Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 07/02/2007 @ 09:49:26 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต หนังสือพิมพ์ ข่าวหุ้นธุรกิจ ฉบับประจำวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2550 ต่างชาตืกลับมาซื้อติดต่อกันอีกครั้ง แต่วอลุ่มของตลาดก็ยังไม่มากพอ ที่จะทำให้ทิศทางขาขึ้นชัดเจนจนฟันธงไปได้ ทุกอย่างกลายเป็นไซด์เวย์ไปหมด* เมื่อวานนี้ กองทุนในประเทศและรายย่อยพากันขายสุทธิทั้งหมด ต่างชาติเลยกลับมารับอื้อซ่าในหุ้นหลักทั้งพลังงาน แบงก์ และก่อสร้าง ดูแล้วก็มีเหตุผลว่า เป็นเพราะราคาเทียบกับบุ๊คต่ำเกินไป และธุรกิจยังมาเรื่อยๆไปเรียงๆ ไมเลวร้ายจนเกินไป ยังไงเสียก้ยังดูดีมีกำไร* ข่าวล่ามาเร็วหลังจากมีการเทขายหุ้น SOLAR ออกมาจากกลุ่มผู้ถือหุ้นออกมาหลายระลอก ตรวจสอบแล้ว มาจากข่าวลือกันสะพัดเรื่อง วันดี กุญชรยาคง เอ็มดีและ ซีอีโอใหญ่ของบริษัทผลิตแผงวงจรไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ จะสะบัดก้นลาออกจากตำแหน่ง9 กุมภาพันธ์นี้...ไม่ยืนยัน...แต่ที่แน่นอนว่า บริษัทนี้กำลังมีปัญหาเรื่องmanagement breakdown ส่วนเรื่องอะไร ตามไปดูกันเอาเองเถอะ เพราะน้ำลด ตอย่อมผุด* ข่าวจากอเมริกา เมอร์ริล ลินช ยักษ์ใหญ่ด้านวางกลยุทธ์ลงทุน แนะให้ห่างจากสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิด ทั้งน้ำตาล ทองแดง น้ำมัน และที้สำคัญ ระวังเศรษฐกิจเอเชียจะชะลอตัวลง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับค่าดอลลาร์อีก...เตือนใจให้รับมือแต่เนิ่นๆ* กลับมาที่เมืองไทย ครม. มีมติเมื่อวานนี้ดูทะแม่งพิลึก ให้ดอนเมืองกลับมาเป็นสนามบินนานาชาติอีกครั้ง นั่นหมายความว่า ผลประโยชน์ขอแงใครบางคนที่เคยได้จากดอนเมืองจะกลับมาอีกครั้ง* แม้เหตุผลจะฟังดูดี แต่เกียรติก้อง ชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่า ที่ประโคมข่าวกันอึงคนึงเรื่องความเลวร้ายของสุวรรณภูมินั้น เอาเข้าจริง เป็นแผนเข้าทางเพื่อสร้างเหตุให้กลับมาใช้ดอนเมืองอีกครั้งใช่หรือไม่?* พูดอย่างนี้ ไม่ได้คิดขวางเรือใคร แต่สอบถามจากบริษัทประกันภัยที่สุวรรณภูมิแล้วหลายราย บอกว่า ไม่อยู่ในขั้นเสียหายจนถึงต้องจ่ายค่าสินไหมเลย แค่แท็กซี่เวย์เสียหาย 5% ถือเป็นเรื่องปกติของสนามบินใหม่ทุกแห่งทั่วโลก ไม่สะเทือนซางบริษัทประกันภัยที่ไหน..น่านนะซี* นี่ก็ทะแม่งอีก รักษาการณ์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวสออกมาย้ำชัดเรื่องที่คาดเดาไว้แล้วคือ เรื่องบ่อน เรื่องระเบิด และเรื่องใส่เกียร์ว่าง พร้อมกับประกาศชัดจะมีการโยกย้ายแน่นอน...