Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 20/04/2007 @ 08:17:11 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต บล.กิมเอ็งแนะนำซื้อ HMPROราคาเป้าหมาย 6.00 บาทการเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิม (Same-store sales) การเปิดสาขาใหม่ และงานHomePro Expo จะเป็นปัจจัยผลักดันกำไรไตรมาส 1/50 ของ HMPRO โดยเราคาดว่ายอดขายต่อสาขาจะเพิ่มขึ้น 3% เทียบกับไตรมาส 1/49 ที่ติดลบ 6.7% (จากผลของการแย่งลูกค้ากันเองของบางสาขาในกรุงเทพฯ) นอกจากนั้น HMPRO ยังมีสาขาเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 7 สาขา ด้วยพื้นที่ขายรวมราว 40,000 ตารางเมตร อีกทั้งงาน Expo ที่จัดในเดือนมีนาคมสร้างยอดขายราว 400 ล้านบาทคาดว่าจะถูกรับรู้ในไตรมาส 1/50 ราว 45%หรือ 180 ล้านบาท
ขณะที่รายได้ค่าเช่าคาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดดเนื่องจากมีการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากสาขาหัวหิน ซึ่งมีพื้นที่เช่ามากที่เปิดในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ดังนั้นเราคาดการณ์กำไรไตรมาส 1/50 เท่ากับ 137 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 16% yoyแนวโน้มของบริษัทยังคงสดใสโดยจะได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยภายในเช่น การขยายสาขาการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม งาน Expo และรายได้ค่าเช่าที่ต่อเนื่อง ขณะที่มีปัจจัยบวกภายนอกคืออัตราดอกเบี้ยที่ลดลงซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค นอกจากนั้นมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่อาจออกมาในอนาคตก็จะส่งผลบวกทางอ้อม ต่อตลาดสินค้าเกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัยกำไรปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 18% เป็น 720ล้านบาท โดยจะมีการรับรู้รายได้เต็มปีจากสาขาที่เปิดตั้งแต่ปีที่แล้วถึง 6 สาขา ขณะที่บริษัทคาดว่าจะเปิดสาขา 5 แห่งในปีนี้ โดยได้เปิดไปแล้ว 2 สาขาในไตรมาสแรกที่เพชรเกษมและชลบุรี ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งสาขาในกรุงเทพฯ และ 2 สาขาในต่างจังหวัดจะเปิดในปีนี้ซึ่งจะทำให้ปีนี้ HMPRO มีสาขารวมเป็น 31 สาขาซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่เคยวางไว้
บล.เอเชียพลัสแนะนำซื้อ RRCราคาเป้าหมาย 19.00 บาทฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรสุทธิงวด 1Q50 เท่ากับ 2.29 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 171%qoqตามค่าการกลั่นที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากอากาศหนาวเย็นในหลายภูมิภาคของโลก รวมถึงโรงกลั่นหลายแห่งในแถบยุโรปและอเมริกามีการหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุง ทำให้ Supplyน้ำมันสำเร็จรูปบางส่วนหายไปจากตลาด ขณะที่ Demand ยังอยู่ในระดับสูง โดยคาดMarket GRM เท่ากับ 7.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเมื่อรวมกับ Stock Gain อีกราว1.23 เหรียญฯต่อบาร์เรล เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเดือน ก.พ. และมี.ค. ส่งผลให้ Net GRM ในงวดนี้เท่ากับ 8.35 เหรียญฯต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามคาดUtilization rate ในงวดนี้จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 96% เนื่องจากเกิด UnplannedShutdown จากหน่วยผลิตก๊าซโซลีนของโรงกลั่น SPRC มีปัญหาเป็นเวลา 15 วัน (6-20มี.ค. 2550) และก่อให้เกิดการ Slow down ของหน่วยผลิตต่อเนื่องอีกราว 5 วัน ส่งผลให้บริษัท ARC (RRC และ SPRC) เดินเครื่องผลิตได้ลดลง นอกจากนี้คาดจะบันทึก FXGain จากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นราว 160 ล้านบาท ทั้งนี้ตั้งแต่งวด 1Q50 เป็นต้นไป RRC จะเริ่มใช้ประโยชน์การเข้าจดทะเบียนในตลท.ทำให้เสียภาษีในอัตรา 25% เป็นระยะเวลา 5ปี คาดการณ์แนวโน้มค่าการกลั่นจะยังดีต่อเนื่องในงวด 2Q50 เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมาเนืองจากเป็นช่วงฤดูกาลขับขี่ (Driving Season) ในอเมริกา และมีโรงกลั่นบางแห่งในทวีปเอเชียมีแผนจะหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงหลังจากเดินเครื่องเต็มที่ในช่วงฤดูหนาวในงวด 1Q50 ทำให้คาดว่า Supply จะหายไปราว 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้หากพิจารณาราคาหุ้นพบว่ามี Upside อยู่ราว 6% จาก Fair Value ที่ 19 บาท/หุ้น จึงแนะนำให้ทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว จากปัจจัยบวกทั้ง GRM และการควบรวมกิจการกับ ATC ที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยคาดว่า PTT จะประกาศการควบรวมได้ในช่วงปลาย พ.ค.หรือ ต้น มิ.ย. 2550 และคาดว่าการควบรวมจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2550
[/color:07ac52a7d2">
|
