หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้นทำการการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่างๆ ที่ประมาณการณ์กำไรสุทธิของหุ้นในปี 2550 เฉลี่ยถูกปรับขึ้นสูงสุด 10 อันดับแรกในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม2550 พบว่าหุ้นของบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) LALIN นักวิเคราะห์ปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากที่สุดจากประมาณการณ์ ณ 28 กุมภาพันธ์ ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 516.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204.31% เป็น 1,571.88 ล้านบาท จากประมาณการณ์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550
รองลงมาคือหุ้นบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) CK ปรับกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 27.56% ตามมาด้วยหุ้นบริษัท ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) UEC กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26.00% อันดับ 4 หุ้นบริษัท ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) STHAI กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13.27% อันดับ 5 หุ้นบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) TRC กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13.21%
ส่วนอันดับ 6 เป็นหุ้นบริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) IHL กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12.53% อันดับ 7 หุ้นบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) STA กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.34% อันดับ 8 หุ้นบริษัท จุฑานาวี จำกัด (มหาชน) JUTHA กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.13% อันดับ 9 หุ้นบริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) DEMCO กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 8.91%
และอันดับ 10 หุ้นบริษัท ยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) UCOM กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 8.83%
สำหรับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มองว่า ผลการดำเนินงานในปี 2550 ของ LALIN คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน จากแนวโน้มการลดลงของอัตราดอกเบี้ยซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกสำหรับธุรกิจที่อยู่อาศัย และการคาดการณ์ถึงมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ประกอบกับหุ้น LALIN ถือเป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลที่สม่ำเสมอระดับ 5-6%
นอกจากนี้ LALIN ถือเป็นหุ้นที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง อัตราหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2549 อยู่ที่ระดับต่ำเพียง 0.4 เท่า และคาดว่าจะทรงตัวในระดับเดิมในปีนี้ ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงินและความสามารถในการกู้เงินเพิ่มทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไปเมื่อปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ยังคงมีมุมมองเป็นบวกสำหรับหุ้น LALIN จากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการถือหุ้นระยะยาวเพื่อรอรับเงินปันผลซึ่งจ่ายเสม่ำเสมอปีละ 2 ครั้ง ในอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 5-6% โดย LALIN ประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งหลังปี 2549 ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 30 เม.ย.2550
ส่วน CK ถึงแม้ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาจะค่อนข้างผิดหวังซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการแพ้คดีชดเชยค่าก่อสร้างทางด่วนซึ่งทำให้ CK ต้องตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้ค่าก่อสร้างกว่า 2.5 พันล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบดังกล่าวได้รับรู้ไปแล้วในปีที่ผ่านมาทำให้คาดว่าในปีนี้ผลการดำเนินงานจะกลับมาเป็นปกติ ถึงแม้จะมีปัจจัยกดดันจากการชะลอตัวลงของงานก่อสร้างทำให้รายได้มีแนวโน้มลดลง แต่ความสามารถในการทำกำไรคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยมีแรงหนุนสำคัญจากการรับรู้รายได้ ในโครงการก่อสร้างเขื่อนน้ำงึม 2 ในประเทศลาว
ขณะเดียวกันยังมีข่าวดีจากการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า และบันทึกกำไรจากการนำหุ้นบริษัทน้ำประปาไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประกอบกับราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน จึงยังถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจที่จะซื้อลงทุน โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็กให้ราคาเหมาะสม LALIN ที่ 5.60 บาท ส่วน CK ให้ราคาเหมาะสมที่ 10.40 บาท