ส่งสัญญาณชัดว่า เก้าอี้ผบ.ชน. ร้อนแน่นอนจะเรียกว่าสมานฉันท์แบบไหนดีเอ่ย???* รมว. คมนาคม ธีระ ห้าวเจริญ ประกาศย้ำอีกครั้ง ปลายปี 2555 จะได้ใช้รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแน่นอนทั้ง 5 สายระยะทาง 137 กิโลเมตรแน่นอน ขอให้เป็นจริงตามนี้* วกกลับมาที่เรื่องการเงิน เกียรติก้องยังข้องใจไม่หายว่า กระบวนการแก้ปัญหาเกินดุลทางการเงินทุกระดับ ซึ่งเป็นปัญหาที่ไต้หวัน ญี่ปุ่น หรือ จีน เผชิญมาแล้วทั้งนั้น กลับไม่ได้รับการใส่ใจชนิด เกาถูกที่คัน เสียเลย* เงินดอลลาร์ที่ไหลเข้ามาในเศรษฐกิจไทยยามนี้จนดันค่าบาทแข็งปั๋งกดไม่ลง เข้าลักษณะกินเข้าไปแล้วถ่ายไม่ออก ทางเลือกหากไม่ต้องการให้บาทแข็งมีอย่างเดียวคือ ผลักดันเงินทุนดอลลาร์ไหลเข้าส่วนเกินออกไปอย่างมียุทธศาสตร์* วิธีการก็คือ ตั้งบริษัท หรือ กองทุนลงทุนในต่างประเทศขึ้นมา โดยระดมทุนจากธนาคารพาณิชย์ และผู้ส่งออกทั้งหลาย เพื่อลงทุนใน 2 ส่วนคือ 1) ส่วนที่มีกำไรสูง 2)ซื้อกิจการธุรกิจส่วนที่เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาในอนาคตของชาติ เช่น บริษัท หรือสถาบันการเงิน หรือ สถาบันการศึกษา* วิธีการนี้ ไต้หวันเคยทำมาแล้ว ญี่ปุ่นก็เคยทำมาแล้ว และล่าสุด จีนกับอินเดีย กำลังทำ เพื่ออะไร? ก็ผลักดันเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นออกไป แล้วแปลงกลับมาเป็นภูมิรู้ และกำไรยั่งยืนในอนาคต* ข้อเสนออย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่เป็นจริง และปฏิบัติได้ อย่างมียุทธศาสตร์ และยุทธวิธี โดยไม่ติดกับดักในเรื่องของ ชาตินิยม หรือ ท้องถิ่นนิยมจนเสียมิตรประเทศไปหมด แถมยังเป็นการเกาะกระแสโลกาภิวัตน์อย่างมียุทธศาสตร์และชาญฉลาด* งานนี้ หากปัญญาชนในรัฐ หรือ พรรคการเมือง หรือ แบงก์ชาติ ไม่ตาบอดมืดมัวจนเกินไป ต้องคิดได้แล้วว่า บัดนี้ ต้องเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการจัดการกับเงินทุนที่ไหลท่วมเมืองได้แล้ว ก่อนที่จะสายเกินไป* เกียรติก้องไม่ลังเลใจที่จะเสนอชื่อบริษัทประเทศไทยเพื่อการลงทุนต่างประเทศ หรือ TIC ให้พิจารณา จะเป็นโครงสร้างแบบเตมาเซก โฮลดิ้ง หรือGIC ของสิงคโปร์ก็ไม่เลวนัก อะไรที่ควรทำ ก็ควรทำ* เช้านี้ แนวโน้มดัชนีตลาดยังไม่เปลี่ยนแปลง ขึ้นได้ไม่มาก ลงได้ก็ไม่มีสาระ แกว่งตัวแคบๆ รออีกอีก 2 สัปดาห์ จะถึงวันตรุษจีน แล้วดัชนีจะชัดเจนว่า ทิศทางจะไปไหนกันแน่ ช่วงนี้ต้องรอด้วยความอดทน [/color:c6753b2fdc">
ที่มา ข่าวหุ้น
|
