Puu สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 476 | วันที่: 28/03/2007 @ 07:30:27 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีตลาดหุ้นยังคงมีแรงกดดันให้ขึ้นไปยืนเหนือ 680 จุดไม่ได้อีกต่อไป เพียงแต่สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้น กลับดูดีว่า 675 นั้น เป็นแนวรับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้สัญญาณมีโอกาสที่จะดีดขึ้นไป หากต่างชาติยังคงซื้อต่อเนื่อง
* พูดถึงต่างชาติ ถือว่าเป็นจังหวะช่วงนี้ มีอิทธิพลเยอะมากต่อตลาดหุ้นไทย ด้วยยอดซื้อ-ขายในอัตราระดับถึง 40% ซึ่งช่วยให้ราคาหุ้นต่างๆดูดีขึ้น แต่คำถามใหญ่ก็คือราคาหุ้นที่ถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่ไม่มีข่าวดีมารองรับหรือเสริมเอาเสียเลย จะให้หุ้นทะยานขึ้นได้อย่างไร
* หุ้นหลักทรัพย์ เป็นหุ้นที่สถานการณ์ไม่ดีเอาเสียเลย เพราะทั้งธุรกิจวาณิชธนกิจอันเดอร์ไรท์ และ นายหน้าค้าหุ้น ยังคงมีอาการไม่ดีทั้งชุด น่าเป็นห่วงว่ามนุษย์ทองคำจะกลายเป็นมนุษย์ทองแดงไปเสียหมดแล้วในปีนี้
* นี่ก็น่าเป็นห่วง หุ้น RASA ซึ่งตอนนี้กำลังมีความพยายามเร่ขายหุ้นให้ครบ 20 ล้านหุ้นให้ได้อย่างกระเสือกกระสน แถมยังกำหนดวันเข้าเทรดที่ 12 เมษายน ซึ่งเป็นวันก่อนปิดยาวช่วงสงกรานต์เสียอีก ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ใครอยู่เบื้องหลังกลยุทธ์นี้...เสียวว่าจะหลุดจองง่ายๆ
* ข่าวร้ายจาก ครม. เมื่อ ร่างพรบ.ค้าปลีกที่กระทรวงพาณิชย์เสนอเข้าพิจารณา ถูกตีกลับ ด้วยคำถามว่า ไม่รอบคอบเพียงพอ งานนี้ เกิดคำถามตามมาว่า หรือจะเป็นเจตนา?...ถามอย่างนี้ ฯพณฯ กุ๊กไก่ เกริกไกร จิระแพทย์ อย่าเพิ่งโทสจริตระบาดนะขอรับ คิดผิด คิดใหม่ได้
* ส่วนเรื่อง FTA ครม. ผ่านฉลุย เพื่อให้นายกรัฐมนตรี สุรยุทธ์หอบไปเสนอญี่ปุ่นเพื่อเจรจาหลายเรื่องนับแต่ เรื่องสร้างความมั่นใจเรื่องลงทุนว่าไม่ต้องห่วงกฎหมายนอมินีกับเรื่องขอเงินกู้เจบิกมาทำเมกะโปรเจ็ก
* เรื่องหลังนี้ บรรดาเอ็นจีโอ.ที่เคยอยู่เบื้องหลังพันธมิตรขับไล่ทักษิณ คงจะออกอาการฮึดฮัดไปตามระเบียบ แต่ที่ได้เฮกันเต็มที่ก็บรรดาหุ้นเหล็กปลายน้ำทั้งหลาย มีหวังหุ้นกระฉูดแน่นอน เพราะจากนี้ไป เป็นอิสระแล้ว เนื่องจากราคาเหล็กต้นน้ำของญี่ปุ่นที่จะเอามาทำเป็นวัตถุดิบนั้น ถูกกว่าราคาเหล็กในเมืองไทยเยอะ...เยอะแค่ไหน ต้องถามSSI และ GSTEEL
* ข่าวร้ายจาก ADB ธนาคารพัฒนาเอเชีย ประกาศแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียนอกเหนือจากจีนและอินเดียจะชะลอตัวแล้ว ยังเตือนมาถึงไทยด้วยว่า ปีนี้จะเติบโตแย่สุดในเอเชีย* ปัญหาใหญ่อยู่ที่เรื่องของมาตรการชิลี สำรอง 30% และเรื่องของนโยบายรัฐที่ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างชาติต่ำลงโดยไม่จำเป็น
* ที่แย่สุดคือ ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย แม้คาดว่าสิ้นปีนี้จะเป็นบวก แต่ปีหน้าขาดดุลแน่นอน เป็นเรื่องเตือนให้คนไทยตระหนัก และประหยัดกันต่อไป อย่าประมาทใจไม่ได้ สำหรับสถานการณ์ที่ยังไม่มั่นคง
* ประเด็นหัวใจสำคัญก็คือ สถานการณ์ทางการเมือง ที่ระยะหลังนี้ นายหน้าทางการเมืองพากันออกมาเพ่นห่านสร้างคะแนนกันมากเหลือเกิน จนกระทั่งดูเหมือนว่าชาติจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ น่าเป็นห่วงพอสมควร สำหรับสภาวะอนาธิปไตยที่อาจเกิดขึ้นได้
* กุญแจสำคัญที่คนไทยต้องคิดกันก็คือ การเคลื่อนสังคมโดยจริยธรรมล้วนๆ ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ และสมานฉันท์ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากว่า ปราศจากสังคมที่ยุติธรรม และเปิดโอกาสให้คนได้แสดงศักยภาพภายใต้กรอบกติกาที่เหมาะสม
* วันนี้ สถานการณ์ตลาดหุ้น ระยะสั้น ยังมีแนวโน้มเดินหน้าต่อ แต่จะไปได้ไกลแค่ไหนขึ้นกับวอลุ่มเทรดว่าแจะแรงแค่ไหน มีสิทธิลุ้นเล็กๆเท่านั้น เล่นยาวไม่ได้
* ท้ายสุด เรื่อง สมศักดิ์ เทพสุทิน กับการขายหุ้นให้กองทุนประกันสังคมรับซื้อไปขาดทุน ดูเหมือนจะเป็นประเด็นน่าจับตาต่อไป เพราะน้ำลดตอผุดให้เห็นอีกแล้ว
|