แกะรอยหุ้นโรงพยาบาล ยุคคนเจ็บเกลื่อนเมืองพบ BGH-BH-KH มี story น่าสนใจสุดทั้งเล็งควบรวมกิจการโรงพยาบาล-ซื้อโรงพยาบาลอื่น-ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เพื่อเพิ่มรายได้ เซียนหุ้น เชียร์ซื้อขาดใจ หลังธุรกิจมีแนวโน้มรุ่ง เหตุรัฐหนุนเป็นฮับด้านสุขภาพ ด้านนักเทคนิค แนะเก็งกำไร BGH-BH-KH-NEW-VIBHA เหตุเส้นกราฟสวย


ยารักษาโรค ถือว่าเป็น 1 ในปัจจัย 4 สำหรับการดำรงชีวิต เพราะต้องยอมรับว่า คนเราทุกคนต้องเจ็บไข้ได้ป่วยกันทั้งนั้น หนีไม่พ้นที่จะต้องพึ่งพาหมอเพื่อรักษาโรค ซึ่งธุรกิจที่มาควบคู่กับการรักษาโรค อย่างธุรกิจโรงพยาบาลจึงเป็นธุรกิจที่ยังเติบโตอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เพราะในหนึ่งวันมีประชากรมากมายที่เจ็บป่วนด้วย โรคประจำตัว โรคประจำวัน หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดมากมาย จำนวนผู้ป่วยที่หมุนเวียนรักษาตัวในโรงพยาบาลจึงแทบไม่ซ้ำหน้า

ในอดีตธุรกิจโรงพยาบาลอาจยังไม่บูมมากนัก เพราะผู้คนเจ็บไข้กันน้อยมาก โรคภัยยังไม่มีความซับซ้อนเช่นทุกวันนี้ แต่ปัจจุบันยิ่งโลกก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร่ ผู้คนต่างเจ็บป่วยกันด้วยโรคแปลกๆ ดังนั้น จึงมีการคิดค้นเทคโนโลยีการรักษาหรือการตรวจโรคภัยในร่างกาย เพื่อต่ออายุให้มนุษย์ยาวนานขึ้น ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ต้องการรักษาตัวให้ปราศจากโรค ดังนั้น โรงพยาบาลต่างๆจึงพยายามที่จะนำเข้าเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อรักษาโรคให้ครบวงจร ยิ่งโรงพยาบาลแห่งใดมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย รวมทั้งมีสาขาในที่ต่างๆ ผู้ป่วยก็จะหลั่งไหลเข้าไปรับการรักษาโรงพยาบาลแห่งนั้นมากขึ้น

และส่วนใหญ่ประชาชนทั่วไปที่มีฐานะดีหน่อยจะนิยมเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน เพราะรวดเร็ว สะดวกสบาย มากกว่าโรงพยาบาลภาครัฐ และโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งมีเครื่องมือการแพทย์ที่ครบครัน ดังนั้น จะพบว่าในปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชนมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และโรงพยาบาลเอชนขนาดใหญ่หลายแห่ง เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นเพื่อนำเงินระดมทุนไปใช้ในการซื้อเครื่องมือการแพทย์ และนำเข้าเทคโนโลยีการรักษามาใช้ภายในโรงพยาบาล

ขณะที่ธุรกิจโรงพยาบาลกำลังรุ่งเรือง หุ้นโรงพยาบาลก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน นักวิเคราะห์หลายสำนักต่างเชียร์ซื้อ เพราะเป็นธุรกิจที่มีรายได้แน่นอน แถมอัตราการจ่ายเงินปันผลยังอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม อีกทั้ง ภาครัฐพยายามที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการรักษาสุขภาพ และยิ่งตอกย้ำกระแสความนิยมของนักลงทุนด้วย story ของหุ้นโรงพยาบาลบางตัวที่น่าสนใจ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า

บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BGH ที่ผู้บริหารออกมาแย้มแผนงานปีนี้ว่า เตรียมที่จะซื้อโรงพยาบาลอีก 1-2 แห่ง เพื่อขยายเครือข่ายให้ครอบคุลมทั่วประเทศ และเตรียมทุ่มงบลงทุน 1 พันล้านบาทเพื่อขยายอาคารรองรับผู้ป่วยเพิ่ม แถมหวังเพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ด้าน บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หรือ BH นั้นเตรียมที่จะผุดโรงพยาบาลที่เมืองจีน ภายใน 2 ปีข้างหน้า เพื่อขยายช่องทางหารายได้ และขยายฐานลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ BH มีการร่วมทุนกับรัฐบาลดูไบสร้างโรงพยาบาลภายในประเทศดูไบแล้ว ดังนั้น BH จึงเป็นหุ้นโรงพยาบาลอีกตัวที่น่าจับตา

ส่วนบมจ.บางกอก เชน ฮอลปิตอล หรือ KH ยังมีประเด็นที่น่าติดตามคือ การเตรียมหาคู่ควบรวมกิจการกับโรงพยาบาลอื่น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาพยาบาลและต้นทุนการดำเนินงาน โดยทางผู้บริหารระบุว่าจะได้เห็นความชัดเจนใน Q2/50

บมจ. โรงพยาบาลวิภาวดี หรือ VIBHA ก็เตรียมที่จะก่อตั้งศูนย์มะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน แน่นอนว่าหลังจากก่อตั้งเสร็จน่าจะสร้างรายได้ให้ VIBHA เป็นกรอบเป็นกำ แถมบริษัทเตรียมทุ่มงบไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาทผุดศูนย์อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ แคร์ ในปี 53 เพื่อทำธุรกิจการแพทย์ครบวงจร

บมจ. เชียงใหม่ธุรกิจการแพทย์ (LNH) เองได้มีการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ก่อสร้างอาคารใหม่ ขนาด 7 ชั้น หรือประมาณ 100 เตียง คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ประมาณกลางปี 2550 และจะแล้วเสร็จให้บริการได้ในต้นปี 2552 รวมทั้งซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์

บมจ.โรงพยาบาลไทยนครินทร์ หรือ TNH ที่ถึงแม้จะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่อัตราการเติบโตหน้าสนใจมาดทีเดียว โดยในปีหน้าบริษัทฯ มีแผนเปิดศูนย์ผ่าตัดสมอง ซึ่งใช้งบลงทุนมากกว่า 50 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมบุคลากรแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ หากเปิดดำเนินการก็น่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัท

ทางด้านบมจ.โรงพยาบาลศิครินทร์ หรือ SKR หากการขยายตึก 3 เฟสแรกสำหรับผู้ป่วยประกันสังคมเรียบร้อยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะส่งผลให้ความสามารถในการรองรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 3,400 คนต่อวัน จาก 2,800 คน ในปี 49 แถมยังได้รับอานิสงค์จากการเติบโตของชุมชนใหม่ในเขตสุวรรณภูมิ

***บล.กิมเอ็ง คาดปี 50 กลุ่มโรงพยาบาลกำไรโตทุกตัว หลังธุรกิตสดใส

เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (มหาชน) เปิดเผยว่าสาเหตุที่ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ เพราะมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในหุ้นดังกล่าว หลังจากที่นักวิเคราะห์ออกบทวิเคราะห์สนับสนุนให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากเล็งเห็นว่ามีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล เป็นกลุ่มที่มีรายได้แน่นอนจึงทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุน ซึ่งแนวโน้มของรายได้ในไตรมาสที่ 4/2549 ประเมินแล้วไม่น่าจะเติบโตมากกว่าไตรมาสก่อน เพราะมีวันหยุดเยอะจึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร แต่อนาคตหุ้นกลุ่มนี้ก็ยังคงดีรายได้ไม่ผันผวนตามสถานการณ์บ้านเมืองด้วย แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวลือออกมาว่านพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท แอสซิส อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิสเซส จำกัด มีแผนจะเข้าซื้อกิจการของโรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งนี้ประเมินว่าคงไม่ใช่สาเหตุที่สนับสนุนให้ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งไม่น่าจะมีอิทธิพลหนุนให้ราคาหุ้นทั้งกลุ่มปรับเพิ่มขึ้นได้

