หุ้นเหล็กร้อนสุดขีดQ1/50 โบรกคัดSSI- TSTHเข้ารอบ

หุ้นเหล็กเริ่มร้อนแรงขึ้นทันตาเห็นหลังจีนชะลอการผลิต และในช่วงต้นปี นิปปอน สตีล ในประเทศญี่ปุ่น ได้หยุดผลิตในช่วงไตรแรก และล่าสุด Tokyo steel Manufacturing ประกาศปรับขึ้นราคาเหล็กทุกชนิด ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นมาก ด้านโบรกมองในไตรมาส 1/2550 ราคาเหล็กยังทรงตัวสูงได้ต่อเนื่อง ประเมินแล้ว SSI- TSTH ได้ประโยชน์มากสุด เพราะส่งออกสูงเกินหน้ารายอื่น

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาเหล็กในตลาดโลกเริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนมากขึ้น ภายหลังที่ประเทศจีนได้ชะลอการการผลิต และปิดโรงงานไปหลายแห่ง ต่อมาบริษัท นิปปอน สตีล ในประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศหยุดทำการในไตรมาสแรกของปีนี้ เพื่อซ่อมแซมเครื่องจักร จึงส่งผลให้มีการปรับราคาขายทุกชนิด เนื่องจากความต้องการที่ยังคงมีอยู่สูง และล่าสุด Tokyo steel Manufacturing ได้ประกาศปรับขึ้นราคาเหล็กทุกชนิดเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้คำสั่งการผลิตดังกล่าวมาจากผู้ประกอบธุรกิจยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในฤดูการเพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าแนวโน้มราคาเหล็กจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงตลอดไตรมาส 1/2550 นี้

ดังนั้นจะส่งผลต่อผู้ประกอบการเหล็กทุกราย แต่ประเมินว่าผู้ที่น่าจะได้ปรับผลโยชน์มากที่สุด คือ ผู้ประกอบการเหล็กแผนอย่าง บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI และผู้ประกอบการเหล็กเส้น บริษัท ทาทา สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH ซึ่งมีการส่งออกในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น

ส่วนผู้ประกอบการเหล็กท่อ บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMT และบริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) หรือ BSBM จะได้ประโยชน์จากขยายตัวของโครงการจากภาครัฐ และเอกชนที่ทยอยเปิดตัวสูงมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าที่จะเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างมากในปี 2551

ดังนั้นคาดว่าผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มเหล็กในไตรมาสแรกของปีนี้มีการปรับตัวอย่างโดดเด่น โดยประเมิน SSI ในปี 2550 มีกำไรสุทธิ 1,253 ล้านบาท และมีรายได้ 37,029 ล้านบาท จึงแนะนำ ?ซื้อ?โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 1.27 บาท จากการคาดว่าการณ์ว่าจะจ่ายปันผลที่ 0.02 บาทต่อหุ้น ส่วน TSTH มีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท และมีรายได้ 20,521 ล้านบาท แนะนำ ?ซื้อ? โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 1.37 บาท จากแนวโน้มการจ่ายปันผลที่ 0.02 บาทต่อหุ้น

สำหรับ TMT ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับประมาณการรายได้ใหม่ แต่มองว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุนเช่นกัน เพรามีการจ่ายปันผลในสัดส่วนที่สูงถึง 0.45 บาทต่อหุ้น หรือมีผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลสูง 9-10% ซึ่งเช่นเดียวกับ BSBM ที่มีการจ่ายปันผลสูงถึง 0.10 บาทต่อหุ้น จึงแนะนำ ?ซื้อ? โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 1.39 บาท และคาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2550 จะมีกำไรสุทธิที่ 259 ล้านบาท และมีรายได้ 3,827 ล้านบาท

ด้านนายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาหุ้น SSI ทางเทคนิคเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จึงแนะนำ ?ซื้ออ่อนตัว? โดยให้แนวรับ 1.10 บาท และแนวต้าน 1.20 บาท ส่วน TSTH ราคาหุ้นมีการปรับตัวได้ต่อ จึงแนะนำ ?เก็งกำไร? ให้แนวรับ 1.15 บาท และแนวต้าน 1.21 บาท ขณะที่ TMT และ BSBM ราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นกัน จึงแนะนำ ?ซื้ออ่อนตัว?โดยให้แนวรับ TMT ที่ 4.30 และแนวต้าน 4.50 บาท ส่วน BSBM ให้แนวรับ 1.26 บาท และแนวต้าน 1.34 บาท

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น SSI ปิดตลาดวานนี้ (22 ก.พ.) 1.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 หรือ 0.87% มูลค่าการซื้อขาย 11 ล้านบาท ส่วน TSTH ปิดตลาดที่ 1.19 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือ 3.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11 ล้านบาท สำหรับ TMT ปิดตลาดที่ 4.44 บาท ราคาหุ้นไม่มีการเคลื่อนไหว แค่มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 10 ล้านบาท และ BSBM ปิดตลาดที่ 1.30 บาท เพิ่มขึ้น0.04 บาท หรือ 3.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 8 ล้านบาท