May 19, 2024   9:59:14 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ลดดบ.ปลุกหุ้นที่ดินวิ่งแค่ช่วงสั้นเหตุตัวแปรเชิงลบยังมี.....
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 02/02/2007 @ 00:18:02
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้ว่าธปท. ส่งสัญญาณดบ.ขาลง หนุนธุรกิจอสังหาฯปีนี้โต ผสมโรง เฟดคงดอกเบี้ย กระตุ้นหุ้นอสังหาฯ คึกคักยกแผง แต่ปธ.สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ยังเตือนอย่าประมาท หวั่นบ้าน-คอนโดที่แข่งดุ หนุนภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ขณะที่กำลังซื้อของประชาชนลดลงต่อเนื่อง ดังนั้นแม้ดอกเบี้ยจะเริ่มลดลงในปีนี้ก็ไม่ช่วยให้กำลังซื้อเริ่มฟื้น เว้นลดลงถึง 1% จึงจะช่วยกระตุ้น ขณะที่โบรกเกอร์ ชี้ อสังหาฯรับอานิสงส์อันดับแรก หากดบ.กู้ลงจริง แต่คาดครึ่งปีหลังถึงจะเริ่มเห็นผล เชียร์ดาวเด่นต้อง AP-SPALI-LPN

ในที่สุดธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานไว้ที่ 5.25% ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2549 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพราะเฟดมองว่าเศรษบกิจสหรัฐยังมีการขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยการประกาศตัวเลขจีดีพีในไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมาของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า จีดีพีในช่วงเวลาดังกล่าวขยายตัว 3.5% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 3% เท่านั้น เนื่องจากการบริโภคของประชาชนและรัฐบาลเพิ่มขึ้น บวกกับการส่งออกทียังทำได้ในระดับสูง ซึ่งทำให้จีดีพีในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในไตรมาสที่ 3 ที่เติบโตเพียง 2%

ส่งผลให้จีดีพีหรือเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2549 เติบโต 3.4% และนอกจากเศรษฐกิจที่ดียังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว เฟดยังมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีเสถียรภาพอยู่ ดังนั้นจึงทำให้เฟดไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด

ดังนั้นในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ก.พ. นี้ จึงน่าจับตามองว่า กนง.จะมีนโยบายตามเฟดอย่างไร หลังจากการประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้ประกาศปรับลดดอกเบี้ยนโยบายหรือดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วัน เหลือ 4.75% ไปแล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เพราะฉะนั้นนับจากนี้ไปอีก 1 เดือน จึงเป็นหน้าที่ของ กนง. ว่าจะดำเนินนโยบายดอกเบี้ยไปในทิศทางใดในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังต้องการกระตุ้น รวมถึงเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ไม่ว่าจากนี้กนง.จะตัดสินใจอย่างไร แต่จากการคงดอกเบี้ยของเฟด รวมไปถึงการส่งสัญญาณล่าสุด จากนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าแนวโน้มดอกเบี้ยในปีนี้จะเป็นขาลงนั้น ก็ทำให้หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์คึกคักรับข่าวนี้กันไปล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยที่จะได้รับอานิสงส์มากที่สุด เพราะเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดต่ำลง ต้นทุนของผู้ประกอบการในการขอสินเชื่อเพื่อก่อสร้างโครงการก็จะลดลง อีกทั้งยังทำให้ประชาชนหรือผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสนใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัยอีกครั้ง ซึ่งหากต้นทุนเงินกู้คืออัตราดอกเบี้ยลดลง ก็จะทำให้ภาระเงินกู้ลดลงตาม ทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายของผู้ประกอบการดีขึ้นตามไปด้วย

