May 19, 2024   12:03:47 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จบแบบไหน ITV ก็ตาย
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 26/02/2007 @ 20:48:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หมดทางเยียวยา ITV รัฐบาลบีบจนมุม ระบุไม่มีเงินจ่ายอาจฟ้องล้มละลายสถานเดียว แถมเล็งให้ MCOT-กรมประชาฯเข้าเสียบบริหารงานแทน ลุ้นวันนี้ ครม.ชี้ขาดทางออกจ่ายค่าสัญญาสัมปทานเกือบแสนล้าน ด้านปลัด สปน.ยันหากตัดสินยกเลิกสัญญาสัมปทานเก่าจะไม่กระทบพนง.-ผังรายการ-และการออกอากาศ ขณะที่ บุญคลี ตัดช่องน้อยลาออกจากประธานบอร์ด ส่วนผลงานปี 49 สุดเศร้า ขาดทุนยับ 1.78 พันลบ.เหตุบันทึกส่วนต่างสัมปทาน โบรกฯแนะเลี่ยงการลงทุน

กลายเป็มมหากาพย์เรื่องยาวน้องๆ IRCP หรือ TPI เก่าเลยก็ว่าได้ สำหรับบมจ.ไอทีวี (ITV) เพราะไม่รู้ว่าจะฝ่าทางตันเรื่องการชำระเงินค่าปรับผิดสัญญาสัมปทานมูลค่า9.8 หมื่นล้านบาทและค่าสัมปทานค้างจ่ายอีก 2.2 พันล้านบาท ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้อย่างไร ล่าสุด ทางรัฐบาลพยายามที่จะหาออกให้ ITV โดยจะนำประเด็นดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัญมนตรี(ครม.)ในวันนี้

ทั้งนี้ แนวทางออกสำหรับค่าปรับของ ITV จะยึดหลัก 5 แนวทางที่ ไอทีวี เสนอนั้นประกอบด้วย 1. เสนอให้แปลงหนี้ค่าสัมปทานส่วนต่างดังกล่าวเป็นทุน โดยบริษัทฯ ชำระหนี้ด้วยการออกหุ้นใหม่ 1,500 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท และชำระเป็นเงินสด 710 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สปน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯในอัตรา 55.4% ของหุ้นทั้งหมดที่ชำระแล้ว 2. มีบริษัทเอกชนไทยบางกลุ่มมีความประสงค์ขอเข้ามาถือหุ้นไอทีวี โดยจะขอซื้อหุ้นที่บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(SHIN) ถืออยู่ทั้งหมด

3. เสนอให้รัฐบาลรับซื้อหุ้นของ ไอทีวี จาก ชินคอร์ปอเรชั่น ทั้งหมดโดยมีสัดส่วน 52.9% 4. เสนอขอชำระหนี้ค่าสัมปทานส่วนต่างบางส่วนจำนวน 1,000 บาท ที่เหลืออีก 1,210 ล้านบาท บริษัทฯ ขอผ่อนชำระภายใน 5 ปี และ 5. หากมีเหตุการณ์หรือปัจจัยต่างๆที่ทำให้ ไอทีวี ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ภายในเวลาที่ สปน.กำหนด สปน.มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานฯ ได้

แต่ดูเหมือนว่า ไม่ว่างานนี้รัฐบาลจะหาทางออกให้ ITV อย่างไร ITV ก็คงไม่ได้แจ้งเกิดบนเส้นทางบันเทิงอีกครั้ง เพราะทางสปน.ระบุว่า หากคณะรัฐมนตรีตัดสินให้ยกเลิกสัญญาสัมปทานกรณีที่ บมจ.ไอทีวี (ITV) ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ให้จ่ายค่าปรับและค่าสัมปทานส่วนต่างได้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)จะยกร่างสัญญาฉบับใหม่โดยคำนึงถึงเงื่อนไข 3 ประการ คือ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน, ผังรายการ และ การออกอากาศ และถ้าหากยกเลิกสัญญากับ ITV จริงอาจให้ อสมท-กรมประชาฯ เข้าไปดูแล ITV แทน และอาจยื่นฟ้องล้มละลายบริษัท แน่นอนว่า ผู้ที่ได้รับความเสียหายที่สุดคือ ผู้ถือหุ้น
เพราะถ้าหากพินิจเงื่อนไขของสัญญาสัมปทานฉบับใหม่จะพบว่าเงื่อนไข 3 ประการที่ ITV ระบุว่าสัญญาฉบับใหม่จะไม่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน, ผังรายการ และ การออกอากาศ เท่านั้น นอกจากนี้ หากมีการยกเลิกสัญญสัมปทานกับ ITV และให้ อสมท-กรมประชาฯ เข้าไปดูแล ITV แทน และยื่นฟ้องล้มละลายบริษัท ผู้ถือหุ้น ITV ก็แทบไม่เหลือมูลค่าใดเลยทั้งสิ้น

