นักวิเคราะห์ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่าแม้ดัชนีฯวานนี้( 7 ก.พ.50)มีแนวโน้มแกว่งตัว เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน ในขณะเดียวกันการที่ครม.มีมติให้สนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติอีกแห่งหนึ่งจะส่งผลลบต่อกลุ่มขนส่ง เช่นเดียวกับการอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการ Sell on fact ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
แต่อย่างไรก็ตามทางฝ่ายยังประเมินว่าปัจจัยด้านจุลภาค เช่นการประกาศผลการดำเนินงาน และการจ่ายเงินปันผลยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาดโดยภาพรวมในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ซื้อหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงรวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะรายงานผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
สำหรับตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)ทางฝ่ายมองว่าหุ้นที่ได้รับความสนใจจากการประกาศผลการดำเนินงานและจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสูงนั้นคือ หุ้นบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด(มหาชน)หรือ UMS โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าจากการที่ UMS ขยายฐานลูกค้าขนาดกลางและขนาดเล็กไปในอุตสาหกรรมสิ่งทอและอาหารทำให้ปริมาณการจำหน่ายถ่านหินเพิ่มขึ้น รวมทั้งจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 80 ราย ณ สิ้นปี 2548 เพิ่มขึ้น 50% เป็น 120 ราย ณ สิ้นปี 2549 ทำให้คาดว่าผลกำไรรวมทั้งปี 2549 จะอยู่ที่ 178 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.55 บาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ดังนั้นจากการเติบโตของกำไรตามการขยายฐานลูกค้า ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทมีความน่าสนใจในแง่ของผลตอบแทนและเงินปันผล โดยคาดว่าบริษัทจะมีอัตราตอบแทนจากเงินปันผลสูงเฉลี่ยถึง 8%
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป จำกัดกล่าวว่าความนิยมในการใช้ถ่านหินมีมากขึ้น เพราะต้นทุนถูกกว่าการใช้น้ำมันเตาดังนั้นคาดว่าธุรกิจถ่านหินน่าจะเติบโตได้ดีและเชื่อว่าจะหนุนต่อผู้ประกอบธุรกิจนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ทั้งปี 2549 มีรายได้เท่ากับ 1,368 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 174 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.49 บาท ซึ่งในงวด 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทได้จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 1 บาทต่อหุ้น จึงคาดว่าจะจ่ายอีกเพียง 0.12 บาทต่อหุ้นรวมเป็น 1.12 บาทต่อหุ้นในปี 2549