อีกทั้งหากสังเกตุจากการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ก็น่าจะเป็นสัญญาณอีกอย่างว่า เมื่อใดที่การลดดอกเบี้ยเงินฝากเกิดขึ้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารฯก็จะตามมา เพื่อให้สอดคล้องกับสมการที่เหมาะสมว่าการปรับลดดอกเบี้ยจะต้องทำทั้ง 2 ขา เพื่อช่วยในการบริหารต้นทุนของธนาคารฯเอง ซึ่งก็เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะเริ่มมาบางธนาคารฯ ที่จะประกาศ ยิ่งหากรับสัญญาณจากนายใหญ่อย่างธปท. ด้วยแล้ว อีกทั้งการที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งจะถือว่าเป็นธนาคารของรัฐบาลก็ไม่ผิด เป็นธนาคารแห่งแรกที่ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ไปแล้วขั้นต้น 0.25% เพื่อช่วยลดภาระให้กับประชาชนผู้กู้เงิน

ดังนั้นเมื่อธอส. นำร่อง ไม่นานธนาคารอื่นก็ต้องทำตาม เพียงแต่อาจจะรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งอาจหมายถึงอีก 1 เดือน หลังจากที่ กนง. ประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายในวันที่ 28 ก.พ. ก็เป็นได้
เพราะฉะนั้นเมื่อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้แล้ว จึงทำให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้กลับมาคึกคักยกแผงอีกครั้ง หลังจากที่เงียบหายไปพักหนึ่ง หรือไม่ก็เป็นเพียงขึ้นๆลงๆ ตามข่าวที่เข้ามาบ้างเท่านั้น แต่ครั้งนี้กับปัจจัยแวดล้อมดังกล่าว การออกมายืนยันของผู้ว่าการธปท. น่าจะช่วยผลักดันให้หุ้นอสังหาฯพลิกกลับมาได้รับความสนใจได้อีกครั้ง

เพียงแต่รอบนี้จะสั้นหรือยาวเท่านั้น หรืออาจจะแค่หวือหวาชั่วคราวเพราะแม้ว่าจะมีปัจจัยบวกเริ่มเข้ามาสนับสนุน แต่ปัจจัยลบอื่นก็ยังคงมีอยู่รอบด้านเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเรื่องความไม่ชัดเจนของมาตรการกันสำรอง 30% ของธปท. ว่าควรจะยกเลิกไปมากกว่าการออกมาผ่อนคลายทีละกฎเกณฑ์ ปัญหาหรือความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังคงมีอยู่ ทิศทางการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังคงกำหนดทิศทางของตลาดหุ้นไทย และที่สำคัญปัญหาโอเวอร์ซัพพลายของอสังหาฯ ที่หลายฝ่ายยังเป็นห่วง ตลอดจนเศรษฐกิจในประเทศที่แม้ว่าทั้ง กระทรวงการคลัง ธปท. จะการันตีการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ แต่แแนวโน้มการชะลอตัวก็ยังคงมีอยู่ เพราะตราบใดที่ผู้บริโภคยังมั่นใจไม่เต็มที่ ก็ยังไม่สามารถมั่นใจว่าอสังหาฯจะได้รับผลดีเต็ม100% ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นตัวแปรเชิงลบที่ยังคงคอยตามรังควานการปรับขึ้นของราคาหุ้นอสังหาฯได้

ทั้งนี้ เมื่อวาน ดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ปรับตัวอยู่ที่ 105.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.93 จุด หรือ 1.86% มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 1,435.28 ล้านบาท โดยหุ้นหลักที่ปรับขึ้นอาทิเช่น หุ้น AP ปิดที่ 3.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท มูลค่าการซื้อขาย 138.67 ล้านบาท หุ้น LALIN ปิดที่ 4.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3.93 ล้านบาท หุ้น LH ปิดที่ 6.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 80.85 บาท หุ้น LPN ปิดอยู่ที่ 4.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท มูลค่าการซื้อขาย 72.39 ล้านบาท หุ้น RAIMON ปิดที่ 1.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2.09 ล้านบาท หุ้น SIRI ปิดที่ 3.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าการซื้อขาย 16.14 ล้านบาท และ SPALI ปิดที่ 3.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท มูลค่าการซื้อขาย 73.56 ล้านบาท


