ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ประกาศคงระดับอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 5.25 หลังการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับระบุว่า มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐที่ค่อนข้างแข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ภาวะเงินเฟ้อเริ่มคลี่คลายลง แต่ปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อยังคงมีอยู่

สำหรับปฏิกิริยาจากตลาดหุ้นวอลสตรีท หลังการประกาศของเฟดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มที่เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ววันนี้ทำให้ดัชนีหุ้นต่างปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 98.38 จุด ปิดที่ 12,621.69 หุ้นเทคโนโลยีแนสแดคสูงขึ้น 15.29 จุด ปิดที่ 2,463.93 และหุ้นเอสแอนด์พี500 ปรับขึ้น 9.42 จุด ปิดที่ 1,438.24 ส่วนการซื้อขายหุ้นที่ตลาดโตเกียววันนี้ ดัชนีหุ้นนิเคอิร่วงลง 13.73 จุด อยู่ที่ 17,369.69 ในการซื้อขายช่วงแรกที่เปิดตลาด.

.00020

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก-ตลาดหุ้นโตเกียวประกาศเป็นพันธมิตร ร่วมพัฒนาระบบเทรด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นโตเกียวได้ประกาศการเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการแล้ว โดยตลาดหุ้นยักษ์ใหญ่ระดับโลกทั้ง 2 แห่งจะให้ความร่วมมือกันในหลายด้าน รวมถึงการร่วมกันพัฒนาระบบการซื้อขายและผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน อีกทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะเป็นพันธมิตรด้านทุน

นายไทโสะ นิชิมารุ ประธานตลาดหุ้นโตเกียว และนายจอห์น เธน ซีอีโอของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ประกาศการทำข้อตกลงดังกล่าวในระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่นิวยอร์ก

เรายินดีที่มีโอกาสทำงานร่วมกับคุณนิชิมารุอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ร่วมกัน และยินดีที่ได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานของคุณนิชิมารุในตลาดหุ้นโตเกียว ซึ่งเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก นายเธนกล่าว

เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะผลักดันการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะสร้างประโยชน์และโอกาสร่วมกันทั้ง 2 ตลาด และเพื่อประโยชน์ของลูกค้า เพื่อวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลในระดับโลก และเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯให้แน่นแฟ้นขึ้น เขากล่าว

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นับเป็นครั้งแรกที่ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดกว้างในการเป็นพันธมิตรกับตลาดหุ้นอื่นๆ และด้วยการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ตลาดหุ้นโตเกียวคาดหวังว่าจะช่วยให้ตลาดสามารถรอดพ้นจากภาวะการแข่งขันอย่างดุเดือดท่ามกลางตลาดหุ้นทั่วโลก

ภายใต้การทำข้อตกลงในครั้งนี้ ตลาดหุ้นโตเกียวและตลาดหุ้นนิวยอร์กจะจัดตั้งคณะทำงานอย่างเป็นทางการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎข้อบังคับ และเพื่อหารือในประเด็นเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับผลประโยชน์ร่วม ซึ่งรวมถึงระบบข้อมูลและเทคโนโลยี การบริการด้านการซื้อขาย และผลิตภัณฑ์ด้านข้อมูลในตลาด

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งขึ้น ตามตลาดตปท.-ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้น

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งขึ้น มีโอกาสลุ้นแนว 658-660 จุด รับผลจากตลาดหุ้นต่างประเทศ-ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ปรับสูงขึ้น คาดหุ้นในกลุ่มน้ำมันนำตลาด รองลงมาเป็นหุ้นในกลุ่มแบงก์ทที่น่าสนใจ หลังเฟดไม่ขึ้นดบ.เล็งไทยลดดบ.สินเชื่อลงในก.พ.นี้ ส่วนการเมืองยังทรงตัว พร้อมให้กรอบแกว่งวันนี้ที่ 650-660 จุด

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าดัชนีฯจะแกว่งตัวสูงขึ้น โดยมีโอกาสเข้าไปลุ้นแนว 658-660 จุด เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ปรับเพิ่มขึ้น จึงคาดว่าหุ้นในกลุ่มน้ำมันคงจะขึ้นมารับปัจจัยนี้
นอกจากนี้ ยังคาดว่าหุ้นในกลุ่มแบงก์ ก็อาจจะปรับตัวสูงขึ้นด้วย เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว จึงคาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์นี้ทางไทยเองก็น่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลงได้บ้าง พร้อมให้กรอบแกว่งวันนี้ที่ 650-660 จุด
สำหรับปัจจัยทางการเมืองยังทรง ๆ ตัวอยู่ เพราะถ้าไม่มีเหตุระเบิด ปัจจัยการเมืองจะเริ่มนิ่ง ๆ ขณะที่ทางภาคใต้จะเริ่มซา ๆ ลง หลังจากที่ปลายสัปดาห์ที่แล้วที่นายกฯไปทางใต้ และจะมีการหารือกับนายกฯ มาเลเซียที่จะเดินทางมาประเทศไทยช่วงต้นก.พ.นี้ คงเหลือแต่เรื่องการตรวจสอบในเรื่องเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
ส่วนกรณีของ AOT คงจะไม่กระทบตลาดฯเท่าไร เพราะมีคนรับผิดชอบ คือ คนสร้างก็ไปซ่อม แล้วประกันก็จ่ายไป ความเชื่อมั่นคงจะไม่เท่าไร สนามบินใหม่ ๆ ในประเทศอื่นก็มีปัญหาเหมือนกัน
ส่วนสาเหตุวอลุ่มเทรดในตลาดฯน้อย เป็นเพราะนักลงทุนต่างชาติยังชะลอลงทุนอยู่ เนื่องจากวิตกในเรื่องมาตรการแบงก์ที่สำรอง 30% แต่เขาก็ยังซื้ออยู่นะ เพียงแต่เงินมันไม่ได้ไหลเข้ามาอย่างเต็มที่นายโกสินทร์ กล่าว

