May 19, 2024   3:42:46 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จับสัญญาณตลาดหุ้นจีนก่อนเผชิญวิกฤตฟองสบู่
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 20/02/2007 @ 22:31:04
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เค้าลางการเกิดภาวะฟองสบู่ของตลาดหุ้นจีนเริ่มจะเป็นที่สนใจและเป็นที่วิตกกังวลของหลายคน หลังจากในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนได้ให้ผลตอบแทนมหาศาลแก่นักลงทุนที่เชื่อมั่นและศรัทธาต่อเศรษฐกิจของมหาอำนาจแห่งภูมิภาคเอเซียที่กำลังโตวันโตคืนกับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของเศรษฐกิจแดนมังกรในระยะหลายปีที่ผ่านมา ในที่สุดได้สะท้อนอยู่ในดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ที่ทะยานขึ้นกว่า 130% ในปี 2006 จนทำให้เกิดคำถามว่า ตลาดหุ้นจีนจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีไปได้อีกนานแค่ไหน

เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลจีนเองเริ่มจะไม่มีความสุขกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจแบบยั้งไม่อยู่ และกำลังปวดหัวกับเงินทุนมหาศาลที่จ้องจะเข้าไปแสวงหากำไรในสินทรัพย์แทบทุกประเภทที่ตีมูลค่าด้วยเงินสกุลหยวน สัญญาณเตือนการเกิดภาวะฟองสบู่ของตลาดหุ้นจีนปรากฎขึ้นตั้งแต่เริ่มศักราชใหม่และเป็นสัญญาณที่ออกมาจากรัฐบาลจีนเอง ไล่มาตั้งแต่การที่คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารจีน หรือ ซีบีอาร์ซี (China Banking Regulatory Commission) ได้ออกมาตรการห้ามธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อที่มีจุดประสงค์เพื่อนำเงินไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมขู่จะสอบสวนทุกกรณีที่ต้องสงสัยว่ามีการละเมิดคำสั่งดังกล่าว

สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลจีนไม่ได้นิ่งนอนใจกับกระแสความโลภและการหวังรวยทางลัดของคนในประเทศที่ยังไม่เคยลิ้มรสความบอบช้ำจากเคราะห์กรรมของการ ?กู้เงินไปเล่นหุ้น? (อย่างที่นักลงทุนที่กล้าหาญทั้งหลายในบ้านเราเคยเผชิญสมัยวิกฤตเศรษฐกิจปี 40) ขณะที่ธนาคารกลางจีนดูจะพยายามแตะเบรกเศรษฐกิจอยู่หลายครั้ง โดยในช่วงไม่ถึงหนึ่งเดือนได้มีคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มอัตราส่วนสำรองเงินสดมาแล้ว 2 ครั้งรวม 1.0% ทำให้อัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.5% ด้วยหวังว่าจะช่วยดูดซับสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจออกไปได้บ้าง ก่อนที่ฟองสบู่จะถูกดันจนโปร่งพองและพร้อมจะแตกทุกเมื่อ

อย่างไรก็ดี ถึงแม้รัฐบาลจีนได้พยายามออกมาตรการสกัดภาวะฟองสบู่ตลาดหุ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่การมองโลกในแง่ดีแบบสุดๆ ซึ่งเป็นภาวะที่มักจะเกิดกับนักลงทุนที่ติดกับดักฟองสบู่ ยังคงไม่หายไปไหน และดูท่าจะ?ดื้อยา? ด้วยซ้ำ ทำให้บุคคลระดับรองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติของจีนอย่างนาย เจิ้ง ซื่อเหว่ย ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมหภาคต้องออกมาเตือนกันอย่างตรงไปตรงมาว่า ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มไปสู่การเกิดภาวะฟองสบู่ พร้อมเตือนนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมองว่า ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 130% ในปีที่ผ่านมานับว่ามีความร้อนแรงเกินไป ฟองสบู่กำลังก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนต้องตระหนักถึงความเสี่ยงในข้อนี้ นี่คือคำกล่าวของเขา ซึ่งตีพิมพ์อยู่ในหนังสือพิมพ์เดอะไฟแนนเชี่ยลไทมส์

