April 30, 2024   3:20:29 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เม็ดเงินต่างชาติหนุนหุ้นสื่อสารคืนชีพ
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 03/05/2007 @ 22:09:31
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ต่างชาติดาหน้าซื้อหุ้นสื่อสาร หลังเก็บพลังงาน -แบงก์ จนเกือบเต็มเพดาน ดันราคาทั้งกลุ่มพุ่งเกือบ 5% มีSHIN-ADVANC-TRUE นำทีม หุ้นบวก 9.71% 5.13% และ 5.34% ขณะที่ราคาหุ้นเริ่มถูกสุดๆ เป็นเหตุโยกเก็บหุ้นเข้าพอร์ต แต่วงการฟันธงยังไม่น่าสน ระบุงบฯQ1/50 ยังจะทรงตัวจากในไตรมาส 4 อีกทั้งมีแนวโน้มลดลงอีก เหตุอุตฯ สื่อสารเริ่มถึงจุดอิ่มตัว ธุรกิจโทรศัพท์มือถือยังเจอสงครามราคา และยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายทางภาครัฐที่ยังกดดันและอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขยายธุรกิจต่อไปได้ จึงแนะนำ หลีกเลี่ยง


คึกคักเหลือเกินสำหรับหุ้นกลุ่มสื่อสาร เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) โดยราคาหุ้นในกลุ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่ตลาดฯเปิดทำการซื้อขาย นำทีมโดยหุ้น บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ. ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ. ทีทีแอนด์ที (TT&T) ซึ่งถือเป็นหุ้นขนาดใหญ่หรือหุ้นนำของกลุ่ม จึงส่งผลผลักดันให้ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารตัวอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ทั้งที่ก่อนหน้าราคาหุ้นในกลุ่มนี้ ค่อนข้างจะเงียบเหงา ราคาหุ้นส่วนใหญ่ค่อนข้างจะส่งตัว โดยเฉพาะหลังจากเปลี่ยนแปลงรัฐบาล พร้อมๆกับข่าวที่ว่าจะมีการยึดสัญญาสัมปทานของผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์มือถือในประเทศ และผู้ประกอบการดาวเทียม ซึ่งก็คือ ADVANC และ SATTEL ก่อนหน้านี้ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนต่ออนาคตของบรรดาผู้ประกอบการ รวมไปถึงข่าวการตีความสัญญาสัมปทานของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่คาดว่าจะรู้ผลในเดือนหน้าและก็อาจมีสิทธิเป็นโมฆะ ล้วนแต่บั่นทองความเชื่อมั่น และความมั่นใจของนักลงทุนต่อการเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ค่อนข้างมาก

ตลอดจนเรื่องเดิมของผู้ประกอบการมือถือ ที่ประสบกับปัญหาการแข่งขันทางด้านราคา หรือการตัดราคาจนกันอง จนกระทบต่อผลประกอบการไม่น้อย ยังจะเรื่องการถึงจุดอิ่มตัวของธุรกิจอีก โดยเฉพาะหุ้นอย่าง ADVANC-UCOM-TRUE ที่ประสบปัญหาดังกล่าวเต็มๆ จนทำให้นักลงทุนเมินที่จะเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะ ADVANC ยังมีปัญหาพ่วงเรื่องสัมปทานกรณีเทมาเส็กเข้ามาอีก ทำให้หุ้นมือถือไร้เสน่ห์กลายเป็นหุ้นในกลุ่ม SAMART ที่เข้ามาแทนที่ ด้วยธุรกิจดาวเทียม การขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีตัวชูโรงอย่างสามารถไอโมบาย หรือ SIM เข้ามาให้เป็นหุ้นที่โดดเด่นในกลุ่มนี้แทน เพราะถือเป็นกลุ่มที่มีผลประกอบการขยายตัวต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามก็ใช่ว่าภาพรวมของหุ้นสื่อสารจะสดใส เนื่องจากช่วง 1 ขวบปีที่ผ่านมานี้ โบรกเกอร์หลายแห่งต่างไม่แนะนำให้ลงทุน บางแห่งให้น้ำหนักการลงทุนที่ต่ำกว่าตลาดด้วยซ้ำไป จึงส่งผลให้นักลงทุนเลี่ยงไปลงทุนในหุ้นตัวอื่น หรือกลุ่มอื่นที่มีความสนใจมากกว่า ไม่เว้นแม้แต่นักลงทุนต่างประเทศที่ระยะหลังมานี้ ก็หันไปให้ความสนใจในหุ้นตัวอื่น และปรับลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวลง

อย่างไรก็ตามช่วง 1-2 เดือนมานี้ ก็เริ่มมีข่าวดีที่น่าจะช่วยหนุนหุ้นสื่อสารขึ้นมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการประกาศเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ TAC ที่มีผลทางจิตวิทยาให้หุ้นกลุ่มนี้สดใสขึ้นมาอีกรอบ เพราะได้หุ้นตัวใหม่มาช่วยเพิ่มตัวเลือกให้กับนักลงทุนบ้าง ในขณะที่ล่าสุดการที่นายสุทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวดาวโจนส์ ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า รัฐบาลจะไม่ยึดสัมปทานในกลุ่มชินฯ แม้หากพิสูจน์ได้ว่า บริษัท กุหลาบแก้วเป็นนอมินีของ เทมาเส็กก็ตาม แต่จะใช้วิธีการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากไม่อยากให้บรรยากาศการลงทุนในไทยเสียไป ก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้หุ้นกลุ่มนี้การปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้ารมว.ไอซีที ยืนยันมาตลอดว่าจะยึดสัมปทานทันทีหากสรุปว่ากุหลาบแก้วเป็นนอมินี ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากราคาหุ้นที่ลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว จึงยิ่งมีส่วนให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนมากขึ้น และอีกประเด็นหนึ่งของการปรับขึ้นก็คือการซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ ที่ช่วงหลังมานี้น่าจะมีการเปลี่ยนกลุ่มลงทุน หลังจากเข้ามาซื้อหุ้นบิ๊กแคปกลุ่มอื่นๆ จนใกล้จะเต็มเพดาน ก็น่าจะเปลี่ยนมาลงทุนในหุ้นดังกล่าวจึงส่งผลให้หุ้นกลุ่มสื่อสารเมื่อวานนี้ปรับเพิ่มขึ้นมาก




 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 03/05/2007 @ 22:11:56 :
* SCIBS ระบุต่างชาติซื้อดันหุ้นสื่อสารพุ่ง แต่งบฯQ1/50 ยังไม่สวย
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า หุ้นในกลุ่มสื่อสารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงในวันนี้ เป็นผลมาจากนักลงทุนต่างชาติ หันมาให้ความสนใจเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มดังกล่าว หลังจากที่ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติได้ซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร ซึ่งเป็นหุ้นบิ๊กแคปจนเต็มรูมแล้ว จึงเริ่มมาซื้อหุ้นบิ๊กแคปอื่นแทนซึ่งหุ้นกลุ่มสื่อสารเป็นหุ้นกลุ่มรองลงมาที่ได้รับความสนใจต่อ แต่อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มสื่อสารในไตรมาส1 ว่าน่าจะยังคงทรงตัวจากในไตรมาส 4 และมีแนวโน้มปรับลดลงได้อีก

"อุตสาหกรรมสื่อสารนั้น เริ่มถึงจุดอิ่มตัว และผู้ประกอบการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยังคงมีสงครามราคาอยู่ ดังนั้นจึงทำให้ธุรกิจสื่อสารไม่น่าจะปรับตัวดีขึ้นได้อีก ประกอบกับยังคงมีความเสี่ยงจากเรื่อง ความไม่แน่นอนของนโยบายทางภาครัฐ ซึ่ง กดดันให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขยายธุรกิจต่อไปได้ ดังนั้นจึงแนะนำ หลีกเลี่ยง หุ้นใหญ่ของกลุ่มสื่อสาร แต่สามารถซื้อหุ้นเล็กอย่าง หุ้น บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) เนื่องจากมีผลกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง " นางสาวมยุรี กล่าว


* ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำ Neutral อุตฯสื่อสาร
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล. ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุก่อนหน้าหน้านี้ รมว. ICT ได้กล่าวว่าในวันพฤหัสที่ 19 เม.ย.นี้แล้วที่คณะกรรมการฯจะตีความสัญญาสัมปทานโทรคมนาคมทุกฉบับแล้วเสร็จ หรือหากมีความล่าช้าก็ไม่น่าจะเกินสิ้นเดือน เม.ย. สาเหตุที่ต้องตีความ ก็เพราะการแก้ไขสัญญาสัมปทานโดยไม่ผ่านการพิจารณาจาก ครม. ซึ่งขัดกับ พรบ.ร่วมทุน พ.ศ.2535

