May 19, 2024   9:29:04 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัญญาณหุ้น
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 01/02/2007 @ 08:50:36
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.เคจีไอแนะนำซื้อ THAIราคาเป้าหมาย 57.00 บาทการบินไทยไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในช่วงปีใหม่ จนถึงสิ้นเดือน ม.ค. cabinfactor ยังสูงกว่า 82% ดีกว่า 1Q49/50 ที่ 78% และ FY48/49 ที่ 75.4% cabinfactor ที่สูงนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จของการบินไทยในการเจาะตลาดการเดินทางเพื่อธุรกิจ (Corporate Market Segment) ส่วน freight factor อยู่ที่ 60%เนื่องจากปริมาณสินค้าที่รับได้โดยปกติมักขึ้นอยู่กับปริมาณพื้นที่ว่างบนเครื่อง ดังนั้นเมื่อ cabinfactor สูง freight factorก็จะต่ำ ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงกว่า 22% จากที่ขึ้นไปสูงที่สุดในเดือน ส.ค. 2549 และ การบินไทยได้เพิ่มปริมาณน้ำมันสำรองจากเพียง 5% ณ.สิ้นปีFY48/49 เป็น 26% ณ. สิ้นไตรมาส 1Q49/50 และเป็นเกือบ 36% ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี เราคาดว่าต้นทุนเชื้อเพลิงของการบินไทยในไตรมาส 1Q49/50 จะสูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ยังต่ำกว่าในไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดี การบินไทยอาจพิจารณาปรับลดค่าธรรมเนียมนี้ในบางเส้นทางการบินที่มีการแข่งขันสูง เพื่อให้สามารถแข่งขันได้กับสายการบินอื่น ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงมากว่า การบินไทยจะย้ายเส้นทางการบินรองภายในประเทศ(Domestic Secondary Routes) กลับดอนเมือง ในขณะที่จะคง 3 เส้นทางการบินหลัก กล่าวคือ เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ไว้ที่สุวรรณภูมิ การบินไทยอาจได้รับผลกระทบจากปัญหาที่สุวรรณภูมิ หากปัญหาที่สุวรรณภูมิยืดเยื้อ การบินไทยอาจได้รับผลกระทบ เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา เที่ยวบินจำนวนหนึ่งซึ่งรวมถึงเที่ยวบินของการบินไทยจำเป็นต้องบินวนรอบสุวรรณภูมิหรือบินไปลงที่อู่ตะเภา เนื่องจากทางวิ่งด้านตะวันตกบางส่วนถูกปิดซ่อม ปัญหาเช่นนี้หมายถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่เพิ่มขึ้นสำหรับทุกสายการบิน ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถในการรองรับเที่ยวบินที่ลดต่ำลงของสนามบินยังหมายถึงช่วงเวลาทำการบินและกำไรที่น้อยลงสำหรับการบินไทยด้วย


บล.โกลเบล็กแนะนำซื้อ MAJORราคาเป้าหมาย 18.60 บาทเราคาดว่า MAJOR จะมีกำไรสุทธิประจำ4Q06ที่ 120 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการลดลง 37%เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ ลดลง 8%yoy กำไรสุทธิที่คาดว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเนื่องจากในไตรมาสที่แล้ว MAJOR มีรายได้เข้ามาเป็นพิเศษจากบริษัทย่อย SFซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงการบันทึกบัญชีค่าเช่า ในขณะที่ยอดขายตั๋วภาพยนตร์ลดลง ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา มีภาพยนตร์เข้าฉายราว 5 เรื่องในจำนวนนี้เป็นภาพยนตร์ดังจากHolleywood 2 เรื่อง ได้แก่ 007 Casino Royale and Eragon แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก และมีภาพยนตร์ไทย 3 เรื่อง คือ แสบสนิทฯ เก๋าเก๋า และคนไฟบิน ซึ่งทั้งหมดถือว่าได้รับความสนใจน้อยกว่าในไตรมาส 3 อีกทั้งความนิยมในการดูภาพยนตร์ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รัฐประหารในบางส่วนด้วย ทำให้คาดรายได้จากการขายตั๋วภาพยนตร์จะลดลงราว 5%qoq ในขณะที่คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะปรับขึ้นจากไตรมาสก่อนจากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นซึ่งสืบเนื่องมาจากการเปิดโรง Esplanade ในช่วงปลายปี จากค่าใช้จ่ายที่ปรับขึ้นดังกล่าวและยอดขายตั๋วที่ลดลงกว่าคาดใน 4Q06 เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 49 ลงมา 5% มาอยู่ที่ 700 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังแสดงการเติบโตที่น่าประทับใจคือคิดเป็นการเติบโต 30% จากปีก่อน หลังจากเหตุการณ์ระเบิดในช่วงวันสิ้นปีที่ผ่านมา เราเห็นว่าผู้คนเริ่มกลับมาดูภาพยนตร์แบบปกติแล้ว เห็นได้จากภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรที่ได้รับความนิยมสูงสามารถทำรายได้ถึง 230 ล้านบาทได้ภายใน 11 วันเท่านั้น เรามีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปี 50 ขึ้นจากเดิมที่คาไว้ที่ 717 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ที่สูงกว่าคาดจากภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรซึ่งไม่ใช่เป็นการเพิ่มรายได้แค่ยอดจำหน่ายบัตร แต่รวมถึงยอดขายอาหาร เครื่องดื่มหน้าโรงภาพยนตร์