***ช็อค!ไอทีวี ปี 49 ขาดทุนบักโกรก 1.78 พันลบ.จากปี 48 ที่มีกำไร 679 ลบ.

บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)(ITV) เปิดเผยว่าผลประกอบการสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ปรากฎว่าพลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 1,782.69 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 1.48 บาท จากปี 2548 ที่เคยมีกำไรสุทธิ 679.11 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.56 บาท
ทั้งนี้ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) (ITV) ชี้แจงงบการเงินและงบการเงินรวม และรายงานผู้สอบบัญชีประจำปี 2549ว่า สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง ผลการดำเนินงานประจำปี 2549 โดยบริษัทฯ มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 1,783 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 679 ล้านบาท เนื่องจากสาเหตุ ดังนี้

1. บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2549 จำนวน 2,159 ล้านบาท ลดลง 185 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 7.9 จาก ปี 2548 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ รวมทั้งปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

2. ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมทั้งภาระดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 1,435 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีจำนวน 1,434 ล้านบาท

3. ค่าสัมปทาน จำนวน 2,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อนที่มีจำนวน 230 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้บันทึกค่าสัมปทานส่วนต่าง ตั้งแต่ ปี 2547 ถึงปี 2549 และค่าดอกเบี้ยของค่าสัมปทานส่วนต่าง ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่ตัดสิน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2549 ที่พิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลปกครองชั้นต้นที่เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ลงวันที่ 30 มกราคม 2547 ทั้งฉบับ ซึ่งมีผลทำให้บริษัทฯ ต้องกลับไปผูกพันตามเงื่อนไขของสัญญาเข้าร่วมงานฯต่อไป

อนึ่ง เนื่องจากผลของความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการหาแหล่งเงินทุนของบริษัทฯ ในการชำระค่าสัมปทานส่วนต่างจำนวน 2,210 ล้านบาท และค่าดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของค่าสัมปทานส่วนต่าง รวมทั้งค่าปรับในกรณีที่บริษัทดำเนินการเรื่องผังรายการไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาเข้าร่วมงานฯ จำนวน 97,760 ล้านบาท (รายละเอียดแสดงในรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงินประจำปี 2549) ซึ่งบริษัทไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของสำนักงานปลัดฯ และได้ยื่นข้อพิพาทเกี่ยวกับดอกเบี้ยและค่าปรับจากการปรับผังรายการเข้าสู่กระบวนอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550

โดยผลของข้อพิพาทในเรื่องนี้ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ซึ่งผลของ ความไม่แน่นอนของแหล่งเงินทุนและผลของข้อพิพาทดังกล่าวมีสาระสำคัญอย่างมากต่อการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัท ดังนั้น บริษัทไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ จึงไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2549

***บุญคลี ปลั่งศิริ ไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ด ITV

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล กรรมการ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) (ITV) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการฯ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) (ITV) ได้อนุมัติการลาออกของกรรมการบริษัท 2 ท่าน คือ นายบุญคลี ปลั่งศิริ จากตำแหน่งประธานกรรมการ และ นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ จากตำแหน่งกรรมการและกรรมการตรวจสอบ และแต่งตั้งให้ นายอนันต์ ลี้ตระกูล เป็น ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการตรวจสอบ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป

 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#1 วันที่: 26/02/2007 @ 20:49:18 : re: จบแบบไหน ITV ก็ตาย
***ตลท.แขวนป้าย SP และ NP หุ้น ITV ในการซื้อขายบ่ายวานนี้

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องจากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) (ITV) ได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ฉบับที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีมายังตลาดหลักทรัพย์ โดยผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้

ตลาดหลักทรัพย์จึงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ ITV ตั้งแต่การซื้อขายรอบบ่ายของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปมีเวลาในการพิจารณารายงานของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง โดยจะอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของITV ต่อไป พร้อมกับการขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไปจนกว่า ITV จะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข หรือจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าITV ไม่ต้องแก้ไขงบการเงินดังกล่าว

