May 8, 2024   6:30:29 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 08/02/2007 @ 10:08:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.เกียรตินาคินแนะนำถือ CSLราคาเป้าหมาย 3.90 บาทคาดใน 4Q/49 กำไรสุทธิมีแนวโน้มทรงตัว ตามรายได้จากธุรกิจ ISPเราประมาณการ CSLจะมีรายได้จำนวน 614 ล้านบาท ทรงตัวใกล้เคียงกับใน 3Q/49เนื่องจากรายได้ธุรกิจISP ที่มีแนวโน้มทรงตัว ตามรายได้ต่อเลขหมาย (ARPU)ของบริการ Internet ขณะที่จำนวนลูกค้า Internet มีแนวโน้มทรงตัว ยกเว้นลูกค้ากลุ่ม Dial up ยังลดลงต่อเนื่อง Q-O-Q สำหรับรายได้ธุรกิจสมุดหน้าเหลือง(TMC) คาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามเม็ดเงินโฆษณาใน 4Q/49 ที่เพิ่มขึ้น 3% Q-O-Q อย่างไรก็ดีกลยุทธ์เน้นทำตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร จะทำให้ CSLสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross margin) ได้ใกล้เคียงกับใน3Q/49 และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิจำนวน 64 ล้านบาท ใกล้เคียงกับใน 3Q/49 ที่มีจำนวน63ล้านบาท มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผล 2H/49 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ณ ราคาปัจจุบันคิดเป็น Dividend yield ประมาณ 4% ด้วยฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง รวมทั้งกระแสเงินสดที่มีประมาณ 700 ล้านบาท และอัตราหนี้สินต่อทุนที่ต่ำกว่า 1เท่า ทำให้คาดว่า CSL จะจ่ายเงินปันผลปี 49 ในอัตราสูงกว่า 100% (DividendPayout ratio) หรือจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด1H/49 แล้ว 0.60 บาท จึงจะเหลือจ่ายในงวด 2H/49 อีก 0.15 บาท/หุ้น ณ ราคาปัจจุบัน คิดเป็น Dividend yield ประมาณ 4% ในปี 50 ติดตามแผนขยายธุรกิจใหม่ของ CSL ข้อจำกัดของการเติบโตในธุรกิจที่CSL ลงทุนอยู่ โดยเฉพาะธุรกิจ ISP และ TMC ทำให้ผู้บริหารของ CSLระบุ ในปี 50บริษัทมีแนวโน้มจะขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ โดยอาจจะซื้อกิจการที่มีความน่าสนใจและสร้าง Synergy ให้กับธุรกิจเดิม เราเรามีมุมมองเชิงบวกต่อนโยบายดังกล่าว จะช่วยผลักดันการเติบโตให้กับผลประกอบการในอนาคตของบริษัท

บล.กิมเอ็งแนะนำถือ KKราคาเป้าหมาย 34.50 บาทKK ประกาศผลประกอบการกำไรสุทธิปี 49 ออกมากเท่ากับ 2,034 ล้านบาท ปรับตัวลดลง16.5%yoy เมื่อเทียบกับปี 48 สาเหตุหลักเนื่องจาก ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสูงตามภาวะตลาดและรายได้ที่ไม่ได้อยู่ในรูปดอกเบี้ยปรับตัวลดลงมากทั้งจากรายได้ค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์และกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลง รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวลดลง 7.0% yoy จากรายได้ดอกเบี้ยรวมที่ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงเป็น 6.6% จาก8.3% ในปี 48 จากการประชุมนักวิเคราะห์ เมื่อวานนี้ เรามีความเห็นว่า ผู้บริหาร KK ชี้แจงถึงนโยบายการทำธุรกิจที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยตั้งเป้าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 13-15%, สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นสุทธิ 8 พันล้านบาท แต่ให้ความระมัดระวังในเรื่องคุณภาพหนี้มากขึ้นเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยและพอร์ทสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของ KK อยู่ในส่วนรถยนต์มือ 2 ซึ่งมีความเสี่ยงสูงประมาณ 50% ของสินเชื่อรวมขณะที่ KK ยังมีมุมมองที่เป็นลบต่อสินเชื่อผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย โดยจะยังไม่มีการเติบโตของสินเชื่อสุทธิเนื่องจากสภาพตลาดยังไม่เอื้ออำนวย แม้ว่าผลประกอบการในปี 2549 จะปรับตัวลดลง, แนวโน้มอุตสาหกรรมที่ยังแข่งขันสูง รวมถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจของ KKที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม ฐานะทางการเงินยังอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแกร่ง และคาดว่า KK จะยังมีความสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง โดยเราประมาณการว่าผลตอบแทนจากเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในปี 49 จะอยู่ที่ระดับ 7.7%

