*คราใดที่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจในทิศทางตลาดหุ้น เมื่อนั้นตลาดหุ้นมักอ่อนปวกเปียกเป็นมะเขือเผาทุกครั้งไป "โมนิก้า" ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้เห็นดัชนีอ่อนตัวลงไป 2.76 จุดก่อนจะมาปิดที่ 692.27 จุด เพราะอารมณ์ของนักลงทุนยามนี้แปรปรวนยิ่งกว่าหญิงวัยทองเสียอีกเจ้าค่ะ

*เดี๊ยนเองไม่ค่อยหวาดวิตกอะไรมากมาย เพราะเคยเห็นดัชนีแกว่งตัวไปมาไร้ทิศทางเป็นประจำ จึงรู้สึกเฉยๆ หากดัชนีไปต่อไม่ไหว แล้วอ่อนตัวหลุดแนวรับ 690 จุดลงไปอย่างง่ายดาย หลังสถานการณ์รอบตลาดหุ้นไม่เป็นใจให้นักลงทุนกระโจนไล่ซื้อหุ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย

*ยิ่งมีนักวิเคราะห์บางคนเสนอหน้าแสดงความคิดเห็น ดัชนีอ่อนตัวลงเป็นเพราะวิตกกังวลว่าผลประกอบการไตรมาส 1 ของหุ้นกลุ่มแบงก์ที่จะเริ่มประกาศ อาจออกมาไม่ดีอย่างที่หลายคนคาด ถึงได้มีแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นฉนวนเหตุให้นักลงทุนชลอการลงทุน เพื่อรอดูทิศทางที่ชัดเจนของตลาดหุ้นไงหล่ะค่ะ

*บรรยากาศการลงทุนวานนี้ถึงได้ซบเซาเหลือเกิน ขนาด "โมนิก้า" เดินไปเข้าห้องน้ำหลายรอบ วอลุ่มการซื้อขายก็กระเตื้องขึ้นได้แค่นิดเดียวแบบนี้...สงสัยความฝันที่จะได้เห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 700 จุดภายในสัปดาห์นี้ คงกลายเป็นฝันค้างตอนกลางวันแสกๆ อีกแล้วเจ้าค่ะ

*เมื่อนักวิเคราะห์มีมุมมองในเชิงลบต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ แรงเทขายก็เลยพุ่งเป้ามาที่หุ้นกลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก จนหุ้นตัวหลักเซถลาปิดลบแดงเถือกกันเป็นแถบ และส่อแววจะอ่อนตัวลงไปอีก หากผลประกอบการออกมาแย่เหมือนที่หมอดูบางสำนักทายทักไว้นะจ๊ะ

*ในทางกลับกัน "โมนิก้า" กลับไม่ได้มองเช่นนั้น เพราะหากเปรียบเทียบศักยภาพแบงก์ชั้นนำของประเทศอย่าง BBL KBANK SCB KTB และ BAY ก็เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถในการทำกำไร เพียงแต่ผลบกำไรที่ออกมาอาจไม่เป็นเหมือนที่คาดการณ์ไว้แต่ไม่ได้หมายความว่าหุ้นกลุ่มนี้ไม่น่าลงทุนสักหน่อย

*เนื่องจากมูลค่าทางบัญชีของหุ้นกลุ่มดังกล่าวนับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งยังมีสตอรี่ดีๆ รองรับมากมายก่ายกอง...ใครทิ้งหุ้นกลุ่มนี้ได้ลงคอ ก็ไม่ควรร้องไห้ฟูมฟายภายหลังเห็นราคาหุ้นพุ่งทะยานได้นะค่ะ

*เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มพลังงาน มีข่าวดีๆ เข้ามาซับพอร์ตไม่ว่างเว้นในแต่ละวันแถมผลกำไรที่ทำได้แต่ละไตรมาสก็เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด..."โมนิก้า" ถึงไม่เคยแนะนำให้ขายหุ้นตัวนี้ทิ้ง และต้องหยิบยกขึ้นมาเขียนในคอลัมล์ทุกครั้ง เพราะของเขาดีจริง ก็ต้องเชียร์กันสุดฤทธิ์แบบนี้แหล่ะ

*ล่าสุดได้รับคำยืนยันจากผู้จัดการกองทุนในประเทศว่า เข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานตอนอ่อนตัวทุกครั้ง โดยยกเหตุผลเรื่องอัตราการเติบโตของบริษัทเป็นแบบขั้นบันไดทุกปีแบบนี้ หากไม่ตุนไว้เยอะๆ อาจพลาดโอกาสทอง จนต้องเขกกบาลตัวเองหลายหน หลังเห็นราคาหุ้นพุ่งทะยานแบบไม่เหลียวหลัง