***หม่อมอุ๋ย เผยวันนี้ครม.ชี้ชะตาทางออก ITV

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)จะนำเรื่องทางเลือกเกี่ยวกับการดำเนินการกับบมจ.ไอทีวี(ITV)ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้ตัดสิน กรณีที่ ITVอาจผิดสัญญาสัมปทาน ทั้งนี้ หากผู้บริหารชุดเดิมของ ITV ไม่สามารถชำระค่าปรับให้สปน.ได้ ก็ถือว่าผิดสัญญา และคงจะมีวิธีดำเนินการภายใต้เงื่อนไขทั้ง 5 ข้อ

วันนี้นี้ปลัดสำนักนายกฯ จะเป็นผู้ชี้แจงข้อดี ข้อเสียในทางเลือกต่างๆ ทั้ง 5ข้อ ที่ได้เคยเป็นข่าวไปแล้ว และครม.จะเป็นผู้ตัดสินใจผลออกมาเป็นอย่างไรก็จะแถลงข่าวม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงยึดหลักว่า การแก้ไขปัญหาจะไม่ทำให้พนักงานตกงาน และไม่กระทบรายการที่มีอยู่ ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ตามเดิมก็เป็นเรื่องที่ดี

***สปน.แย้ม หากยกเลิกสัญญากับ ITV จริงอาจให้ อสมท-กรมประชาฯ เข้าไปดูแล ITV แทน และอาจยื่นฟ้องล้มละลายบริษัท

นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าหารือกับ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า หากคณะรัฐมนตรีตัดสินให้ยกเลิกสัญญาสัมปทานกรณีที่ บมจ.ไอทีวี (ITV) ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ให้จ่ายค่าปรับและค่าสัมปทานส่วนต่างได้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)จะยกร่างสัญญาฉบับใหม่โดยคำนึงถึงเงื่อนไข 3 ประการ คือ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน, ผังรายการ และ การออกอากาศ

ทั้งนี้ หากในที่สุดมีการยกเลิกสัญญาสัมปทานกับ ITV ก็อาจให้ บมจ.อสมท (MCOT) หรือกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของ สปน.เข้ามาดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟแทน ITV และหากมีการยกเลิกสัญญา แล้ว สปน.อาจจะยื่นฟ้อง ITV เป็นคดีล้มละลาย

สำหรับประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นมาหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้จะยึด ตามข้อเสนอทั้ง 5 ที่ผู้บริหาร ITV ได้เสนอมายังสปน. เพื่อแก้ปัญหากรณีค่าปรับและค่าสัมปทานส่วนต่าง
จากการหารือกับผู้บริหารของ ITV ในวันนี้ ทางผู้บริหาร ITV ก็พร้อมยอมรับสภาพและยินดีให้ความร่วมมือในการดำเนินการ นายจุลยุทธกล่าว


***เซียนหุ้นเชื่อสุดท้าย ITV ต้องคืนสัมปทานให้รัฐ

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึงกรณี ปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เตรียมจะเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างสปน. และบมจ.ไอทีวี (ITV) ให้กับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ว่า คาดว่า การที่ สปน.นำเรื่องของ ITV เข้า ครม. เป็นเพียงทำตามกระบวนการเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วเชื่อว่า ITV คงคืนสัมปทานให้กับรัฐบาล โดยแนวโน้ม ITV ก็คาดว่ายังคงมีการดำเนินธุรกิจอยู่ต่อไป เพราะมูลค่าของกิจการยังสามารถดำเนินต่อไปและสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล แต่คงมีการจ้างคนมาบริหาร ซึ่งอาจจะเป็นคนในรัฐบาลหรือเอกชนก็ได้ คงต้องพิจารณาดูว่าเงื่อนไขเป็นอย่างไร

เข้าใจว่าที่ผ่านมานักลงทุนคงเข้ามาเก็งกำไรประเด็นที่คาดว่ารัฐจะซื้อคืนและคืนผลประโยชน์ให้กับรายยย่อย แต่ไม่จำเป็น เพราะ ITV ผิดสัญญา ดังนั้นต้องโอนทรัพย์สินให้แก่รัฐ คงเหลือเพียงหนี้สินและเงินหมุนเวียนที่มีอยู่ 1 พันกว่าล้านบาท ซึ่งรัฐก็คงบังคับเอาคืนด้วย นักวิเคราะห์ กล่าว
ทั้งนี้ ไม่แนะนำลงทุนในหุ้น ITV

