April 30, 2024   6:44:07 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : เกมการเงิน...ก็เป็นแบบนี้แหล่ะ
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 30/04/2007 @ 08:43:39
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*กระแสสงคราม board room ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน "โมนิก้า" เข้าใจว่าเกิดจากบรรดาพ่อมดการเงินหวนกลับเข้ามาในตลาดหุ้นโดยอาศัยญาติสนิทมิตรสหายเป็นร่างทรงเข้ามาปั้นบริษัทพื้นๆ ให้เป็นบริษัทดาวรุ่ง(ผีพุ่งใต้ ) และผลลัพธ์ที่ออกมาก็เป็นที่พอใจอย่างมาก เพราะพวกพ่อมดฟาดกำไรเข้ากระเป๋ากันจนตุง ส่วนนักลงทุนรายย่อยก็กลายเป็นเหยื่อของวิศกรรมการเงินอีกตามเคย

*ประเด็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับ "ทีมงานข่าวหุ้น" เพราะรับรู้กันมาเนิ่นนานว่า ร่างทรงพ่อมดการเงินมีอยู่เกลื่อนตลาดหุ้น...ครั้นจะลงมือดันราคาหุ้นก็ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ เพราะมีผู้ร่วมเล่นเกมการเงินหลายก๊วน ประกอบกับสตอรีที่ช่วยในการดันราคาก็มีออกมาเป็นระยะ ราคาหุ้นถึงได้วิ่งระเบิดระเบ้อจนกว่ารายใหญ่จะออกของหมดเมื่อนั้นราคาหุ้นจะอ่อนปวกเปียกเป็นมะเขือเผาในทันทีพะยะค่ะ
*งานนี้จึงอยู่ที่ใจนักลงทุนอยากเล่นหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ หรือซื้อหุ้นพื้นฐานลงทุนระยะยาวเพราะเกมการเงินพลิกเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นการพิสูจน์ประสิทธิภาพหน่วยงานตลาดหลักทรัพย์ ฯ และ กลต. จะกระชากหน้ากากผู้บงการฉากหลังได้หรือไม่...อิอิอิ

*โรคหวาดผวาของผู้บริหาร ที่ถือหุ้นไม่มาก อาจเกิดขึ้นกับอีกหลายบริษัท และล่าสุดก็เพิ่งเกิดขึ้นกับ EMC จนผู้บริหารถึงกับต้องประกาศให้เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นออกไป จากวันที่ 27 เม.ย. ไปเป็นวันที่ 11 พ.ค. แทน เนื่องจากมีผู้ถือหุ้นจำนวนหนึ่งเข้ามาถือหุ้นของบริษัท โดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน จึงต้องถอยเพื่อไปตั้งหลักกันก่อน

*สำหรับบทเรียนที่ทำให้ EMC ต้องถอยกรูดไม่เป็นท่าในคราวนี้ คงมาจากการประชุมผู้ถือหุ้นของ ASL แต่รายนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่เสี่ยไมค์กับเสี่ยผิน จับมือกัน ป้องกันไม่ใช่คนนอกเข้ามาบงการ หรือเข้ามาคุมอำนาจบริหารได้ประกอบกับมีแบ็กดีทำให้มีการรวบรวมหุ้นได้จำนวนมากส่งผลให้คะแนนโหวตทิ้งห่างกลุ่มบุคคลไม่พึงประสงค์ขาดลอย

*งานนี้ต้องบอกว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ ASL เตรียมตัวกันมาดี ผิดกับรายของ EVER ที่กลุ่มตระกูลโลจายะถูกห่ำหั่นแบบไม่มีชิ้นดี จากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ที่เข้ามาคุมอำนาจบริหารโดยให้ชนะชัย ลีนะบรรจง เข้ามาเป็นกรรมการ ซึ่งในไม่ช้า ?โมนิก้า?เชื่อว่าจะต้องมีการโละบอร์ดที่อยู่ในเครือข่ายของตระกูลโลจายะออกหมดแน่นอนคะ

*เท่าที่รู้มาว่ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่นี้ติดหุ้นกันเยอะ ก็อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า ให้ระวังว่างานจะมีการล้มมติการเพิ่มทุน ซึ่งตรงนี้เดี๊ยนมองว่า การล้มมติครั้งนี้ ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เข้าไปเก็บหุ้นก่อน XR หวังจะได้สิทธิในการจองซื้อหุ้นที่สัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 1 บาท นั้น ต้องขาดทุนจากการไดลูทชั่น เอฟเฟ็กต์ ไปเรียบร้อยแล้วในขณะที่มติดังกล่าวล้ม

*ถ้าจะให้ตลาดหลักทรัพย์ฯเข้ามาดูแลรื้อเรื่องเก่าขึ้นมา ก็คงจะทำอะไรไม่ได้มากแต่ถ้าจากนี้ไปให้จับตาดูว่าจะมีกลุ่มใดเข้ามาดันราคาหุ้น EVER หรือเปล่า เพราะสัญชาติของ"โมนิก้า" มันแบบแล้วว่าราคาหุ้นจะต้องไปไกลถึง 5 บาท ส่วนจะเป็นเพราะอะไรนั้น คงไม่ต้องถามมาก ย้อนกลับไปดูข้อความเก่าๆ ที่เคยเขียนไว้ ว่ารายใหญ่กลุ่มนี้ติดหุ้นราคาสูงเพราะถูกหลอกให้มาซื้อหุ้น แต่เจ้าของกับอดีตเจ้าของกลับทุบลงมาเอง งานนี้คนที่ลอยลำที่สุดคืออดีตเจ้าของ ซึ่งตอนนี้ล้างพอร์ตไปเรียบร้อยแล้ว และนี่คือเหตุผลที่กลุ่มนี้ต้องไปล่อ ASL

*ด้านหุ้น ATC ที่เคยเชียร์ไว้ นั้น ตอนนี้ราคาหุ้นก็สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีไปเรียบร้อยแล้ว ก็เห็นไหมละคะ ที่บอกไว้ว่าก่อนควบรวมกับ RRC ต้องดันให้สูงๆ เข้าไว้ เพราะจะได้เป็นคนเทก ไม่ใช่ถูกเทก ทฤษฎีนี้ของ "โมนิก้า" ยังสามารถใช้อ้างอิงการปรับตัวขึ้นของราคา ATC ได้อยู่ ตราบใดที่ยังไม่มีการควบรวมกัน

*เท่านั้นยังไม่พอ ประมาณการราคาผลิตภัณฑ์ก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือได้ว่าปีนี้ก็เป็นปีทองของธุรกิจปิโตรเคมี โดยเฉพาะสายอะโรเมติกส์อย่างเห็นได้ชัด งานนี้คนที่ได้รับความดีความรับไปเต็มๆ คงไม่พ้น เพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์กรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่ฝีมือไม่เป็นรองเอ็มดีคนเก่าเลยนะคะ รับรองปีนี้พนักงานหน้าบานรับโบนัสกันหลายเดือนคะ ราคาหุ้นปิดที่ 51.50 บาทคะ

*ย้ำเตือนกันอีกครั้งว่า สภาพตลาดหุ้นยามนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเงินจริงๆ หรือไม่ก็เป็นพวกเสือปืนไวไปเลย...ใครที่รู้ตัวว่าไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว ควรรออยู่นอกตลาดเป็นการชั่วคราวเจ้าค่ะ



 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com