May 16, 2024   10:46:26 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เบื้องหลัง...เกมยึดหุ้นใหญ่ "ซีมิโก้
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 20/04/2007 @ 22:29:13
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เกาะติด..เกมร้อน "บล.ซีมิโก้" ที่วันนี้กลุ่ม "นุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา" เข้ามาวางขุมกำลังได้สำเร็จ สเต็ปแรก..ถอนทุนคืนด้วยมิติจ่ายปันผล "สุดโอเวอร์" ถ่ายเงินสดออกจากบริษัท 390 ล้านบาท ก่อนวางหมากจับ "บล.ซีมิโก้" ควบรวมกับ "บล.ไซรัส"



การเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่..รายใหม่ ใน บล.ซีมิโก้ ของ Strategic Capital Acquisitions (S.F.C.) Limited ผ่าน "โบรกเกอร์ นอมินี" 2 แห่ง ได้แก่ Quam Securities Company Limited และ Quam Securities Nominee (Singapore) Pte.Limited ถือหุ้นในสัดส่วน 16.91%

เบื้องลึกของเกมนี้..กล่าวกันว่า มี "นุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา" อดีตผู้บริหารเก่า บล.ซีมิโก้ เป็นแกน ซึ่งบุคคลผู้นี้มีรายชื่ออยู่ในบัญชีดำของ ก.ล.ต. จนต้องลาออกจากการเป็นผู้บริหารของบริษัท เมื่อหลายปีก่อน

คนในวงการโบรกเกอร์ ระบุว่า นุประพัทธ์ สนิทสนมมากกับ "ชัชวาลย์ เจียรวนนท์" ประธานกรรมการ บล.ไซรัส ที่เพิ่งยึดกุมอำนาจมาจาก "อนุชา สิหนาทกถากุล" เมื่อไม่นานมานี้ เพราะฉะนั้นกระแสข่าว "บล.ซีมิโก้" จะควบรวมกับ "บล.ไซรัส" จึงมีมูลความจริงมาโดยตลอด

ประเด็นที่น่าสนใจ กรณีของ "บล.ซีมิโก้" ก็คือ เส้นทางการ "ถอนทุนคืน" ของผู้ถือหุ้นรายใหม่ โดยใช้โอกาสการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ประจำปี 2550 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2550 ส่งตัวแทนเข้าไป และกลับมติการจ่ายเงินปันผล งวดประจำปี 2549 จากที่อนุมัติไปแล้วในอัตรา 0.187 บาทต่อหุ้น (Pay Out Ratio 100% อยู่แล้ว) เป็น 0.50 บาทต่อหุ้น

ทั้งๆ ที่ บล.ซีมิโก้ มีกำไรสุทธิประจำปี 2549 เพียง 156 ล้านบาท หรือ 0.19 บาทต่อหุ้น แต่อนุมัติให้จ่าย 390 ล้านบาท หรือ 0.50 บาทต่อหุ้น เท่ากับเป็นการ "ถ่ายโอน" กระแสเงินสดของ บล.ซีมิโก้ มาเข้ากระเป๋ากลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ ซึ่งคาดว่ากลุ่มนี้น่าจะมีสัดส่วนการถือหุ้น รวมกันไม่ต่ำกว่า 25%

การประลองกำลังกันอย่างดุเดือด..เมื่อรู้ว่ากลุ่มใหม่ชนะ "กรรมการ บล.ซีมิโก้" ชุดเก่า ถึง 4 คน จึงแสดงสปิริตที่จะไม่ขอกลับมาเป็นกรรมการอีกวาระ ได้แก่ พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา, วิลเลียม แฮง แมน เชาว์, ชัชวาล เอี่ยมศิริ และ ดวงรัตน์ วัฒนพงศ์ชาติ

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะถูกเขียนบทไว้เรียบร้อยแล้ว ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ได้เสนอชื่อกรรมการใหม่ขึ้นมาแทนทันที ประกอบด้วย ชัยภัทร ศรีวิสารวาจา, พินิจ พัวพันธ์, ประพันธ์ อัศวอารี และ พรพรรณ พรประภา

พลิกแฟ้มประวัติพบว่า "ชัยภัทร ศรีวิสารวาจา" เป็นกรรมการอิสระใน บมจ.จี สตีล ธนาคารธนชาต และ บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป ของ "ชาญ บูลกุล" ซึ่งตระกูลบูลกุล ก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บล.ซีมิโก้ ผ่าน วรินทร บูลกุล และ วรุฒ บูลกุล

ขณะที่ "พรพรรณ พรประภา" เป็นกลุ่มเดียวกับ ชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ถือหุ้นใหญ่อยู่ใน บมจ.นวลิสซิ่ง "ประพันธ์ อัศวอารี" ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาอยู่ที่ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท ส่วน "พินิจ พัวพันธ์" เป็นกรรมการตรวจสอบ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์

แหล่งข่าวระดับสูงจาก บล.ซีมิโก้ กล่าวว่า คนที่ถูกส่งเข้ามาจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ มีความสัมพันธ์กับกลุ่มของ นุประพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ที่ต้องการให้มีการควบรวมกิจการระหว่าง บล.ซีมิโก้ กับ บล.ไซรัส

ส่วนตัวแล้วมองว่าการควบรวมไม่ได้ทำให้เกิดผลดี ในอดีต บล.กิมเอ็ง ควบรวมกับ บล.หยวนต้า ช่วงแรกมาร์เก็ตแชร์รวมกัน 18% ปัจจุบันลดเหลือ 7-8% แม้แต่ บล.เอเซีย ควบรวมกับ บล.แอสเซท พลัส มาเป็น บล.เอเซีย พลัส ปัจจุบันมาร์เก็ตแชร์ยังเหลือแค่ 5-6%

แหล่งข่าวรายนี้ กล่าวต่อว่า การนำกำไรสะสมมาจ่ายปันผล ยิ่งจะทำให้ฐานเงินทุนของบริษัทหายไปมาก หากในอนาคตมูลค่าการซื้อขายของ SET สูงถึงวันละ 2-3 หมื่นล้านบาท อาจทำให้ บล.ซีมิโก้ มีปัญหาในการปล่อย Margin Loan

แผนการต่อไป มีการวิเคราะห์กันต่อว่าจะมีการออกข่าวควบรวมกับ บล.ไซรัส อย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการ "กระตุ้นราคาหุ้น" โดยพุ่งเป้าไปที่หุ้น บล.ไซรัส มากกว่าหุ้น บล.ซีมิโก้

"การปลุกหุ้นไซรัส ผู้ถือหุ้นใหญ่จะได้ประโยชน์กว่าการปลุกหุ้นซีมิโก้ เพราะจริงๆ แล้วกลุ่มทุนส่วนใหญ่อยู่ในไซรัสมากกว่า และหุ้นไซรัสก็ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี การที่ใหญ่ควบเล็ก หุ้นเล็กจะได้ประโยชน์มากกว่า" นักวิเคราะห์รายหนึ่งแสดงความเห็น

**********************************************

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com