May 16, 2024   11:42:17 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 9 หุ้นน่าสน กำไรดี-ราคาถูก และ10อันดับที่น่ากำไรสุดในปีนี้
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 23/04/2007 @ 09:37:15
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สมาคมนักวิเคราะห์เปิดผลสุ่มสำรวจ บจ.ขนาดกลางและใหญ่ พบ 9 บริษัท ราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคามูลค่าพื้นฐาน หวังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าลงทุนเพิ่ม

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (SAA) กล่าวว่า ผลสำรวจหุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่ของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ พบว่ามีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 9 บริษัท ที่นักวิเคราะห์เห็นว่าราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 18 เมษายน 2550 ยังต่ำกว่าราคาที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานอยู่มาก เฉลี่ย 7-27%

บริษัท ศุภาลัย (SPALI) มีราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐานสูงถึง 27.03% บริษัท ปตท. (PTT) 25.13% บริษัท อสมท (MCOT) 18.93% ธนาคารกรุงเทพ (BBL) 18.87% ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) 14.79% บริษัท การบินไทย (THAI) 14.63% บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) 12.13% บริษัท ไทยออยล์ (TOP) 9.45% และบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) 7.58%

ทั้งนี้ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา สมาคมนักวิเคราะห์ได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ และบริษัท เซ็ทเทรด ดอทคอม รวบรวมข้อมูลพื้นฐานและสถิติสำคัญของ บจ. หรือที่เรียกว่า SAA consensus ผ่านเว็บไซต์ของเซ็ทเทรด อาทิ สรุปหุ้นที่มีการคาดการณ์ตัวเลขกำไรเฉลี่ยที่ถูกปรับเพิ่มขึ้นและลดลงสูงสุด 10 อันดับแรก หุ้นที่มีค่าเฉลี่ยการโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 2550 โตสูงสุดและต่ำสุด 10 อันดับแรก

?ที่ผ่านมามีผู้ลงทุนสนใจเข้าดูข้อมูลจำนวนมาก แต่ยังเป็นฐานผู้ลงทุนกลุ่มเดิมและเห็นว่ายังสามารถเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ไปยังผู้ลงทุนในวงกว้างได้อีก ทำให้สมาคมฯ ตั้งใจจะกระตุ้นให้นักลงทุนได้เห็นประโยชน์ข้อมูลเหล่านี้อีกครั้ง เพราะคาดหวังว่าจะเป็นส่วนกระตุ้นการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะขณะนี้เป็นจังหวะที่เศรษฐกิจของประเทศ ซบเซา ภาวะหุ้นไม่ค่อยดี ข้อมูลดังกล่าวจะชี้โอกาสการลงทุนให้นักลงทุนเห็นว่ายังมีหุ้นอีกหลายตัวสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว? นายสมบัติ กล่าว

สำหรับข้อมูลล่าสุดจากการวิเคราะห์ พบว่า บจ. 10 อันดับแรก ที่คาดว่าจะมีการเติบโตกำไรสุทธิ (EPS Growth) สูงสุดปี 2550 มีค่าเฉลี่ยระหว่าง 200% ขึ้นไป และบางบริษัทโตเกือบ 3,000% โดย
อันดับแรก คือ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค (PF) คาดว่าจะเติบโต 2,950%
บริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ (AI) คาดว่าจะเติบโต 1,116%
บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) หรือ SLC คาดว่าจะเติบโต 650%
บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) คาดว่าจะเติบโต 580%
บริษัท ชินแซทเทลไลท์ (SATTLE) คาดว่าจะเติบโต 475%
บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม (BCP) คาดว่าจะเติบโต 310% และ
บริษัท เท-เทค คอนสตรัคชั่น (KTECH) จะเติบโต 262% เป็นต้น

นอกจากนี้ มี 7 ใน 10 บริษัทนี้ พบว่าราคาหุ้นในกระดานยังต่ำกว่าราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน เฉลี่ยตั้งแต่ 14-71% โดย 3 อันดับแรกได้แก่
SATTEL ยังต่ำกว่า 71.97%
สำหรับ PF ยังต่ำกว่า 41.23%
BCP ต่ำกว่า 40.71% ชี้ให้เห็นว่าบริษัทเหล่านี้ราคายังต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานมาก

?SATTEL ที่ติดอันดับแรกนั้น น่าจะเกิดจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับข่าวความเสี่ยงบางประการทางธุรกิจและข่าวเชื่อมโยงกับผู้ถือหุ้น ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำลงกว่ามูลค่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้? เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์กล่าว

Posttoday

[/color:5f5ecf50df">

 กลับขึ้นบน
brown
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 60
#1 วันที่: 23/04/2007 @ 10:21:48 :
[b:3e5eba4f0b">ความเสี่ยงทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อนโยบายเศรษฐกิจยังมีอยู่

ทำให้หุ้นดีๆไม่ไปถึงไหน ถ้าการเมืองดีผมก็อยากซื้อเก็บไว้หลายตัว ตลาดหุ้นไทยยังมีหุ้นดีอีกเยอะแยะจริงๆครับ น่าเสียดาย..... เพราะการเมืองแท้ๆ[/b:3e5eba4f0b">[/color:3e5eba4f0b">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com