* ผู้ว่าธปท. แจกยาดี ศก.ฟื้น-ดบ.ขาลง ส่งอสังหาฯปีนี้โต
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวบรรยายในงานสัมมนาซึ่งจัดโดยสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ร่วมกับสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ในหัวข้อ ? อสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2007 ? ว่า ธปท.เชื่อว่าเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะเอื้อต่อการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง ปัญหาเงินเฟ้อเริ่มคลี่คลาย ดังนั้นจึงน่าจะส่งผลให้ดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงในปีนี้ และส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีต้นทุนลดลง ส่วนจะลดลงมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการปรับตัวของภาคเอกชนเองเนื่องจากบางปัจจัยเกี่ยวข้องกับต่างประเทศด้วย เช่นราคาเหล็กและปูนซีเมนต์ เป็นต้น

? ถ้าเศรษฐกิจปีนี้โต 4-5% ตามที่เราประเมินไว้ ก็น่าจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ ในขณะที่ดอกเบี้ยทิศทางก็ลดลง เงินเฟ้อก็ไม่ใช่ประเด็น? นางธาริษา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่านโยบายของ ธปท.ต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะสนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตอย่างมีเสถียรภาพเพราะวิกฤตเศรษฐกิจปี?40 ที่ผ่านมาสาเหตุหนึ่งมาจากการเกิดฟองสบู่ในภาคอสังหาฯ ดังนั้น ธปท.จึงติดตามและวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด โดยนโยบายต่อภาคอสังหาฯ ต้องสมดุลทั้งการเติบโตและความแข็งแรงรวมถึงผลกระทบที่จะมีต่อภาคธุรกิจอื่นๆด้วย

เราเห็นความสำคัญในแง่เศรษฐกิจอยู่แล้วเพราะอสังหาฯ เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงในตะกร้าของการคิดเงินเฟ้อก็มีสัดส่วนค่าเช่าบ้านสูงถึง16% แสดงให้เห็นว่าเวลาเราคำนวณเงินเฟ้อ เราจะดูราคาค่าเช่าบ้านด้วยเพราะมันจะมีผลต่อมูลค่าหลักประกันของธนาคารพาณิชย์ด้วยแสดงให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจมากนางธาริษา กล่าว

สำหรับผลกระทบจากมาตรการกันสำรองเงินทุนนำเข้าระยะสั้น 30%ต่อภาคอสังหาริมทรัพย์มีน้อยมาก เนื่องจากเงินนอกที่จะเข้ามาซื้อ NPLจากการขายทอดตลาดรวมถึงเงินที่จะนำมาซื้อบ้านและอาคารชุดก็ได้รับยกเว้นการหักสำรอง30% อย่างไรก็ตาม สำหรับเงินนอกที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ธปท.ยังคงไม่ผ่อนปรนให้แต่จะขอติดตามดูอีกสักระยะหนึ่งเนื่องกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวเร็วมากปีที่ผ่านขยายตัว 118% เนื่องจากผู้บริหารกองทุนล้วนเป็นผู้ที่มีความสามารถในการดึงดูดนักลงทุนให้มาซื้อกองทุนนี้ได้


.00020 [/color:437c2a64d9">

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 02/02/2007 @ 00:20:23 : re: ลดดบ.ปลุกหุ้นที่ดินวิ่งแค่ช่วงสั้นเหตุตัวแปรเชิงลบยังมี.
ปธ.สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ยังห่วงปีนี้โอเวอร์ซัพพลาย-กำลังซื้อปชช.ลด

ด้านนายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวในงานเดียวกันนี้ว่า สิ่งที่น่ากลัวมากสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คือการมีสินค้าล้นตลาด เพราะปัจจุบันมีบ้านและคอนโดออกมาขายจำนวนมาก ตามการแข่งขันของผู้ประกอบการที่รุนแรง ในขณะที่กำลังการซื้อของประชาชนลดลงอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้วตามการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ย ดังนั้น แม้ว่าดอกเบี้ยจะเริ่มปรับลดลงในปีนี้ก็ไม่น่าจะช่วยให้กำลังซื้อเริ่มฟื้นในทันที แต่หากดอกเบี้ยลดลงถึง 1%น่าจะช่วยกระตุ้นได้มากกว่า