ทั้งนี้ ในปี 2550 คาดว่า บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ BGH จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,514 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,302 ล้านบาท บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หรือ BH มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,107 ล้านบาท บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือ KH มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 465 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 414 ล้านบาท บมจ. โรงพยาบาลนนทเวช หรือ NTV มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 139 ล้านบาท และ บมจ.ศิครินทร์ หรือ SKR คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 67 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน BGH และ KH แนะนำถือ โดย BGH ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 34 บาท และ KH ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 8.20 บาท BH แนะนำเปลี่ยนตัวเล่น ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 35 บาท NTV แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 125 บาท ในขณะที่ SKR แนะนำทยอยสะสม ให้ราคาเป้าหมาย 13 บาท

****บล.กรุงศรีฯ เชียร์ซื้อ BSH-TNH แนวโน้มโดดเด่นสุด


นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.กรุงศรีอยุธยา (มหาชน) กล่าวว่า หากมองภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลในปีนี้น่าจะสดใสกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากโครงสร้างประชากรของไทยมีผู้ป่วยที่อายุ 40 ปีขึ้นไปมากขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้ค่อนข้างมีการศึกษา และมีกำลังเงินที่จะรับบริการเพื่อสุขภาพในระดับที่ดี ดังนั้น โรงพยาบาลต่างๆ จะได้รับผลดีแน่นอน เพราะขณะนี้โรงพยาบาลเกิดใหม่มีไม่มาก แต่ทั้งนี้ การแข่งขันแย่งลูกค้าจะไม่เกิดขึ้นรุนแรง เนื่องจากโรงพยาบาลแต่ละแห่งต่างก็มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน อาจจะมีบ้างเล็กน้อยที่กลุ่มลูกค้าคาบเกี่ยวกัน

ขณะเดียวกันปัจจุบัน ยังมีลูกค้าจากต่างประเทศที่นิยมเข้ามารับการรักษาพยาบาลในไทย โดยมากที่สุดคือตะวันออกกลาง รองลงมาคือ สหรัฐ ยุโรป และอื่นๆ

ดังนั้น จากปัจจัยที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่าโดยรวมแล้วปัจจัยพื้นฐานของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลยังดีอยู่ ซึ่งจากการประเมินโรงพยาบาล 5 แห่ง ได้แก่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) : (BGH)บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) : (BH) โรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด (มหาชน) : (TNH)บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) : (SKR) และบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) : (KH) คาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้น่าจะโต 15%
สำหรับหุ้นโรงพยาบาลที่โดดเด่น ได้แก่ BGH และ TNH แต่เนื่องจากราคา BGH เต็มมูลค่าพื้นฐานที่ 36.90 บาทแล้ว บริษัทจึงแนะนำ ซื้อ TNH ราคาเป้าหมาย 9.9 บาท ส่วนอีก 3 ตัวที่เหลือและราคายังพอมีอัพไซด์เกนได้แก่ SKR ราคาเป้าหมาย 14.50 บาท

****เซียนหุ้นแนะเก้งกำไร BGH-BH-KH-NEW-VIBHA หลังเทคนิคสวย

นักวิเคราะห์บล.ฟิลิป ให้เทคนิคหุ้นโรงพยาบาลดังนี้


BGH แนวรับ 37.25 บาท / 36.75 บาท แนวต้าน 39.50 บาท / 40 บาท แนะนำเก็งกำไร
BH แนวรับ 37 บาท / 36.50 บาท แนวต้านให้ไว้ที่ 38 บาท /38.50 บาท แนะนำเก็งกำไร
KH แนวรับ 8.05 บาท / 8 บาท แนวต้าน 8.25 บาท/ 8.35 บาท แนะนำเก็งกำไร
NTV ไม่มีแนวรับแนวต้าน เพราะขาดสภาพคล่องไม่เหมาะสำหรับการลงทุน
SKR แนวรับ 11.10 บาท / 10.90 บาท แนวต้าน 11.50 บาท /11.70 บาท แนะนำซื้อ
NEW แนวรับ 18.50 บาท/ 18 บาท แนวต้าน 20 บาท / 20.50 บาท แนะนำเก็งกำไร
VIBHA แนวรับ 3.20 บาท / 3.16 บาท แนวต้าน 3.28 บาท / 3.40 บาท แนะนำเก็งกำไร

[b:2ee078ff8f"> KH กับ TNH ยังอยู่ค่ะ

ส่วน NEW ขายไป เมื่อวาน แล้วค่ะ 20 บาท กับ 20.50 บาท [/color:2ee078ff8f">[/b:2ee078ff8f">