May 19, 2024   8:13:40 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > พวกวัวสันหลังหวะ!
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 01/02/2007 @ 09:16:27
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

* วันนี้ขอเริ่มต้นกันที่ การประกาศข่าวประชาสัมพันธ์ ให้บรรดาพี่ๆ น้องๆมาร์เก็ตติ้งทั้งหลายทั่วประเทศ ทราบคะว่า ทาง สหภาพแรงงานธุรกิจหลักทรัพย์ฯ จะเปิดประชุมใหญ่ นัดรวมพลเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ทำงานในธุรกิจหลักทรัพย์ โดยเฉพาะอาชีพมาร์เก็ตติ้ง

*งานนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ทุกท่านทราบว่า ข้อบังคับต่างๆ ที่ออกโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สร้างผลกระทบกับการทำงาน ค่าครองชีพ จนกระทั่งก่อให้เกิดการถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมอย่างไร และถือเป็นการรวมพลมาร์เก็ตติ้งครั้งใหญ่อีกครั้ง เพื่อเรียกร้องสิทธิที่พึงจะได้รับจากอาชีพการงานที่หากินกันอย่างสุจริต

* โดยจะมีงานในวันเสาร์ที่ 3 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น. ณ อาคาร พลเมืองอาวุโส สวนลุมพินี ถ้าใครไม่ถูกให้โทรไปถามรายละเอียดได้เลยที่ 08-1620-8997เพราะงานนี้ ณัฐนคร เลื่อนรังษี เป็นโต้โผใหญ่คะ และเขาว่ากันว่า ถ้าไม่ไปแล้วจะเสียใจนะคะ

*เจ็บนี้...อีกนานนนน เจ็บนี้... ไม่ลืม คำๆ นี้คงจะใช้ได้กับคนที่เข้าไปลุยหุ้นCSP-W1 ช่วงเช้า และต้องเจ็บตัวในช่วงบ่าย ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนของการไปยุ่งกะของร้อนๆ ใครว่าอากาศหนาวๆ แบบนี้ จะไม่มีสิทธิถูกลวกมือ คงจะพูดไม่ได้อีกแล้วคะ รักจะเล่นของร้อนต้องทำจายยยคะ ราคาหุ้นปิดที่ 1.43 บาท ลบไป 0.01 บาท

*ด้านหุ้น PSAP ที่ถูกลากขึ้นมา วันนี้สภาพคงจะไม่สวยอย่างเมื่อวานแน่นอนคะ และถือเป็นการดันเพราะราคาหุ้นต่ำกว่าบุ๊ค กับราคาต่ำกว่าบาทเท่านั้นเองคะ ส่วนเนื้อแท้ของธุรกิจยังอยู่ในช่วงที่เป็นวิกฤติอยู่ ใครที่หลงเข้าไปลุยก็คงต้องเตรียมถอนตัวได้แล้วนะคะหุ้นไร้พื้นฐานแบบนี้ถือนานไม่ดีคะ ราคาหุ้นปิดที่ 0.95 บาท บวกไป 0.23 บาท

*ข่าวล่ามาเร็ว ที่ลือกันให้แซดอีกแล้วว่า ช่วงหลายวันก่อน สำนักงาน ก.ล.ต.เข้าไปขอตรวจสอบข้อมูลบางอย่าง กับ ASL ที่สาขาใหญ่ ณ ตึกสินธร เนื่องจากมีแววว่าจะเข้าไปเกี่ยวข้องในการหมุน หรือปั่นอะไรสักอย่าง ซึ่งงานนี้มีแหล่งข่าววงในบอกให้เดี๊ยนฟังว่าเรื่องนี้มีการชงมาแล้วจากทางตลาดหลักทรัพย์ฯที่เป็นดาบแรก ว่ามีพฤติกรรมแปลกๆ จึงทำให้มือดาบสอง(ก.ล.ต.)เข้าไปตรวจสอบ

*การเข้าไปของ ก.ล.ต. ครั้งนี้ มีเค้าว่าจะเกี่ยวข้องกับ หุ้นที่เสี่ยสอง ช. โดยมี ช.แรกเป็นด่านหน้า คอยปฏิเสธข่าวว่าไม่เกี่ยวข้องราคาหุ้น และมักอ้างว่าตนทำธุรกิจไม่เกี่ยวกับการขึ้นลงของราคาหุ้น ส่วน ช.สอง อยู่เบื้องหลังที่ทำตัวเป็นนายหน้า ส่งหุ้นให้โบรกฯนั้นโบรกฯนี้ ไปดันราคา ซึ่งถ้ามีการตรวจสอบและผิดจริง เดี๋ยวก็จะรู้เองว่าจะออกหัวหรือก้อยกันแน่ โดยเฉพาะข่าวที่ว่าเสี่ย ช. แรกโอนหุ้นออกไปให้ผู้อื่นดันราคา