ดังนั้น ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จึงค่อนข้างชะลอตัว โดยคาดว่าสินเชื่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ปี 2550 จะโตต่ำกว่า 8% จากปี 2548 และ 2549 ที่โต 18% และ 8% ตามลำดับ ขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้น่าจะมียอดคงค้างต่ำกว่า 2.5 แสนล้านบาท จากปี 2548 และ 2549 ที่มียอดคงค้าง 2.8 แสนล้านบาทและ 2.5 แสนล้านบาทตามลำดับ ส่วนราคาที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยในปีนี้น่าจะต่ำกว่า 2.5 ล้านบาทต่อหน่วย จากปี 2548 และ 2549 ซึ่งอยู่ที่ 3 ล้านบาทและ 2.5 ล้านบาทตามลำดับ



* บิ๊กธอส.มั่นใจ แบงก์ลดดบ.เร็วเท่าไหร่ ยิ่งดีต่ออสังหาฯ

ด้านนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า คาดว่าวันที่ 28 ก.พ.นี้ ธปท.น่าจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก และหากธนาคารพาณิชย์ปรับลดดอกเบี้ยลงตามเร็วเท่าใด ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เร็วเท่านั้น ซึ่งในส่วนของธนาคารก็ได้ปรับลดดอกเบี้ยไปเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมาเพื่อหวังกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ธนาคารไม่เห็นว่าที่อยู่อาศัยมีมากเกินไปแต่ใกล้เคียงกับหลายปีก่อน เพียงแต่กำลังซื้อผุ้บริโภคลดลงเท่านั้น ซึ่งหากธนาคารลดดอกเบี้ยก็จะช่วยกระตุ้นได้


* วงการ มองกลุ่มอสังหาฯได้รับผลดีจากดบ.กู้บ้านลดในครึ่งปีหลัง
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านของธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือธ.อ.ส. ลง ถือเป็นสัญญาณที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระบบจะปรับตัวลง แต่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์น่าจะได้รับผลดีในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้ง ปัจจัยการเมืองที่คลี่คลายลง และธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะยกเลิกมาตรการสำรองเงินสดระยะสั้น 30% ทำให้สภาพคล่องในระบบดีขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมา ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภค สำหรับหุ้นที่บริษัทได้แก่ บมจ.LPN ,บมจ.LH และบมจ.ศุภาลัย
ดอกเบี้ยเงินฝากแม้จะปรับลดลงแต่ในครึ่งปีแรกคงไม่ปรับลงเร็ว โดยกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์น่าจะได้รับผลดีในครึ่งปีหลัง แต่สิ่งที่สำคัญคือความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นายสุกิจกล่าว



* พัฒนสิน คาดปีนี้ดบ.กู้-ฝาก ลดลง 1%
ด้านนักวิเคราะห์จาก บล.พัฒนสิน กล่าวว่า หลังจากที่ธ.อ.ส.ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็น่าจะทำให้ธนาคารพาณิชย์อื่นปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านลง โดยปีนี้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้น่าจะปรับลดลงมากถึง 1% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่ยอดการบ้านขึ้นกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจด้วย ซึ่งหากผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจยอดขายบ้านก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
สำหรับหุ้นที่แนะนำได้แก่ LPN ราคาเป้าหมายที่ 7.9 บาท ศุภาลัย ราคาเป้าหมาย 6.7 บาท และ AP ราคาเป้าหมาย 5.3 บาท



* บล.นครหลวงไทย เชียร์ ซื้อ SPALI-AP
นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ธปท. มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามที่ส่งสัญญาณถือเป็นผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ รับเหมาก่อสร่าง และวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากส่งผลให้ต้นทุนในการ ดำเนินงานปรับลดลง อย่างมีนัยสำคัญ และอาจเป็นสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นว่าอาจมีการโยกเม็ดเงินลงทุนจากการฝากในธนาคารพาณิชย์มาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าจากการที่ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง

