บรรยากาศการเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทยยังไม่คึกคักแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นและทำให้ดัชนีดาวโจนส์และตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้นรวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่พลอยได้รับอานิสงส์กับข่าวดีดังกล่าวแต่มูลค่าการซื้อขายในตลาดยังค่อนข้างต่ำสะท้อนว่า ?ความมั่นใจในการลงทุน?

ยังไม่น่าไว้วางใจแม้สัญญาณทางเทคนิคของดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์จะปิดเหนือระดับ 655 จุดซึ่งเป็นสัญญาณซื้อในทางเทคนิคและมีแนวโน้มปรับตัวทดสอบแนวต้านบริเวณ663 ซึ่งจะเป็นการยืนยันทิศทางสัญญาณอีกครั้ง
หากมองเกมว่าตลาดหุ้นกับเศรษฐกิจไทยมียุค?ดีและยุคตกต่ำ? เนื่องจากตัวแปรที่เข้ามากระทบ

ระดับราคาหุ้นของไทยได้ผ่านกระบวนการปรับตัวทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อตอบสนองทั้งข่าวดีและข่าวร้ายทั้งในแง่ภาคมหภาค และจุลภาค โดยผ่านระบบเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและตัวบริษัทโดยตรงระดับราคาหุ้นในปัจจุบันหากไม่มองถึงองค์ประกอบของตัวแปรต่างๆ ที่เข้ามากระทบถามว่า ?น่าสนใจไหม? คำตอบคือ น่าสนใจมากเพราะนาน ๆ ตลาดหุ้นจะมีการเสนอผลตอบแทนที่ ?จูงใจ? ขนาดนี้ แต่เนื่องจากกลไกตลาดต้องขับดันด้วย ?เม็ดเงินและความมั่นใจ? แต่ปรากฏว่าตลาดหุ้นไทยนั้น ตัวแปรดังกล่าวกำลังถูก ?เบี่ยงเบน? ด้วยกลไกของระบบการดำเนินนโยบายภาครัฐและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจทำให้ต้องมีการ ?ปรับตัว? และใช้เวลาในการพิจารณานานหน่อยดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับว่า ?ใครจะเปิดฉาก?เป็นผู้นำที่จุดพลุให้เกมต่าง ๆไม่อืดอาดและจ้องกันไป จ้องกันมาเหมือนปัจจุบัน
หากเล่นหุ้นเหมือนคน ?ตาบอด? คือไม่สนใจอะไรเลยนอกจากการเปลี่ยนแปลงของราคาและปริมาณการซื้อขาย

ตลอดจนข่าวสารต่าง ๆและสนใจเฉพาะแนวโน้มเฉพาะหน้าทางเทคนิคเท่านั้นและเชื่อว่าพฤติกรรมและข้อมูลข่าวสารต่างๆได้สะท้อนในกิจกรรมการลงทุนไประดับหนึ่งทั้งข่าวดีและข่าวร้ายส่วนมูลค่าและปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นจะตามมาเองหากนักลงทุนรู้ว่าเดินผิดทางตำแหน่งดัชนีปัจจุบันก็จะเป็น ?จุดเสี่ยง? สำหรับการเข้าสะสมหุ้นเพราะหากมองว่าราคาหุ้นที่ตกลงมาจน ?แข้งขาหัก? ซึ่งราคาหุ้นหลาย ๆตัวยังต่ำกว่าตอนนั้นอีกหากตัวแปรเรื่องผลประกอบการของบริษัทยังเหมือนเดิมคาดว่าจุดนี้จะเป็นจุด ?เลือกหุ้น? ที่ดี แต่ทั้งนี้ควรต้องปรับกลยุทธ์ไว้รับ

?สำหรับสถานการณ์เหนือความคาดหมาย? ที่อาจจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไม่เป็นไปตามคาดเช่นกัน เพราะในตลาดหุ้นนั้น?การเปลี่ยนแปลง? เกิดขึ้นตลอดเวลา หากใครยังยึดแนวทางว่าซื้อหุ้นต้องรอให้ขึ้นก่อนและได้กำไรมาก ๆ จึงจะขาย ไม่ได้ตามเป้าหมายไม่ขายกินคำเล็ก ๆ ไม่เป็น อาจจะอันตรายเกินไปสำหรับตลาดหุ้นไทย เพราะตลาดหุ้นไทยนั้นกินกันแคบ ๆ มาก สำหรับภาวะปัจจุบัน เพียงแต่ความถี่อาจจะมากขึ้นเพราะกินคำน้อยๆ เหมือนปลาวาฬไง

ข้อสังเกตสำหรับแนวโน้มตลาดระยะสั้น การที่ดัชนีสามารถยืนเหนือ 655 ได้ในมุมมองระยะสั้นถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่งและอาจจะมองสูงได้ประมาณดัชนี 680 จุด แต่เพื่อความไม่ประมาทอย่าหลงดีใจหากตลาดหุ้นโดยไม่มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเหนือ 663 และปิดต่ำถือเป็นสัญญาณ ?ทบทวนการลงทุนใหม่? และหยุดการขาดทุนหากดัชนีปรับต่ำกว่า 650 จุด โดยกลยุทธ์ในการลงทุนนั้นยังเน้นการลงทุนแบบ ?จรยุทธ์? ซื้อเร็วขายเร็วเป็นหลัก โดยเน้นที่ 1.สภาพคล่องในการลงทุน 2.โครงสร้างทางเทคนิคมีความเสี่ยงต่ำ ความสามารถในการทำกำไรสูง 3.ปัจจัยพื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ดีรับได้ หากติดไม้ติดมือไม่ต้องถึงกับกระโดดตึกหนี 4.บรรยากาศแวดล้อมการลงทุนเป็นใจ

5.บรรยากาศในประเทศการเมือง การทหาร การก่อวินาศกรรมไม่อึมครึม ปัจจัยเหล่านี้ควรจะเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการลงทุนและให้น้ำหนักการลงทุนในช่วงนี้

สำหรับหลักทรัพย์ที่คาดว่าน่าสนใจและมีรอบ สำหรับการ ?ซื้อมาขายไป ? หรือการ ?จัดพอร์ตการลงทุน? ชนิดลงน้ำหนัก โดยเกรด ซื้อมาขายไป หุ้นเหล่านี้ต้องทำใจว่า ?ปัจจัยพื้นฐาน หรือผลประกอบการ ตลอดจนข่าวต่าง ๆ นั้นจริงบ้าง เท็จบ้าง? ดังนั้นปัจจัยเหล่านี้เป็นความเสี่ยงตลอดเพราะตลาดหุ้นนั้นไม่ใช่สถานที่ให้

?เงินใครฟรี ๆ? ทุกอย่างต้องใช้ฝืมือ จังหวะและโอกาสจึงจะหยิบเงินได้ หุ้นเกรดนี้เช่น APURE EVER ITD STEC PAE IEC NWR BLAND ส่วนหุ้นในเกรดรุ่นใหญ่และยึงคาดว่าเป็นหุ้นหลักพลาดพลังขาหักยังเข้าเฝือกได้ และต่อติดหากทนได้ถือนานได้หุ้นที่น่าสนใจได้แก่ IRPC TRUE ADVANC SC TPIPL RRC PTTEP AMATA เป็นต้น (แสดงความเห็น Email : cnantawat@yahoo.com)


.00020