อย่างไรก็ตาม รมว. ICT ให้ความเห็นว่า มีแนวโน้มว่าหากมีความผิดจริง ก็ไม่ถึงกับต้องแก้สัมปทานหรือต้องย้อนกลับไปใช้สัมปทานเดิม แต่น่าจะใช้โอกาสนี้ในการต่อรองให้มีการปรับส่วนแบ่งรายได้ให้เท่าเทียมกันทั้งอุตสาหกรรมคือ ในอัตรา 25% และเราคาดว่าผู้ประกอบการที่รับสัมปทานก็คงจะยอมรับเพื่อลดความขัดแย้งในระยะนี้ถนอมตัวซื้อเวลารอรัฐบาลใหม่ น่าจะเป็นทางออกที่สวยกว่า

หากอัตราส่วนแบ่งรายได้ปรับเป็น 25% ทั้งอุตสาหกรรม ผลกระทบคือ กำไรสุทธิของ ADVANC จะปรับตัวลดลง 8% ในปี 51 และราคาพื้นฐานปรับลดลง 5% เป็น 109 บาท ซึ่งก็ยังมี Upside จากราคาปิดถึง 47% ขณะที่ไม่มีผลกระทบกับ TAC กับ TrueMove ทั้งในเรื่องกำไรสุทธิและราคาพื้นฐาน เพราะปัจจุบันก็จ่ายในอัตรา 25% อยู่แล้ว

ส่วนประเด็นเรื่องอายุของสัมปทานก็ไม่น่าจะกำหนดให้สั้นกว่าปี 2556 เนื่องจากเป็นปีที่มาถึงเร็วที่สุดของผู้ประกอบการทุกค่าย อีกทั้งก็จะไม่มีผลกระทบรุนแรง เนื่องจากเมื่อมาถึงเวลานั้น เราคาดว่าจะมีการนำใบอนุญาต 3G มาใช้แล้ว และผู้ประกอบการก็สามารถที่จะโอนย้ายลูกค้าในปัจจุบันไปอยู่ภายใต้ใบอนุญาต 3G ได้

คาดว่าข่าวร้ายทั้งปวงและโอกาสที่คาดการณ์กำไรสุทธิจะปรับลดลงบ้างได้สะท้อนไปในราคาหุ้นพอสมควรแล้ว แม้ว่าความเสี่ยงจากนโยบายจากภาครัฐจะกดดันให้การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในระยะสั้นถึงกลางไม่ให้ไปไหน แต่เรากลับมองว่าเป็นโอกาสดีในการสะสมหุ้นเพื่อการลงทุนในระยะยาว และรอการประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วง 4Q50 นั่นคือมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศแล้วนั่นเอง แนะนำ ซื้อ ADVANC ข้อดีคือ จ่ายปันผลได้สูง คาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปี 50 เป็น 8.5% และ TRUE คาดว่า จะได้รับผลดีจากการหยุดจ่าย Access Charge ทำให้ขาดทุนสุทธิปี 50 ลดลงเป็น 3.0 พันล้านบาท จากปี 49 ที่ขาดทุนสุทธิ 4.2 พันล้านบาท

นักวิเคราะห์จาก บล.กิมเอ็ง เผยว่า มีมุมมองเป็นลบ ต่อ กลุ่มสื่อสาร เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านกฎเกณฑ์และนโยบายรัฐบาล ซึ่งมีหลายประเด็นที่ยังไม่มีข้อสรุป เช่น ค่าแอ็คเซสชาร์จ และการจัดสรรความถี่ใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ รมว. กระทรวงไอซีทียังยืนยันถึงความพยายามที่จะสร้างสภาพการแข่งขันที่เท่าเทียมกันและมีเงื่อนไขสัมปทานที่เหมือนกันด้วย และ ADVANC มีโอกาสเสียประโยชน์จากแนวคิดดังกล่าว

ราคาปิดหุ้นสื่อสาร ณ วันที่ 3 พ.ค. 50

หุ้น ราคาปิด เพิ่มขึ้น(บ.) % มูลค่าการซื้อขาย(ลบ.)
1.ADVANC 82.00 4.00 5.13 552.58
2.SAMTEL 8.75 0.05 0.58 0.66
3.SATTEL 7.30 0.10 1.39 21.98
4.SHIN 28.25 2.50 9.71 19.56
5.SIM 19.00 - - 9.19
6.SAMART 8.55 -0.05 -0.58 22.72
7.TRUE 6.90 0.35 5.34 393.63
8.TT&T 1.09 0.01 0.93 73.19
9.UCOM 60.50 -2.00 -3.20 13.14
10.FORTH 8.05 0.15 1.90 53.07

ที่มา : eFinanceThai.com


[/color:7014e7d0ce">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com