ทั้งนี้ แม้มีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์หลายรายออกมามาระบุว่าแนวโน้มธุรกิจปีนี้จะยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร เนื่องจากมีปริมาณสินค้า (Supply) ล้นตลาด แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีเอกลักษณ์ และจุดเด่น ในการเลือกทำเล คุณภาพ และราคาดึงดูดใจ ซึ่งจะทำให้สินค้ามีความแตกต่างและตรงกับความต้องการผู้บริโภคอยู่
อย่างไรก็ตาม ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แนะนำซื้อหุ้นเด่น SPALI ในราคาเหมาะสม 4.44 บาท ,AP ในราคาเหมาะสม 5.65 บาท และ LPN ในราคาเหมาะสม 6.07 บาท



*ซีมิโก้ ชี้ ดบ.ลด อสังหาฯรับอานิสงส์เป็นอันดับแรก
นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ กล่าวว่า กรณีที่ ธปท. ส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ว่าประเด็นดังกล่าวถือเป็นผลบวกต่อการลงทุน โดยประเมินว่านอกจากธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลดีชัดเจน ทั้งจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังได้รับผลดีตามไปด้วย เนื่องจากเมื่อมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากก่อน ซึ่งหนุนให้การบริหารต้นทุนดีขึ้น

นอกจากนี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยยังมีส่วนสำคัญกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะกล้ากู้ยืมเงินเพื่อใช้ในการลงทุนใหม่ๆในอนาคต

แน่นอนว่าดอกเบี้ยลดต้นทุนการบริหารงานก็ลด ซึ่งผู้ที่ประโยชน์ที่สุดเป็นอสังหาฯ รองมาเห็นจะเป็นแบงก์ ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และผู้ค้าวัสดุก่อสร้างจะได้ประโยชน์จากน้ำมันที่ลดลงมากกว่าดอกเบี้ยลดโดยที่สำคัญเป็นการกระตุ้นการลงทุนที่ดี แต่คงจะไม่ได้เห็นผลรวดเร็วแต่คงเป็นช่วง 12 เดือนข้างหน้า นายสิทธิเดช กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากเป็นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แนะนำนักลงทุนซื้อ KBANK ราคาเหมาะสม 78 บาท ,KTB ราคาเหมาะสม 13.3 บาท และ SCB ราคาเหมาะสม 66.5 บาท



ราคาปิดหุ้นอสังหาฯ วานนี้


หลักทรัพย์ ราคาปิด(บ.) เพิ่มขึ้น(บ.) มูลค่าการซื้อขาย(ลบ.)
AP 3.98 0.18 138.67
ASCON 12.30 0.30 31.66
BLAND 0.80 0.03 27.83
CI 4.18 0.02 0.82
CK 8.60 0.10 60.93
CNT 2.36 0.02 0.95
EMC 2.96 0.06 3.06
ESTAR 0.38 0.02 1.79
EVER 3.28 0.14 137.20
GOLD 5.25 0.10 0.63
HEMRAJ 0.86 0.03 33.60
ITD 4.26 0.14 89.92
KC 1.17 0.01 2.00
KMC 1.34 0.02 3.70
KTECH 1.34 0.01 0.68
KTP 2.28 0.14 1.91
LALIN 4.26 0.10 3.93
LH 6.35 0.20 80.85
LPN 4.98 0.14 72.39
MBK 56.00 0.50 0.6
MK 2.52 0.04 3.93
NCH 2.96 0.06 19.25
NNCL 3.62 0.02 1.08
NWR 0.72 0.02 34.30
PF 3.52 0.10 1.90
PREB 1.64 0.04 1.47
PRECHA 2.38 0.14 4.15
PS 5.65 0.15 3.29
QH 1.13 0.08 74.97
RAIMON 1.30 0.02 2.09
ROJANA 11.70 0.20 1.83
SC 8.65 0.55 34.63
SEAFCO 7.60 0.20 72.64
SF 8.55 0.05 5.34
SIRI 3.04 0.08 16.14
SPALI 3.50 0.18 73.56
STEC 4.62 0.16 51.08
SYNTEC 1.05 0.06 101.91
TYONG 1.09 0.04 66.82
UV 2.08 0.08 4.13


รวบรวมโดย eFianceThai.com


.00020
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com