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน เปิดเผยว่า จากกรณีที่พรุ่งนี้ (27 ก.พ. 2550) ปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เตรียมจะเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างสปน. และบมจ.ไอทีวี (ITV) ให้กับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งนี้ ยังไม่สามารถจะประเมินได้ว่าอนาคตของ ITV จะเป็นอย่างไรบ้าง เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับความเห็นชอบของครม. และสปน. ซึ่งไม่สามารถไปชี้นำการทำงานของทั้งสองฝ่ายได้ ดังนั้น ประเด็นดังกล่าวนักลงทุนควรที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ยังบอกไม่ได้แน่นอนหรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้ทาง ตลาดหลักทรัพย์ ก็ห้ามซื้อขายแล้ว ส่วนคุณบุญคลี ก็ลาออก นักลงทุนก็ไม่ควรยุ่งหรือหลีกเลี่ยงเพราะทางฝ่ายวิเคราะห์เองก็ไม่แนะนำให้เข้าไปลงทุน เพราะหุ้นตัวนี้ค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยง ขนาดบอกไม่ให้ลงทุนยังมีนักลงทุนติดหุ้นอีก แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 27/02/2007 @ 23:20:44 : re: จบแบบไหน ITV ก็ตาย
ในที่สุดปัญหาความยืดเยื้อการชำระค่าปรับของบมจ.ไอทีวี (ITV) กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ก็ได้ข้อสรุป เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติให้สปน. ยกเลิกสัญญาสัมปทานกับบมจ.ไอทีวี ได้ หากบริษัทไม่สามารถชำระค่าปรับ พร้อมดอกเบี้ย และค่าสัมปทานส่วนต่างรวมกว่า 1 แสนล้านบาทได้ตามกำหนดวันที่ 6 มี.ค.นี้ โดยสปน.จะยึดคลื่นสัญญาณโทรทัศน์กลับมาเป็นของรัฐก่อน และจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเข้ามาบริหารสถานี หลังมีการบอกเลิกสัญญาแล้ว

ซึ่งพนักงานบริษัทคงต้องตัดสินชะตาชีวิตอีกครั้ง หลัง นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เตรียมเสนอรายชื่อคณะกรรมการ บริหารกิจการวิทยุโทรทัศน์ เพื่อเข้าไปบริหาร ITV ภายใน 1-2 วัน และคณะกรรมการจะดำเนินการในบริษัทในวันที่ 7 มี.ค. หาก ITV ไม่จ่ายสัมปทาน ทั้งนี้ในส่วนของพนักงานจะมีการแจ้งให้ทรายล่วงหน้า 1 สัปดาห์ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้พนักงานได้ลาออกจาก ITV และมาทำสัญญาใหม่กับ สปน. ด้านการบริหารงานของบริษัทเพื่อให้เป็นเอกชน คาดว่าจะนำโครงสร้างการบริหารงานของ MCOT มาใช้ เพราะมีความคล่องตัว ทั้งนี้พนักงานของ สถานี ITV ตั้งแต่ที่ผ่านมาถือว่าเป็นพนักงานที่มีสวัสดิการที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเมื่อเทียบกับสถานีโทรทัศน์ของรัฐแห่งอื่น ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 5 หรือ ช่อง 11

คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คณะผู้ บริหารกิจการ บมจ.ไอทีวี(ITV)ชุดใหม่ที่จะตั้งขึ้นนั้น จะเป็นกลุ่มที่ได้รับการยอมรับจากสังคม แต่ขณะนี้ยังให้รายละเอียดมากไม่ได้ เพราะต้องให้โอกาส ITV ถึงวันที่ 6 มี.ค. นี้ก่อน

ส่วนรายการที่ออกอากาศยังเหมือนเดิม จะไม่กระทบกับเจ้าของรายการเดิม และหลังตั้งคณะกรรมการฯ จะเรียกตัวแทนจาก ITV เข้ามาหารือถึงทิศทาง การออกอากาศอีกครั้ง โดยจะยังยึดสัดส่วนรายการสาระ 70% และรายการบันเทิงที่ 30% แต่ชื่อสถานี ไม่สามารถใช้ชื่อเดิมได้ จะต้องมีการเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้ชื่อใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการหาชื่อที่เหมาะสมให้กับ ITV อยู่

