May 19, 2024   1:23:55 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบ ...กระซิบ...กระซิบ !!!
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 13/02/2007 @ 10:53:52
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่มา : K.KRAZIP

SET Index วันจันทร์ที่ 12 ก.พ. ปิดที่ 697.46 จุด +2.19 จุด มูลค่าการซื้อขาย 12,771ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,583 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 1,130.46 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิที่
452.54 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 696.58 จุด +1.31 จุด และ Low ที่ดัชนี 692.68 จุด -2.59 จุด เป็นวันที่ดูแล้วค่อนข้างเงียบอีก 1 วันแม้ว่าตลาดจะไม่ได้มีปัจจัยลบรุนแรงใดใดเข้ามากระทบก็ตาม

แต่ในขณะเดียวกันตลาดก็ยังคงรอปัจจัยบวกใหม่ให้เข้ามาหนุนเช่นกัน แรงซื้อจากต่างชาติที่มีเข้ามาเกือบ 2 สัปดาห์ติดก็กว่าหมื่นล้านบาทแล้ว ทำให้ดัชนีขึ้นมาเกือบถึงแนวต้านสำคัญที่ระดับ 700 จุด วานนี้ดัชนีจึงคงชะลอแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ทั้งแดนบวกและลบสลับกัน หุ้นเก็งกำไรที่ติดสเก็ตก็วิ่งในกระดานให้เห็นเพียงไม่กี่ตัว
ระหว่างวันหุ้นพลังงานถ่วงตลาดแล้วเริ่ม Rebound ขึ้นในการเทรดช่วงบ่ายส่งผลให้ดัชนีสามารถดีดตัวขึ้นเป็นบวกได้กระทั่งปิดตลาดไปบวกกับได้แรงซื้อพยุงดัชนีจากหุ้นแบงค์ อสังหาริมทรัพย์ และสื่อสารเข้ามาช่วยผสมโรงด้วย PRIN ราคาเปิด 4.26 บาท ราคาปิด 4.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1.77 ล้านบาท ยอดขาย
plesales ของ PRIN ในไตรมาส 4/49 ลดลง เนื่องจากไม่มีโครงการเปิดใหม่ทำให้สินค้าเหลือขายน้อย ในปีนี้ PRIN ตั้งเป้าจะผลักดันยอดขาย presales ให้ถึง 4.5 ? 5.0 พันล้านบาท โดยจะได้แรงหนุนจากการเร่งขยายงานด้วยโครงการใหม่ 13 โครงการ ซึ่งประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 3 โครงการ บ้านเดี่ยว 4 โครงการและทาวน์เฮ้าส์
6 โครงการ ทั้งนี้ PRIN จะเน้นตลาดระดับกลางมากขึ้น จึงคาดว่าคอนโดมิเนียมจะขายดี เนื่องจากมีทำเลดี แม้ปีนี้จะขยายโครงการมาก แต่คาดว่ากำไรจะโตเพียง 6% เนื่องจากยอดขาย presales ของคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะยกไปรับรู้เป็นรายได้ในปีหน้า การเร่งขยายโครงการในปีนี้จะไปส่งผลดีต่อผลประกอบการในปี 2551 ดังนั้นจึงมีมุมมองที่ดีต่อ PRIN มากขึ้น จากกลยุทธ์การเร่งขยายเข้าไปเน้นตลาดระดับกลาง ? ล่าง และคอนโดมิเนียม
ซึ่งยังมีความต้องการสูงในตลาด และยังคาดว่า PRIN จะเพิ่มทุนในปีนี้ เพื่อขยายงานและลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน
แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในรายละเอียดของการเพิ่มทุน K.KRAZIP มองว่าหลังจากมีการเพิ่มทุนแล้วจะทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นตอนนี้ยังถือว่าน่าสนใจ แนะนำ ทยอยซื้อสะสม โดยมีแนวรับ 4.18 บาท แนวต้าน 4.38 บาท
BGH ราคาเปิด 36.75 บาท ราคาปิด 38 บาท มูลค่าการซื้อขาย 134.492 ล้านบาท