*ยกเว้นในรายของ PDI ถูกปั่นราคาขึ้นมาปิดถึงระดับ 42.25 บาท ท่ามกลางวอลุ่มการซื้อขายหนาแน่น มองจากมุมไหนด้านไหน ก็เป็นการปรับตัวขึ้นตามกระแสตลาดคอมมูนีตี้ และราคาหุ้น ณ ระดับนี้ก็ถือว่าสูงพอสมควรแล้วเช่นกัน...คนที่เข้าไปไล่ราคาหุ้นทีหลัง จึงต้องระวังให้ดีเป็นพิเศษ เพราะช่วงที่ผ่านมาหุ้นพักฐานแถว 40 บาทร่วม 2 เดือนหลังจากขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 45 บาทก่อนหน้านี้เจ้าค่ะ

*คล้ายคลึงกับกรณีของ RK พื้นฐานบริษัทก็งั้นๆ แถมที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องรายได้และผลกำไรถดถอยมาตลอด แต่ราคาหุ้นในกระดานกลับวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.96 บาท บวกไป0.24 บาท หรือขึ้นไปเกือบ 9% "โมนิก้า" ถึงฉงนใจเป็นอย่างมากว่า ใครเป็นคนจุดพลุไล่ราคาหุ้นตัวนี้ เพราะของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจงแดงแจ๋ว่า ข้างนอกสุกใส ข้างในตะติงโหน่ง อิอิอิ

*การเคลื่อนไหวที่ไม่เล็ก(อีกครั้ง) ของนักลงทุนรายใหญ่ตาน้ำข้าว นามว่า โฟรเด้ ไทเก้น ที่แอบดอดเข้าไปซื้อหุ้น MALEE จำนวน 5 % คิดเป็น 3.5 ล้านหุ้น ถึงแม้จะเป็นจำนวนไม่มาก แต่แนวโน้มน่าจะมีมากกว่านี้ เพราะจากประวัติที่ผ่านมาของกลุ่มไทเก้น รับรองว่าเจ้านี้ซื้อหุ้นน้อยๆ ไม่เป็นแน่

*โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมาตระกูลไทเก้น โด่งดังมาจากการขายหุ้นที่อยู่ใน TTA ตอนนั้นฟันกำไรไปไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท หลังจากนั้นนำกำไรที่ได้กระโดดเข้าไปลงทุนในGRAND และขายทิ้งไปในที่สุด พร้อมกันนั้นก็ได้เข้าไปลงทุนใน RAIMON จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบันไปนานแล้ว

*การที่กลุ่มไทเก้น เข้ามาถือหุ้นใน MALEE ครั้งนี้ คงไม่มีใครรู้ ถ้ายังไม่มีการแปลงหุ้นที่ถืออยู่ผ่านทางไทยเอ็นวีดีอาร์ ซึ่งมีความเป็นไปได้สองประเด็นที่โฟรเด้ เข้าไปซื้อหุ้นในลักษณะดังกล่าว คือ 1. สัดส่วน FOREIGN LIMIT ที่ผ่านมาของ MALEE อาจเต็ม ซึ่งทำให้กลุ่มนี้ต้องซื้อหุ้นในนามของคัสโตเดียนแทน ซึ่งทำให้ไม่สามารถเข้ามาถือหุ้นในนามFOREIGN ได้ เนื่องจากติดข้อจำกัดดังกล่าว

*ถ้าไม่เช่นนั้น อาจมีความเป็นไปได้ว่า ไม่ต้องการให้ปรากฏชื่อของตนเองในการเข้าไปถือหุ้นใหญ่ เพราะมีความต้องการอำพรางการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยที่ไม่ต้องการให้เจ้าของ หรือ คนอื่นรู้ เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่กลุ่มไทเก้น มักเข้าไปซื้อหุ้นผ่านคัสโตเดียนก่อนที่จะโอนมาเป็น FOREIGN

*สำหรับหุ้น PT ที่มาแรง ถ้าใครติดตาม "โมนิก้า"เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จะรู้ว่าเดี๊ยนบอกใบ้อะไรไว้ ส่วนเรื่องที่ได้มาว่า เจ้ามือติดหุ้นอยู่ที่ 6 บาท ซึ่งจะมีการดันเพื่อออกของหรือเปล่านั้น คงต้องตาให้ดีคะ ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