ด้านผู้บริหารของ ITV นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า บริษัทไม่สามารถจ่ายค่าปรับและค่าสัมปทานที่มีราว 1 แสนล้านบาทให้กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) ได้ หลังสปน. มีกำหนดให้ต้องชำระภายในวันที่ 6 มี.ค.นี้ แต่ก็พร้อมจ่าย เงินชดเชยให้พนักงานราว 200 ล้านบาท เพราะบริษัทต้องเลิกจ้างหากรัฐบอกเลิกสัญญา ส่วนทรัพย์สินของบริษัทจะส่งมอบจะส่งมอบ ภาระความรับผิดชอบต่างๆให้กับสปน. เช่น การเช่าอาคารที่ทำการ การเช่าอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เฮลิคอบเตอร์ การเช่าดาวเทียม เป็นต้น

ส่วนผลกระทบหลังจากที่รัฐบาลยกเลิกสัมปทาน ในวันที่ 7 มี.ค. 2550 หม่อมอุ๋ยยืนยันว่า การแพร่ภาพออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ ITV จะยังดำเนินการต่อไปไม่ได้รับผลกระทบมีการแพร่ภาพได้เหมือนเดิม โดยรัฐบาลจะรับ โอนพนักงานของ ITV เข้ามากำกับดูแล โดยบริษัทจะไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนของตัวพนักงาน แต่ให้บริษัทไปรับผิดชอบเฉพาะหุ้นในตลาด และผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งเป็นส่วนที่บริษัทต้องรับผิดชอบเอง

ฝ่ายผลิตยังต้องอยู่เหมือนเดิม รัฐจะรับมาดูแลให้ ในส่วนของพนักงานทุกคน ต้องไม่ ได้รับความเดือดร้อน แต่วิธีการไม่ขอบอกว่าจะเป็นอย่างไร เพราะมีกฎหมายดูแลอยู่ แต่เราจะยึดหลักที่ว่าทีวีมีประสิทธิภาพ พนักงานมีงานทำ บริษัทให้ไปรับผิดชอบในส่วนของหุ้นในตลาด และผู้ ประกอบการรายย่อยเท่านั้นม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

ขณะที่ ตลท.เล็งเพิกถอน ITV หากถูกยึดสัมปทาน เหตุไม่มีธุรกิจหลัก
แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า หาก ITV ไม่สามารถชำระค่าปรับให้กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีภายในวันที่ 6 มีนาคม และถูกยึดสัญญาสัมปทาน จะถือว่า ITV ขาดคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียน เพราะ ไอทีวีจะไม่มีธุรกิจหลักต่อไป(Core Business) ทั้งนี้จะเริ่มนับจากวันที่ ไอทีวีลงบันทึกในงบการเงินว่า สัมปทานดังกล่าวไม่ใช่ของบริษัทอีกต่อไป ทั้งนี้หากตลาดหลักทรัพย์พิจารณาแล้วว่า ITV ขาดคุณสมบัติการเป็นบริษัทจดทะเบียน จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อขายหุ้นได้เป็นเวลา 1 เดือนหลังจากนั้นจะขึ้นเครื่องหมาย SP และจะให้ระยะเวลาในการแก้ไขเพื่อให้ดำรงฐานะการเป็นบริษัทจดทะเบียนต่อไป อีก2 ปี โดยการหาธุรกิจมาเป็นธุรกิจหลักของบริษัท หากไม่สารมารถดำเนินการได้ตามกำหนดก็จะเข้าข่ายต้องถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 6 มีนาคม หากไอทีวีไม่สามารถชำระค่าปรับได้ตามกำหนดเวลา และรัฐจะเข้ายึดสัมปทาน ตลาดหลักทรัพย์อาจจะสั่งขึ้นเครื่องหมาย NC เพื่อเตือนนักลงทุนว่า ITV เข้าข่ายฟื้นฟูกิจการ และ SP เพื่อห้ามซื้อขายหุ้น ขึ้นกับว่าข้อมูลในขณะนั้นมีความชัดเจนเพียงใด

โบรกเกอร์ประสานเสียงแนะ หลีกเลี่ยง ITV เหตุเสี่ยงสูง
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.เกียรตินาคิน กล่าวถึง กรณีที่รัฐบาลเตรียมจะยึดสัมปทานจาก บมจ.ไอทีวีว่า หาก รัฐบาลยึดสัมปทานจริง เชื่อว่าในส่วนของผังรายการ และพนักงานจะยังคงดำเนินงานไปตามปกติ แต่ในส่วนของผู้ถือหุ้นไอทีวีจะได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว เพราะหากรัฐยึดสัมปทาน ก็เท่ากับว่าผู้ถือหุ้นไม่มีสิทธิ์ที่จะดำเนินธุรกิจสื่อโทรทัศน์ตามสัญญาสัมปทานต่อไปได้ ซึ่งหลังจากนี้ รัฐบาลย่อมจะเรียกร้องค่าเสียหายและฟ้องร้องต่อผู้ถือหุ้นไอทีวี ดังนั้น นักลงทุนควรจะหลีกเลี่ยงหุ้นดังกล่าว เพราะมีความเสี่ยงสูง แต่หากต้องการจะซื้อเก็งกำไรก็ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