คาดการณ์ผลประกอบการปี 2549 เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และปี 2550 ตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโต 20-25% อยู่ที่ 2 หมื่นลบ. จากการเพิ่มจำนวนอาคาร และเตียงผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ BGH ตั้งงบลงทุนไว้ 5% ของรายได้รวม
เพื่อใช้สำหรับขยายและปรับปรุงอาคารโรงพยาบาลรองรับจำนวนผู่ป่วยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนซื้อโรงพยาบาลเพิ่มเติมอีก 1-2 แห่ง เพื่อขยายเครือข่ายโรงพยาบาลให้คลอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน BGH
มีผู้ป่วยต่างประเทศประมาณ 30% โดยจากการขยายเครือข่ายโรงพยาบาลและการเปิดศูนย์บริการเฉพาะทาง จึงตั้งเป้าใน 2-3 ปีข้างหน้า จะมีจำนวนผู้ป่วยต่างเทศเพิ่มเป็น 50% เท่ากับผู้ป่วยในประเทศ จากการที่เป็นหุ้นพื้นฐานธุรกิจดี เป็นผู้ประกอบการโรงพยาบาลขนาดใหญ่ครบวงจร และมีความเสี่ยงในการลงทุนต่ำ K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 37.50 บาท แนวต้าน 40 บาท

BECL ราคาเปิด 23.70 บาท ราคาปิด 23.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 29.98 ล้านบาท จากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ปริมาณการใช้ทางด่วนใน Sector D เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการใช้ทางด่วน Q4/49 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.09%YoY มาอยู่ที่ 930,590คัน/วัน โดยมีรายได้อยู่ที่ 18.26 ล้านบาท/วัน จะมีรายได้ถึง
1,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8%YoY สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มลดลง จะส่งผลดีต่อค่าใช้จ่ายในปี2550ไม่ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก ขณะที่การประมูลรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นจะส่งผลดีต่อบริษัท โดยคาดว่าสายสีแดงและสีม่วง จะส่งผลดีต่อทางด่วนใน Sector B+ และ C+ และการปรับเพิ่มค่าผ่านทางด่วนที่จะเกิดขึ้นในปี 2551 จะส่งผลดีต่อBECLในอนาคต ยอดการใช้ทางด่วนเดือนมกราคม2550 เฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 4.4%YoYเป็น 912,891 คัน K.KRAZIPเห็นว่า BECL เป็นหุ้นที่น่าสนใจในเรื่องความเสี่ยงต่ำในการดำเนินการและเป็น defensive play และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปี 2550 เป็น 4.2% K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับ 23.30 บาท แนวต้าน 24.10 บาท

SOLAR ราคาเปิด 4.24 บาท ราคาปิด 4.08 บาท มูลค่าการซื้อขาย 39.38 ล้านบาท สำหรับข่าวการลาออกของผู้บริหาร คุณวันดี กุญชรยา ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในวานนี้พอสมควร แต่ SOLAR ยังมั่นใจระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านแบบเชื่อมต่อระบบจำหน่าย จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคแน่ หลังทดลองทำโครงการนำร่องหลายแห่ง อีกทั้งมีแรงหนุนจากกระทรวงพลังงานอนุมัติให้ประชาชนที่ผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ สามารถขายไฟฟ้าได้ถึงหน่วยละประมาณ 11 บาท ให้กับการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

การที่กระทรวงพลังงานอนุมัติให้ประชาชนทั่วไปสามารถติดตั้งระบบเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านและสามารถนำจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้มาคำนวณเป็นตัวเงินและขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นั้น ส่งผลบวกกับ SOLARอย่างมากและSOLARได้เตรียมอำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าเอาไว้แล้ว
เพื่อให้สามารถติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านแบบเชื่อมต่อระบบจำหน่ายได้ทันที

และได้ติดต่อธนาคารพาณิชย์ในประเทศเพื่อขออนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ต้องการจะติดตั้งระบบ ซึ่งคาดว่าภายในQ1/50 จะมีลูกค้าไม่น้อยกว่า 100 ระบบ ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ทยอยซื้อ แนวรับ 3.96 บาท
K.KRAZIP 13/02/2550

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com