May 19, 2024   10:52:01 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ปัจจัยลบรุมเร้ากดหุ้นสัปดาห์นี้เดี้ยงต่อ13-15 มี.ค.-เทศกาล X
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 05/03/2007 @ 09:49:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

[b:2262f7e727">เซียนหุ้นฟันธงหุ้นสัปดาห์นี้เดี้ยงต่อ หวั่นบึ้ม กทม.วันที่ 13-15 มี.ค. แถมเป็นเทศกาลขึ้น XD พบเดือน มี.ค. มีการแขวน XD ถึง 163 บริษัท กดดัชนี 11 จุด CNS ประเมินมีโอกาสได้เห็นหุ้นไทยร่วงแตะ 650 จุด ด้าน ฟินันซ่า แจง 4 ความเสี่ยง ปรับครม.-เฟ้นหาขุนคลัง-ก่อการร้าย-ตลาด ตปท. แนะนำขายลดความเสี่ยงสถานเดียว

ดัชนีตลาดหุ้นไทยโรยตัวลงมาตลอดในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากระดับ 690 จุด มาสู่ระดับ 679 จุด ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายมาตรการกันสำรอง 30% อีกเปลาะหนึ่งของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำหรับการนำเงินเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการประกันความเสี่ยง 100% แต่กระแสการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงประเด็นการเมืองในประเทศ หลังจากที่หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล หรือหม่อมอุ๋ย ประกาศลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถมยังมีกระแสการถอดใจของนายกรัฐมนตรี และการปรับคณะรัฐมนตรี ยังถือเป็นปัจจัยกดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง

ส่วนในสัปดาห์นี้ เรียกได้ว่ายังมองไม่เห็นปัจจัยบวก ในขณะที่ยังมีปัจจัยลบยังรุมเร้าตลาดหุ้นไทยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะความเสี่ยงเกี่ยวกับการก่อการร้ายในกรุงเทพมหานคร แม้ว่าเมื่อวันที่ 23 ก.พ. ก็เคยมีกระแสข่าวทำนองนี้ สุดท้ายก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นจริง แต่กระแสข่าวจากหน่วยงานด้านการข่าวในพื้นที่ภาคใต้ ที่ระบุว่า มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ประมาณ 10 คน ซึ่งมีข้อมูลว่ากลุ่มคนดังกล่าวเตรียมการที่จะก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ในกรุงเทพฯ ในระหว่างวันที่ 13 -15 มีนาคมนี้ โดยเฉพาะในวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสถาปนากลุ่มบีอาร์เอ็น และวันที่ 14 มีนาคมที่เป็นวันละหมาดใหญ่ในกรุงเทพฯ เป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้าม และเป็นสิ่งที่นักลงทุนมีความกังวลอยู่ไม่น้อยทีเดียว

นอกจากนั้นการขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อการรับเงินปันผล ยังเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่นักวิเคราะห์มองว่าจะกดดันดัชนีในสัปดาห์นี้ให้ปรับตัวลงได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีโบรกเกอร์อย่างน้อย 2 แห่ง ที่มองร้ายที่สุดดัชนีฯอาจร่วงแตะ 650 จุด

** ฟินันซ่า เปิด 4 ความเสี่ยงทำหุ้นไทยไม่โงหัว
บล.ฟินันซ่าออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะผ่อนผันมาตรการ 30% ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้การลงทุนในตลาดการเงินของไทยกระทำได้ง่ายขึ้น,สนับสนุนการลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทั้งยังเป็นการป้องกันความผันผวนของค่าเงิน และสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาทในระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่นักลงทุนจะต้องมีการซื้อกลับ หรือลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งเราชอบ CPN, CPNRF, SPF, MAJOR และ TICON ในฐานะที่มีรายได้ค่าเช่าที่สม่ำเสมอ และมีขนาดสินทรัพย์ที่ใหญ่ พร้อมกับผลตอบที่สูงรองรับการลงทุนของต่างชาติได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามยังมี 4 ปัจจัยเสี่ยงหลักที่อาจทำให้ดัชนีปรับตัวล ได้แก่ 1)การปรับ ครม.สุดสัปดาห์ แสดงถึงเอกภาพของรัฐบาลที่ถูกสั่นคลอน 2) การเฟ้นหา รมต.คลังคือสิ่งที่ตลาดคาดหวังว่าผู้ที่มาใหม่นั้นจะต้องให้ความสำคัญกับตลาดทุน และต้องมีนโยบายที่ไม่สกัดกั้นการลงทุนในตลาด 3) สถานการณ์ความไม่สงบที่หน่วยข่าวด้านความมั่นคงคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันมาฆบูชา และ 4) ตลาดต่างประเทศไม่เป็นใจจากการปรับลดลงของ DJIA เมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ. วานนี้ถึง 200 จุด ก่อนที่จะรีบาวด์เหลือลดลง 34 จุด จากความวิตกเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐที่เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างชัดเจน ถูกขจัดลงในระยะสั้นจากการประกาศรายได้บุคคล และ ISMเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาด

ทั้งนี้กลยุทธ์การลงทุน แนะนำขายลดความเสี่ยง เนื่องจากยังมองแนวโน้มขาลง และอาจลงยาวถึง 650 จุด หากเกิดความไม่สงบในสุดสัปดาห์ จะขึ้นไปยังถูกจำกัดด้วยข่าวร้าย ส่วนข่าวดีในระยะสั้นยังไม่ปรากฏเด่นชัด แต่แนะนำซื้อหุ้น High Growth และ Defensive ได้แก่ CPN, CPNRF, SPF, MAJOR, TICON และ ENERGอาทิ RRC และ TOP

**CNS เผย 163 บริษัทพาเหรดแขวน XD กดดัชนี 11 จุด
ด้าน บล.พัฒนสิน (CNS) ระบุว่า กระแสข่าวลือเกี่ยวกับการเกิดระเบิดในช่วงวันหยุดยังเป็นปัจจัยกดดันหุ้นไทยให้มีแนวโน้มชะลอตัวลง ซึ่งจากความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ CNS คาดว่าเม็ดเงินจะไหลเข้าสู่ตลาดพันธบัตรมากขึ้น เนื่องจากหากพิจารณาถึง Bond Yield 2 ปี และ 10 ปี ของไทยปรับลดลงจาก 4.35% และ 4.49% เป็น 4.32% และ 4.45% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนหันเข้าไปเก็งกำไรในพันธบัตรมากขึ้น

ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์นี้ CNS คงน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าที่ระดับ Neutral และคาดว่าดัชนีตลาดฯจะเคลื่อนไหวในลักษณะผันผวนกรอบ 666-692 จุด และมีโอกาสที่จะปรับลดลงไปถึงบริเวณ 650 จุด หากดัชนีฯหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา 666 จุด ซึ่งเป็นทั้งเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์และแนวรับที่ช่วยพยุงดัชนีตลาดฯไว้ได้ในช่วงกลางสัปดาห์ก่อน

นอกจากนี้ปัจจัยหลักในการกดดันดัชนีตลาดยังคงเป็น การขึ้นเครื่องหมาย XD ของบริษัทจดทะเบียนโดย ณ ข้อมูลล่าสุดพบว่าในเดือนมี.ค.นี้จะมีจำนวน 163 บริษัทจดทะเบียนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD และคาดว่าจะมีผลกระทบต่อดัชนีตลาดฯประมาณ 11.05 จุด กลยุทธ์การลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะสัปดาห์ ยังคงแนะนำ Sell on Strength โดยเฉพาะบริเวณใกล้ 700 จุด เพื่อรอซื้อคืนบริเวณ 666 จุด หรือต่ำกว่า โดยเน้นหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน เช่น สินค้าโภคภัณฑ์(ปิโตรเคมี เรือ โรงแรม) และกลุ่มที่เชื่อมโยงกับดอกเบี้ย เช่น แบงก์ใหญ่ อสังหาฯ โรงไฟฟ้า ฯลฯ

กลยุทธ์การลงทุน CNS แนะนำ Selective Buy หลักทรัพย์ที่มี High Dividend Yield และ Discount to Fair Price และกลุ่มสินค้า Commodity ประเภทเรือและปิโตรเคมี

**นครหลวงไทยมองดีคาดสัปดาห์นี้หุ้นดีดขึ้นจากเงินต่างชาติ
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้ามองว่าตลาดฯน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ผ่อนคลายมาตรการกันสำรอง 30% ลงอีก ซึ่งจะเป็นผลให้เงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น แต่ทั้งนี้ให้รอดูติดตามปัจจัยทางการเมืองด้วยเนื่องจากมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้

ธปท.ผ่อนคลายมาตรการกันสำรอง 30% น่าจะมีผลต่อตลาดฯในสัปดาห์นี้เพราะจะเริ่มมีผลใช้จริงในวันที่ 15 มี.ค.50 โดยน่าจะช่วยให้เงินทุนของต่างชาติกลับเข้ามาและเป็นตัวที่ทำให้ดัชนีฯฟื้นตัวได้ ส่วนเรื่องการเมืองเป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุนเพราะที่ผ่านมาทำให้ความเชื่อมั่นหายไป ดังนั้นจึงรอให้ติดตามเรื่องการเมืองด้วย นายสุกิจ กล่าว

กลยุทธ์การลงทุนให้เลือกเก็บหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยอย่างกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และธนาคารรวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานซึ่งได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 670 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 698 จุด
ขณะที่นายสุกิตติ์ ตั้งมณีนิมิต ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสถาบัน บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ คาดว่าดัชนีฯอาจปรับลดลงต่อ หากมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในช่วงวันหยุด แต่หากไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น ดัชนีฯก็คงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อน เพราะยังคงมีปัจจัยเสี่ยง ทั้งในเรื่องของการเมืองและความไม่สงบ อีกทั้งยังมีปัจจัยลบในเรื่องของเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว รวมถึงปัญหาความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่าน และค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นย่อมกระทบต่อภาคการส่งออก

ทั้งนี้ แนะนำขาย เพราะตลาดฯยังคงมีปจจัยลบและปัจจัยเสี่ยงอยู่หลายปัจจัย
โดยประเมินแนวรับที่ 666 จุด และแนวต้านประเมินไว้ที่ 682 จุด
ล่าสุดดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 มี.ค.) ที่ระดับ 679.02 จุด ลดลง 1.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 11,107.34 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 11.33 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 162.74 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 151.42 ล้านบาท





[/color:2262f7e727">[/b:2262f7e727">[/size:2262f7e727">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com