ทางฟากเอกชนก็ส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนเช่นกันว่า ตลาดหุ้นจีนเริ่มไม่น่าพิสมัยเหมือนที่ผ่านมา HSBC และ UBS เป็นสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่รายแรกๆของโลกที่ให้ ?ยาขม? แก่นักลงทุน โดยเตือนให้หลีกเลี่ยงตลาดหุ้นจีน หลังราคาหุ้นบลูชิพหลายตัวได้ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 100% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกจาก upside gain จะเหลือไม่มากแล้ว ยังเสี่ยงที่จะถูกกระหน่ำเทขายทำกำไรจากผู้ที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศที่ได้โควต้าหุ้นไอพีโอรัฐวิสาหกิจหลายแห่งที่แปรรูปเข้าตลาดหุ้นจีนในปีที่ผ่านมา(คล้ายกับบ้านเราที่มีนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงผู้มีอุปการคุณที่ได้หุ้นไอพีโอ PTT ที่ราคา 35 บาท)

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนยังกลายเป็นตลาดหุ้นที่แพงที่สุดในโลก หลังมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เก็ตแคปของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และตลาดหลักทรัพย์เสิ่นเจิ้น ณ สิ้นปีที่ผ่านมามีมูลค่ารวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ เพิ่มขึ้น 121% โดยมีค่า PE อยู่ที่ 36-38 เท่า ขณะที่ค่า PE เฉลี่ยของตลาดเกิดใหม่อยู่ที่ 16-18 เท่า HSBC และ UBS จึงลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการ ?ปรับฐานอย่างรุนแรง? แปลไทยเป็นไทย หมายความว่า ตลาดหุ้นจีนกำลังเป็นฟองสบู่ที่พร้อมจะแตก
นั่นเอง

 กลับขึ้นบน
samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
#1 วันที่: 20/02/2007 @ 22:32:12 : re: จับสัญญาณตลาดหุ้นจีนก่อนเผชิญวิกฤตฟองสบู่
ดูเหมือนว่า คำเตือนตรงๆหรือสัญญาณบ่งชี้ใดๆที่ออกมาจะไม่ดังพอให้นักลงทุนในตลาดหุ้นจีนได้ยิน เนื่องจากในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนตลาดจะหยุดยาว 5 วันทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ยังคงทะยานอย่างไม่หยุดยั้ง โดยทำจุดสูงสุดทะลุ 3,000 จุด ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนจะปิดที่ระดับ 2,998.47 จุด หรือ เพิ่มขึ้นมาแล้ว 359.81 จุด หรือ 12% จากระดับที่ปิด ณ สิ้นปี 2006 ส่วนตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น ซึ่งเป็นเหมือนตลาด MAI ของบ้านเราปิดที่ระดับ 758.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.0% ด้วยอัตราผลตอบแทนมากกว่า 10% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน ย่อมเป็นสิ่งล่อใจที่ยากจะปฏิเสธ อันว่าฟองสบู่นั้นเมื่อเกิดมักไม่มีใครรู้ จนเมื่อฟองสบู่แตกแล้ว จึงเริ่มรู้สึกตัว พร้อมกับคลำดูเงินในกระเป๋าว่ามีเหลืออยู่เท่าไร เข้าตำราไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา

อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ลึกซึ้งในปรัชญาการลงทุนนั้นย่อมมองเห็นกฎธรรมชาติว่าด้วยการแตกดับในตลาดหุ้นอย่างแจ่มชัด ซึ่งผู้ที่แตกฉานในกฎดังกล่าวย่อมมองเห็นโอกาสและวิกฤตก่อนคนหมู่มากที่มักมีอารมณ์อ่อนไหวตามทิศทางภาวะตลาดหุ้น อีกทั้งสามารถสร้างโอกาสให้กับตนเองในยามเกิดวิกฤต และตระหนักถึงวิกฤตที่กำลังก่อตัวอยู่ในสิ่งที่ผู้อื่นเห็นว่าเป็นโอกาส

ดังนั้น หากฟองสบู่จีนแตก ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ที่สัดทัดในวงจรการลงทุนจะตื่นตระหนัก เนื่องจากเมื่อคราวที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 300 จุด ยังมีคนบางกลุ่ม หรือ กองทุนต่างชาติบางแห่งใช้จังหวะนี้เก็บหุ้นชั้นยอดของไทยเข้าตำราใช้ ?วิกฤตของผู้อื่นเป็นโอกาสของเรา? ในขณะนั้น ก่อนประเทศไทยจะประสบวิกฤตย่อมมีผู้ล่วงรู้และภาวนาอยู่ลึกๆให้วิกฤตนั้นเกิดโดยเร็ว เช่นเดียวกับคราวนี้ ที่อาจมีใครกำลังภาวนาให้ฟองสบู่จีนแตกอยู่ก็เป็นได้
 กลับขึ้นบน
P_aud
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531
#2 วันที่: 21/02/2007 @ 09:24:21 : re: จับสัญญาณตลาดหุ้นจีนก่อนเผชิญวิกฤตฟองสบู่
มาลงทุนในไทยจิ p/e ยังต่ำ upside gain สูง
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com