ถ้ายกเลิกสัมปทาน ผู้ถือหุ้นจะดำเนินธุรกิจไม่ได้ อาจถูกฟ้องร้องต่อเรื่องค่าปรับและค่า สัมปทานส่วนต่าง ในขณะที่พนักงานหรือช่องรายการต่างๆ ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม นักวิเคราะห์ กล่าว

ด้านบล.ยูไนเต็ดมองเป็นฝันร้ายผู้ถือหุ้นเชื่อมูลค่าหุ้นจะเหลือศูนย์
บล.ยูไนเต็ด ระบุว่า การที่ สปน.บอกเลิกสัญญาและยึดสัมปทานคืน ผู้ถือหุ้น ITV จะไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้น หากตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องหมาย ?H? เราแนะนำให้ ขายออกมาดีกว่ามูลค่าหุ้นจะกลายเป็นศูนย์ หากไม่มีไม่แนะนำให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ควรหลีกเลี่ยงจะเป็นการดีที่สุด ขณะที่ผลประกอบการ 4Q49 มีผลขาดทุนสุทธิถึง 2,147 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนที่มีกำไร 89 ล้านบาท และ ไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 105 ล้านบาท เป็นผลมาจากค่าสัมปทานที่ต้องจ่ายเพิ่ม โดยทั้งปี 49 มีขาดทุนสุทธิ 1,783 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 679 ล้านบาท หรือมีผลประกอบการที่ลดลงถึง 363% ทั้งนี้เป็นผลมาจากรายได้หลักที่ลดลง 10% เนื่องจากการแช่งขันที่รุนแรงใน อุตสาหกรรมโทรทัศน์ รวมทั้งปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่เหตุผลหลักที่สำคัญมาจากค่าสัมปทานจำนวน 2,506 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้นจากปีก่อนที่ 230 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้บันทึกค่าสัมปทานส่วนต่างตั้งแต่ปี 2547-2549 และค่าดอกเบี้ยของค่าสัมปทานส่วนต่างในอัตรา 15% ต่อปี

คาด ITV อาจขาดทุนต่อเนื่องไปอีก 4 ปี
ขณะที่ บทวิเคราะห์บล.สินเอเชีย มองว่าป็นไปได้ที่บริษัทจะขาดทุนต่อเนื่องไปอีก 4 ปีข้างหน้าจากการที่มีต้นทุนในการดำเนินงานที่สูงขึ้นอย่างมาก นอกจากนั้นแล้วบริษัทยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของค่าปรับเนื่องด้วยบริษัทดำเนินการเรื่องผังรายการไม่เป็นไปตามสัญญาสัมปทานข้อ 11 วรรคหนึ่ง ราวกว่า 1.00 แสนล้านบาท ซึ่งถ้าบริษัทต้องถูกปรับด้วยจำนวนเงินดังกล่าวบริษัทจะไม่สามารถดำเนินกิจการได้อีกต่อไป
 กลับขึ้นบน
P_aud
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531
#3 วันที่: 04/03/2007 @ 08:23:20 :
[b:f64275e27f">เฮ้อ คนจะ......ช่วยไม่ได้ จริงๆค่ะ :x

ไม่ได้เล่น ITV มานานแล้ว วันนั้น เข้าไปรับไว้ ที่ราคา 1.03 บาท :?

ไม่อยากบอกเลยว่ารับมากี่หุ้น แงๆๆ เพราะเห็นราคาขึ้นมาจาก ต่ำกว่า 1 บาท

ไม่ได้คิดว่าจะมีข่าวดีอะไรหรอกค่ะ แค่ต้องการจะเก็งกำไรนิดหน่อย :evil:

ราคาขึ้นไป ปิด 1.05 บาท ความโลภเข้าครอบงำ ทันที ......ไม่ขาย

บ่าย....ITV .....ถูกแขวนกลางอากาศ ........ ops:

เนี่ย เป็นบทเรียนของแมงเม่าขนานแท้ ...... :x :x [/color:f64275e27f">


[img:f64275e27f">http://www.ipst.ac.th/biology/flyingtermite.jpg[/img:f64275e27f">
[/b:f64275e27f">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com