บล.เอเซีย พลัสแนะนำซื้อ BROCKราคาเป้าหมาย 8.45 บาทแผนการพัฒนาที่ดิน 506 ไร่ ติดชายหาด ที่ จ.ภูเก็ตมีความคืบหน้าตามลำดับ โดยล่าสุดได้ข้อสรุปสุดท้ายในการร่วมทุนกับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา ถือหุ้นฝ่ายละ 50% หลังจากนั้นจะซื้อที่ดินจากกลุ่ม BROCK เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะซื้อที่ดินส่วนแรก 40 - 50 ไร่ ในการพัฒนาโรงแรม และบ้านพักตากอากาศ ซึ่งราคาซื้อขายน่าจะสูงกว่า 4 ล้านบาท/ไร่ (ต้นทุนทางบัญชีประมาณ 1 ล้านบาท/ไร่) คาดว่าน่าจะดำเนินการได้ในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.50 ขั้นตอนดังกล่าวจะทำให้ BROCKสามารถบันทึกกำไรจากการขายที่ดินเข้ามา 50% ก่อน ซึ่งเป็นผลดีต่อฐานกำไร ทั้งนี้กำไรที่จะเกิดขึ้นดังกล่าวยังไม่ถูกรวมอยู่ในประมาณการที่ฝ่ายวิจัยนำเสนอ อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนของการขายที่ดิน BROCK จะทำการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อประโยชน์สูงสุดทางภาษี โดยจะควบรวมสินทรัพย์ของบริษัทย่อย ได้แก่ บจ.นวเทพ ซึ่งถือครองที่ดินแปลงดังกล่าว และ BROCK ถือหุ้น 100% เข้ามาไว้ที่ BROCK กระบวนการดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.50 หากไม่นับรวมโครงการพัฒนาที่ดินติดชายหาดที่ จ.ภูเก็ตดังกล่าวข้างต้น BROCK มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อย่างน้อย 3 โครงการในปี 2550ประกอบด้วยโครงการถนนบายพาส ภูเก็ต แยกเป็น 2 เฟส มูลค่าโครงการรวม 1.7 พันล้านบาท, โครงการที่ จ.ระยอง มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท และโครงการ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่า 500 ล้านบาท การเปิดตัวโครงการดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ฐานกำไรในงวดปี 2550 ของ BROCK ขยายตัวก้าวกระโดด ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินว่าการบันทึกรายได้จากการขายในงวดปี 2550 น่าจะอยู่ที่ 287 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงาน 59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากระดับ 31 ล้านบาทในงวดปี 2549 อย่างไรก็ตามประมาณการดังกล่าวยังไม่รวมถึงกำไรจากการขายที่ดินให้กับกิจการร่วมทุน

บล.ธนชาตแนะนำปรับเพิ่มงบลงทุนราคาเป้าหมาย U.Rต้นทุนการผลิตและสำรวจในปี 2007 ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป โดย PTTEP ยังคงมุ่งสำรวจและผลิตในหลุมที่มีอยู่ในปัจจุบัน สำหรับการสำรวจนั้น บริษัทฯ มีแผนที่จะขุดหลุมสำรวจทั้งสิ้น 58 หลุม (สำรวจ 32 หลุมและประเมินผล 16 หลุม) ในปี 2007 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีการสำรวจขุดเจาะเพียง 26 หลุม โดยการสำรวจจะมุ่งไปที่แหล่ง M9 ที่พม่า,แหล่ง 16-1 ที่เวียดนาม และอีก 2 แหล่งในอัลจีเรีย ถึงแม้ว่า PTTEP จะมีการกำหนดราคากับผู้รับเหมาที่จะทำการสำรวจเป็นระยะเวลาราว 2 ปี แต่จากจำนวนหลุมที่จะขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการสำรวจปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ เราเชื่อว่าจะมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากหลุมแห้งเข้ามาในปี 2007 นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น (ในปี 2006 PTTEPมีการตัดจ่ายค่าใช้จ่ายของหลุมแห้ง 8 หลุมเป็นจำนวนเงิน 1.6พันล้านบาท) โดยบริษัทฯ กล่าวว่าอัตราส่วนที่จะประสบความสำเร็จจากการขุดสำรวจ(success rate)ได้ลดลงจาก 90% ในอดีต เป็น 70% ในปี 2006 และจากการที่ PTTEPเข้าไปทำการขุดเจาะสำรวจในต่างประเทศเพิ่ม และเป็นแหล่งที่บริษัทฯ ยังไม่คุ้นเคย และมีข้อมูลที่ค่อนข้างจำกัด เราจึงคาดว่าสัดส่วนดังกล่าวจะยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง (มาตรฐานsuccess rate เชื่อว่าอยู่ที่ 20%) แม้เราจะยอมรับว่า งบลงทุนจำนวนมากที่จะเกิดขึ้นจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขยายตัวให้กับ PTTEP รวมทั้งเราไม่คาดว่าการนำเข้า LNGจากอิหร่านในปี 2011 จะเป็นความเสี่ยงต่อ PTTEP เนื่องจากปริมาณควาต้องการภายในประเทศยังเติบโตต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น และจากการขยายโรงงานในส่วนขอภาคเอกชน

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com