??? สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 410 | วันที่: 23/04/2007 @ 09:14:53 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต เปิดโผ 27 หุ้นอันตราย แบงก์พาณิชย์เล็งขายทิ้ง เหตุผิดเกณฑ์แบงก์ชาติว่าด้วยการถือครองหุ้นบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก(นอนคอร์) นำโดย PYT BH BMCL SSIGSTEEL CNT PE SUC TGPRO AMAC MGR และ TUNTUX เผยมีกำหนดเส้นตายต้องขายออกภายในปีนี้ ขณะที่ BBL และ TMB มีหุ้นให้โละทิ้งมากสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ไทยขายหุ้นที่ธนาคารถืออยู่ในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของธนาคาร(นอนคอร์)ออกไปให้หมดภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบธนาคาร ซึ่งจากการตรวจสอบของ"ข่าวหุ้นธุรกิจ"พบว่ามีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 27ตัว ที่ถือหุ้นโดยธนาคารและอาจถูกขายออกมาในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งหากมีการขายออกมาก็อาจกระทบกับผู้ถือหุ้นรายย่อย
โดยในส่วนของธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)หรือ BBL ถือหุ้นที่เป็นนอนคอร์ทั้งสิ้นจำนวน 11 ตัว ประกอบด้วย TUNTEX จำนวน 31.1% ของทุนจดทะเบียน,TGPROจำนวน 3.2 ล้านหุ้น หรือ 1.82%,AMAC จำนวน 1.89 ล้านหุ้น หรือ 2.53%,BSI จำนวน7 ล้านหุ้น หรือ 4.42%,DTM จำนวน 19.5 ล้านหุ้น หรือ 1.80%,BH จำนวน 7.89ล้านหุ้น หรือ 1.08% ,SUC จำนวน 12.3 ล้านหุ้น หรือ 4.11% และ EMC จำนวน 80ล้านหุ้น หรือ 18.64%, CNT 12.31 ล้านหุ้น หรือ 3.07% และ TDT จำนวน 30ล้านหุ้น หรือ 5.68%
นอกจากนี้ BBL ต้องขายหุ้น ACL จำนวน 19% ออกไปด้วย ซึ่งในส่วนของ ACL ไม่ได้ผิดเกณฑ์เรื่องของนอนคอร์ แต่ผิดเกณฑ์เรื่องการห้ามแบงก์พาณิชย์ถือหุ้นแบงก์พาณิชย์ด้วยกันเอง ซึ่ง BBL จะต้องขายหุ้น ACL ออกจำนวน 9% ภายในครึ่งปีแรก และขายออกทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้
ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)หรือ BAY มีนอนคอร์ที่ต้องขายทิ้งจำนวน4 ตัว ประกอบด้วย บริษัทวงศ์ไพทูรย์กรุ๊ป จำนวน 28.86% ของทุนจดทะเบียน,AMACจำนวน 3 ล้านหุ้น หรือ 4% ,PYT จำนวน 68.25 ล้านหุ้น หรือ 15.76% และ SSIจำนวน 225 ล้านหุ้น หรือ 1.72%
ขณะที่ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด(มหาชน)หรือ BT มีนอนคอร์ที่จะต้องขายทิ้งจำนวน3 ตัว ประกอบด้วย TGPRO จำนวน 4 ล้านหุ้น หรือ 2.24% ,MGR จำนวน 13.74ล้านหุ้น หรือ 2.29% และ TPROP จำนวน 3.3 ล้านหุ้น หรือ 1.66%
ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)หรือ SCB มีนอนคอร์ที่จะต้องขายทิ้งจำนวน3 ตัว ประกอบด้วย CNT จำนวน 166 ล้านหุ้น หรือ 41.46% ,LTX จำนวน 1 ล้านหุ้นหรือ 1.94% และ PE จำนวน 22.9% ของทุนจดทะเบียนที่มีอยู่ 8 พันล้านบาท
สำหรับธนาคารนครหลวงไทย จำกัด(มหาชน)หรือ SCIB มีนอนคอร์ที่ต้องขายทิ้งจำนวน 2 ตัว คือ TGPRO จำนวน 45 ล้านหุ้น หรือ 25% และ CPICO จำนวน 4ล้านหุ้น หรือ 7% ของทุนจดทะเบียน
ทางด้านธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน)หรือ TMB มีนอนคอร์ที่ต้องขายทิ้งจำนวน9 ตัว ประกอบด้วย BMCL จำนวน 275.34 ล้านหุ้น หรือ 2.30% ,THECO จำนวน 21.85% ,YNP จำนวน 3 ล้านหุ้น หรือ 0.94% ,AMAC จำนวน 3.53 ล้านหุ้น หรือ 4.72%,TGPRO จำนวน 3.4 ล้านหุ้น หรือ 1.93%,GSTEEL จำนวน 166.5 ล้านหุ้น หรือ 1.50%,UVAN จำนวน 1.42 ล้านหุ้น หรือ 1.51% ,MGR จำนวน 43.4 ล้านหุ้น หรือ 7.24%และ PYT จำนวน 2.25 ล้านหุ้น หรือ 0.52%
สำหรับกลุ่มธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน)หรือ TBANK มีนอนคอร์ที่ต้องขายทิ้งจำนวน2 ตัว ประกอบด้วย AMAC จำนวน 1.67 ล้านหุ้น หรือ 2.29% และ PRG จำนวน 5.87ล้านหุ้น หรือ 9.79%
ขณะที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)หรือ KTB มีนอนคอร์ที่ต้องขายทิ้งจำนวน 3ตัว ประกอบด้วย TGPRO จำนวน 28.96 ล้านหุ้น หรือ 16% ,BMCL จำนวน 471.25ล้านหุ้น หรือ 3.94% และ MGR จำนวน 70 ล้านหุ้น หรือ 11.73%
ส่วนธนาคารทิสโก้ จำกัด(มหาชน)หรือ TISCO มีนอนคอร์ที่ต้องขายทิ้งจำนวน 2 ตัวประกอบด้วย PAF จำนวน 5.25 ล้านหุ้น หรือ 0.97% และ SUC จำนวน 4.65ล้านหุ้น หรือ 1.65% และธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)หรือ KBANK มีนอนคอร์ที่ต้องขายทิ้งจำนวน 1 ตัว คือ MGR จำนวน 98 ล้านหุ้น หรือ 16.34%
อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์สามารถที่จะขออนุญาตแบงก์ชาติเป็นกรณีพิเศษในการยืดระยะเวลาในการจำหน่ายและถือครองหุ้นนอนคอร์ออกไปได้ แต่ต้องมีเหตุผลมากพอสมควรอาทิเช่น เพิ่งได้หุ้นมาจากการแปลงหนี้เป็นทุน เป็นต้น
|