*ถ้าพูดถึงประวัติเสี่ย ช.ทั้งสองนี้ โมนิก้าเคยเขียนถึงไปแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ส่วนที่หายไปนานเพราะต้องขอรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนที่จะฉะอีกรอบ ตอนนี้ใครมีหุ้นท่อเหล็กตัวนี้อยู่ ก็ให้ระวังตัวด้วยนะคะเพราะอาจจะถูกลูกหลงได้คะ

*ไหนๆ ก็พูดถึงหุ้น ASL มาแล้ว ก็จะขอพูดถึงพื้นฐานต่อเลยละกันนะคะ จากงบปี 49ที่ออกมามีผลขาดทุนเพิ่มเป็น 683.56 ล้านบาท จากปี 48 ขาดทุน 244.17 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าต้องยอมรับฝีมือของเสี่ยไมค์-สดาวุธ เตชะอุบลเลยจริงๆ

*ก่อนหน้านี้เสี่ยไมค์ เคยบอกว่าธุรกิจหลักทรัพย์ ทำง่าย ทำอย่างไงก็กำไร ขอให้คุมต้นทุนให้ดี รวมถึงการจัดการยุบสาขาที่ไม่จำเป็นให้หมด เพราะเสี่ยไมค์ เคยบอกว่าเจ้าของเดิมใช้เงินลงทุนห้องค้าแบบโอเวอร์ ไม่สมเหตุสมผล จึงทำให้การยุบสาขาเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดการประหยัดเงินของบริษัท

*แต่สภาพที่เห็นในปัจจุบันคงจะบอกได้เลยว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่เสี่ยไมค์เคยพูดไว้เลยเพราะผลลัพธ์ที่ออกมานั้น ยังมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการยุบรวมสาขาเพิ่มอีก 60 ล้านบาทรวมถึงค่าใช้จ่ายพนักงานอยู่ที่ 50 ล้านบาท(ลดลง) แต่ค่าใช้จ่ายในการยุบสาขากลับลดลงเพียงแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น

*นอกจากนี้ งบที่ออกมายังมีขาดทุนจากพอร์ตการลงทุนในหุ้นอีก 200 กว่าล้านบาททำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นคะเนี้ยะ ซึ่งสรุปแล้วค่าใช้จ่ายก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่ดีสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่พูดฉันใด ใบหน้ากับ... ก็ย่อมหนาไม่เท่ากันฉันนั้น คะ

*ส่วน ASCON อันนี้ไม่ต้องลือเลยคะ เพราะล่าสุดผู้บริหารตลาดฯออกมาบอกเองเลยว่า กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่าจะมีการเข้าข่ายอินไซด์ราคาหุ้น ก่อนที่จะมีข่าวการเพิ่มทุนออกมาหรือไม่ ก็เคยบอกไปแล้วคะว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของเจ้านี้ เค้าเล่นหุ้นกันทั้งนั้น ก็จะยากคะ ที่จะห้ามใจอยู่ จริงไหมคะ เสี่ยวัฒน์ชัยขา

*อุบาทว์สุดๆ คงเป็นกลุ่มคนที่ โมนิก้า จะไม่ขอพบเจอทั้งชาตินี้-ชาติหน้า ก็คือ คนประเภทหน้าไว้หลังหลอก และบูชาเงินเหนือสิ่งอื่นใด จนหลงลืมไปว่า จรรณยาบรรณของคนทำวิชาชีพสื่อสูงส่งเกินกว่าจะแลกมาด้วยเศษเงินของพวกนายทุนที่โยนลงพื้น แล้วไปคาบมาใช้ไปวันๆ พอหมดเงินก็ไปร้องเห่าหอน งิ่งๆ เพื่อขอเงินมาใช่ต่อ...มันน่าสาปแช่งไม่ให้ผุดให้เกิดไหมหล่ะ

