุ้นในกลุ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่ตลาดฯเปิดทำการซื้อขาย นำทีมโดยหุ้น บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ. ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ. ทีทีแอนด์ที (TT&T) ซึ่งถือเป็นหุ้นขนาดใหญ่หรือหุ้นนำของกลุ่ม จึงส่งผลผลักดันให้ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารตัวอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ทั้งที่ก่อนหน้าราคาหุ้นในกลุ่มนี้ ค่อนข้างจะเงียบเหงา ราคาหุ้นส่วนใหญ่ค่อนข้างจะส่งตัว โดยเฉพาะหลังจากเปลี่ยนแปลงรัฐบาล พร้อมๆกับข่าวที่ว่าจะมีการยึดสัญญาสัมปทานของผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์มือถือในประเทศ และผู้ประกอบการดาวเทียม ซึ่งก็คือ ADVANC และ SATTEL ก่อนหน้านี้ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนต่ออนาคตของบรรดาผู้ประกอบการ รวมไปถึงข่าวการตีความสัญญาสัมปทานของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่คาดว่าจะรู้ผลในเดือนหน้าและก็อาจมีสิทธิเป็นโมฆะ ล้วนแต่บั่นทองความเชื่อมั่น และความมั่นใจของนักลงทุนต่อการเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ค่อนข้างมาก
ตลอดจนเรื่องเดิมของผู้ประกอบการมือถือ ที่ประสบกับปัญหาการแข่งขันทางด้านราคา หรือการตัดราคาจนกันอง จนกระทบต่อผลประกอบการไม่น้อย ยังจะเรื่องการถึงจุดอิ่มตัวของธุรกิจอีก โดยเฉพาะหุ้นอย่าง ADVANC-UCOM-TRUE ที่ประสบปัญหาดังกล่าวเต็มๆ จนทำให้นักลงทุนเมินที่จะเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะ ADVANC ยังมีปัญหาพ่วงเรื่องสัมปทานกรณีเทมาเส็กเข้ามาอีก ทำให้หุ้นมือถือไร้เสน่ห์กลายเป็นหุ้นในกลุ่ม SAMART ที่เข้ามาแทนที่ ด้วยธุรกิจดาวเทียม การขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีตัวชูโรงอย่างสามารถไอโมบาย หรือ SIM เข้ามาให้เป็นหุ้นที่โดดเด่นในกลุ่มนี้แทน เพราะถือเป็นกลุ่มที่มีผลประกอบการขยายตัวต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามก็ใช่ว่าภาพรวมของหุ้นสื่อสารจะสดใส เนื่องจากช่วง 1 ขวบปีที่ผ่านมานี้ โบรกเกอร์หลายแห่งต่างไม่แนะนำให้ลงทุน บางแห่งให้น้ำหนักการลงทุนที่ต่ำกว่าตลาดด้วยซ้ำไป จึงส่งผลให้นักลงทุนเลี่ยงไปลงทุนในหุ้นตัวอื่น หรือกลุ่มอื่นที่มีความสนใจมากกว่า ไม่เว้นแม้แต่นักลงทุนต่างประเทศที่ระยะหลังมานี้ ก็หันไปให้ความสนใจในหุ้นตัวอื่น และปรับลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวลง
อย่างไรก็ตามช่วง 1-2 เดือนมานี้ ก็เริ่มมีข่าวดีที่น่าจะช่วยหนุนหุ้นสื่อสารขึ้นมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการประกาศเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ TAC ที่มีผลทางจิตวิทยาให้หุ้นกลุ่มนี้สดใสขึ้นมาอีกรอบ เพราะได้หุ้นตัวใหม่มาช่วยเพิ่มตัวเลือกให้กับนักลงทุนบ้าง ในขณะที่ล่าสุดการที่นายสุทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวดาวโจนส์ ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า รัฐบาลจะไม่ยึดสัมปทานในกลุ่มชินฯ แม้หากพิสูจน์ได้ว่า บริษัท กุหลาบแก้วเป็นนอมินีของ เทมาเส็กก็ตาม แต่จะใช้วิธีการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากไม่อยากให้บรรยากาศการลงทุนในไทยเสียไป ก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้หุ้นกลุ่มนี้การปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้ารมว.ไอซีที ยืนยันมาตลอดว่าจะยึดสัมปทานทันทีหากสรุปว่ากุหลาบแก้วเป็นนอมินี ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากราคาหุ้นที่ลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว จึงยิ่งมีส่วนให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนมากขึ้น และอีกประเด็นหนึ่งของการปรับขึ้นก็คือการซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ ที่ช่วงหลังมานี้น่าจะมีการเปลี่ยนกลุ่มลงทุน หลังจากเข้ามาซื้อหุ้นบิ๊กแคปกลุ่มอื่นๆ จนใกล้จะเต็มเพดาน ก็น่าจะเปลี่ยนมาลงทุนในหุ้นดังกล่าวจึงส่งผลให้หุ้นกลุ่มสื่อสารเมื่อวานนี้ปรับเพิ่มขึ้นมาก