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(31 ม.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,621.69 จุด เพิ่มขึ้น 98.38 จุด(+0.79%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,438.24 จุด เพิ่มขึ้น 9.42 จุด(+0.66%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,463.93 จุด เพิ่มขึ้น 15.29 จุด (+0.62%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 620.39 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 58.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์

- คลัง แจงแหล่งเงินกู้ลงทุนรถไฟฟ้า 5 เส้นทางลงตัว ใช้เงินกู้ 84% ที่เหลือเป็นงบประมาณ เผยเจบิคพร้อมปล่อยกู้ 1.49 แสนล้านบาท ขณะที่เวิลด์แบงก์แนะไทยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน-การศึกษา-กฎระเบียบ ปูทางพัฒนาเศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคง

- ต่อตระกูล เผยพรุ่งนี้สรุปต้นตอทางขับสุวรรณภูมิชำรุด เกิดจากถมทรายหรือไม่ ส่วนประเด็นที่เหลือสรุปได้ 9 ก.พ.นี้ เบื้องต้นคาดต้องใช้เงินซ่อมแซมทางขับ-รันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิกว่า 3,000 ล้านบาท สรรเสริญ แจงสนช.เหตุย้ายเที่ยวบินในประเทศกลับดอนเมือง ขณะที่สนช.รุมอัดทอท.ปกปิดข้อมูลทุจริต

- อนุกรรมการ คตส.สอบแบงก์กรุงไทย ปล่อยกู้บริษัทในเครือกฤษดามหานคร งัดกฎหมายฟอกเงิน-ก.ล.ต. ฟันบริษัท-คนใกล้ชิดนักการเมือง หลังขยายผลตรวจสอบเส้นทางเงินแบงก์ชาติ พบออกแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ กว่า 180 ล้านบาท จ่ายพ่อ-ลูกนักการเมือง ขณะที่ เสาวนีย์ เรียก ไอยคุปต์ กฤตบุญญาลัย ผู้ถือหุ้นฮาวคัม -มาสเตอร์โฟน ชี้แจงข้อมูลซื้อหุ้นทอท. เจ้าตัวยอมรับซื้อจริง

- เปิดร่าง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ฉบับแก้ไข วิจิตร หมดสิทธินั่งประธานต่ออีก 1 ปี แม้จะยืดวาระออกไปเป็น 3 ปี เหตุกำหนดให้ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งแค่ครบวาระเดิมเท่านั้น ส่วนเลขาธิการ ก.ล.ต. อยู่ในตำแหน่งได้ 5 ปี ขณะที่ วิจิตร ระบุ ทิศทางตลาดโลกแปรรูป ส่วนหุ้นไทยก็ต้องปรับตัว ส่วนตลาดหุ้นปีนี้คาดดัชนีมีลุ้น 800 จุด กำไร บจ.โต 8-10% เหตุปัจจัยกดดันลงทุนเริ่มนิ่ง ด้าน ดร.เศรษฐพุฒิ ผู้ช่วยตลาด ยื่นใบลาออกไปอยู่ฝ่ายวิจัย บล.ไทยพาณิชย์

- ธปท.เผยธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟประเมินระบบสถาบันการเงินไทยยังล้าสมัยด้านกฎหมายการเงินในการประเมินโครงการ FSAP ด้าน ธีระชัย ระบุผู้เชี่ยวชาญมองตลาดหุ้นไทยใช้เกณฑ์หลักประกันการซื้อขายหุ้นแบบ net settlement ที่ต่ำเกินกว่าประเทศอื่น เป็นความเสี่ยงต่อการชำระเงิน พร้อมเผยไทยขอให้ต่างชาติดูเรื่องระบบการชำระเงินในตลาดหุ้นและตราสารเพิ่มขึ้น

- ก.พลังงานเผยการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า(พีดีพี)รอบใหม่(ปี 2549-2564) จะมีการนำเสนอรายละเอียดทั้งหมดในเวทีประชาพิจารณ์ เปิดรับฟังความคิดเห็นวันที่ 7 กุมภาพันธ์