*อย่างว่า!...สันดานสุนัขรับใช้ ยังไงก็เป็นสุนัขรับใช้วันยันค่ำ เพราะงาช้างไม่มีวันงอกออกมาจากปากสุนัข ก็เลยทำให้ สุนัขยังชอบแทะกระดูกและเห่าหอนแทนเจ้านายอยู่ร่ำไป เดี๊ยนถึงไม่อยากถือสาหาความอะไรมากไปกว่านี้...เนื่องจากไม่ต้องการเอา พิมเสนไปแลกกับเกลือ

*ที่สำคัญ โมนิก้า ไม่เคยรับหน้าเสื่อเป็น พีอาร์ ให้กับบริษัทที่ชอบปั่นหุ้นเป็นกิจวัตรประจำวัน รวมทั้งไม่มีความคิดที่จะทำ และไม่มีวันทำด้วยจะบอกให้...เดี๊ยนเลยไม่คิดจะโต้ตอบ และขอทำแค่แฉพฤติกรรมทุกซอกทุกมุมให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่า การทำอาชีพสื่อ แต่ทะลึ่งไปรับเป็นประชาสัมพันธ์ จนคนในวงการเม้าท์กันให้แซ่ด...ดดด ว่า ไม่ต่างอะไรกับ คุณตัว!!!อย่างนี้มันสมควรประนาฌไหมเอ่ย

*โมนิก้า ร่ายยาวขนาดนี้ ไม่ได้เกิดจากอารมรณ์โมโห แต่อนาถใจแทนกลุ่มคนดังกล่าวต่างหาก เพราะไม่ทราบว่า ยึดถือจรรยาบรรณข้อไหนในการทำงาน ถึงมีวาระซ่อนเร้นอยู่เป็นประจำ...อย่างไร รบกวนคุณพี่ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เข้าไปตรวจสอบสื่อออนไลน์ดังกล่าวจะเป็นพระคุณอย่างสูง

*เนื่องจากตัวดิฉันเอื้อมระอากับพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวเป็นอย่างมาก รวมทั้งต้องการให้ ก.ล.ต. ให้นิยามคำว่า สื่ออนไลน์หากินกับการปั่นหุ้น สมควรเรียกว่าสื่ออีกไหมเนี้ยะ เพราะคำพูดที่หลุดออกมาจากปากพล่อยๆ มักอ้างถึง จรรยาบรรณ...จรรยาบรรณ...ท่าเดียวนะซี


.00020

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 01/02/2007 @ 13:17:05 : re: พวกวัวสันหลังหวะ!
สงสัยเจ้แกเสียหุ้นบาน เลยโกรธและด่าชุดใหญ่....ใครฟะ

ใครทำกะเจ๊ได้ฟะ......เจ๊แกให้หุ้นไม่เคยตรงมาลอด...พอหุ้นวิ่งก็ว่าแป็ปๆๆไม่เห็นดี...พอลงก็กระทืบซ้ำ....ยัย มอ...นิ...กล้า

ใครเชื่อแกก็บ้าแล้ว

.0008 .0008
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 02/02/2007 @ 07:05:10 : re: พวกวัวสันหลังหวะ!
*แต่สภาพที่เห็นในปัจจุบันคงจะบอกได้เลยว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่เสี่ยไมค์เคยพูดไว้เลยเพราะผลลัพธ์ที่ออกมานั้น ยังมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการยุบรวมสาขาเพิ่มอีก 60 ล้านบาทรวมถึงค่าใช้จ่ายพนักงานอยู่ที่ 50 ล้านบาท(ลดลง) แต่ค่าใช้จ่ายในการยุบสาขากลับลดลงเพียงแค่ 1 ล้านบาทเท่านั้น*
_____ยุบรวมสาขาทำในปี 2549 ย่อมมีค่าใช้จ่ายเฉพาะกิจเกี่ยวกับการยุบรวมสำหนักงาน ฯลฯ เกิดขึ้นครั้งเดียว แตกต่างกับ ลดค่าใช้จ่ายพนักงาน ผลจากการยุบสาขาย่อมเป็นผลดีต่อผลประกอบการในอนาคต

*นอกจากนี้ งบที่ออกมายังมีขาดทุนจากพอร์ตการลงทุนในหุ้นอีก 200 กว่าล้านบาททำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นคะเนี้ยะ*
____เกิดจากการขายหุ้นในมือมรดกตกทอดจากผู้บริหารชุดเก่า สิ่งนี้ผู้บริหารใหม่ได้มีความตั้งใจจะขายหุ้นเน่าๆพวกนี้ออกให้หมด
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com