ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ประจำวันที่ 22 ก.พ. 50 ปิดที่ 693.61 จุด เพิ่มขึ้น 1.23 จุด มูลค่าซื้อขาย 11,122 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,285 ล้านบาท

5 อันดับหุ้นซื้อขายสูงสุด บมจ.ปตท. (PTT) ปิดที่ 212 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ปิดที่ 67 บาท บวก 1 บาทธนาคารกรุงเทพ (BBL) ปิดที่ 111 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) ปิดที่ 238 บาท บวก 2 บาท ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ซื้อหุ้นสามัญ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY-W1) ปิดที่ 7.90 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

นักลงทุนต่างชาติเข้ามาเก็บหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ เน้นกลุ่มแบงก์และพลังงาน รับการประกาศจ่ายเงินปันผล ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ พุ่งขึ้นทะลุ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

บอร์ด KBANK นำร่องกลุ่มแบงก์ ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1.75 บาท ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.50 บาท ที่เหลืออีกหุ้นละ 1.25 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 30 เม.ย. ขึ้น XR วันที่ 27 ก.พ.นี้

เปรียบเทียบตลาดหุ้นไทยกับเพื่อนบ้านในเอเชีย ตั้งแต่ปลายปี ถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทย ดัชนีขยับจาก 679 จุด ขึ้นมาอยู่ที่ 693 จุด เพิ่มขึ้น 2.42%

ขณะที่สิงคโปร์สเตรทไทม์ ดัชนีขยับจาก 2,985 จุด เป็น 3,288 จุดเพิ่มขึ้น 10.15% คัมโพสิตมาเลเซีย ดัชนีร้อนแรงสุด พุ่งจาก 1,096 จุด เป็น 1,276 จุด เพิ่มขึ้น 16.45% ดัชนีตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ จาก 2,981 จุด เป็น 3,365 จุด เพิ่มขึ้น 12.89%

การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นประเทศเพื่อนบ้าน จนดัชนีพุ่งแข่งกันทำนิวไฮในรอบ 6-10 ปี!!!

เป็นผลมาจากเม็ดเงินจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป ไหลทะลักเข้า ตลาดเงินและตลาดทุนในภูมิภาคเอเชียเป็นจำนวนมาก

หากเม็ดเงินต่างชาติยังไหลเข้าไม่หยุด ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสทะลุแนวต้านใหญ่ 700 จุด ได้ไม่ยากนัก

แนวโน้มตลาดหุ้นในวันนี้ ดัชนีมีแนวรับที่ 680 จุด ส่วนแนวต้าน 698 จุด และ 700 จุด.

อินเด็กซ์ 51

.00020