บล.กิมเอ็งแนะนำซื้อ SIM:ราคาเป้าหมาย 21.00 บาทเราคาดว่า SIM จะรายงานกำไรปกติปีนี้ 2549 เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้าเป็น 424ล้านบาทหรือ 0.99 บาท/หุ้น ด้วยปัจจัยการเติบโตหลักจากความสำเร็จในการขยายตลาดต่างประเทศด้วยการสนับสนุนของเทเลคอมมาเลเซียซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของSIM นอกจากนี้ เครื่องโทรศัพท์ยี่ห้อไอโมบายของ SIM เอง ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย อนาคตของ SIM ค่อนข้างสดใส ธุรกิจต่างประเทศยังมีโอกาขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาเลเซีย และตลาดใหญ่อย่างเวียตนาม และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมลงทุนกับเครือเทเลคอมมาเลเซียในการรุกธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าและค้าปลีกอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย ซึ่งน่าจะทั้งช่วยให้ยอดขายและอัตรากำไรขยายตัวปรับเพิ่มการคาดกำไรปี 2550-2551 ในอัตรา 8-9% เนื่องจากธุรกิจในต่างประเทศและธุรกิจเครื่องยี่ห้อไอโมบายมีแนวโน้มขยายตัวเร็วกว่าที่เราเคยคาดไว้ เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2550-2551 ในอัตรา 8-9% เป็น 595 ล้านบาท (1.38 บาท/หุ้น)และ 622 ล้านบาท (1.45 บาท/หุ้น) ตามลำดับ จากการปรับเพิ่มประมาณการกำไรดังกล่าว ราคาเหมาะสมของหุ้น SIM จึงถูกปรับเพิ่มจาก 18.0 บาทเป็น 21.0 บาทภายใต้สมมติฐาน P/E ปีนี้ที่ 15 เท่าซึ่งเรามองว่าเหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มกำไรที่ขยายตัวถึง 23% ในปีนี้ นอกจากนี้ เราคาดว่า SIM จะจ่ายเงินปันผลอีก 0.30 บาท/หุ้นสำหรับการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว ทำให้เงินปันผลทั้งปีเป็น 0.60 บาท/หุ้นหรือเทียบเท่าอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.2% ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน เนื่องจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจต่างประเทศ คาดว่ารายได้ของ SIM จะขยายตัวถึง 96% yoy เป็น2.47 หมื่นล้านบาทในปี 2549 โดยจำนวนเครื่องเติบโตถึง 120% yoy เป็น 3.76ล้านเครื่อง ประกอบด้วยยอดขายในประเทศ 45% (จำนวนเครื่องขยายตัวถึง 30% จากปีก่อนหน้า) และ ยอดขายในต่างประเทศ 55% โดยส่วนใหญ่เป็นการขายส่งในมาเลเซีย


บล.เอเซีย พลัสแนะนำซื้อ HEMRAJราคาเป้าหมาย 1.28 บาทโดยสรุปงวดปี 2549 HEMRAJ มีการเซ็นสัญญาขายที่ดินใหม่ 670 ไร่ (ไม่รวมSIL ที่มียอดขาย 42 ไร่) โดยที่รายการขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในงวด 4Q49 ซึ่งมีการขายที่ดิน 379 ไร่ราคาเฉลี่ยประมาณ 3.5 ล้านบาท/ไร่ ที่ นิคมมาบตาพุด ให้กับกลุ่ม PTT โดยที่การขายที่ดินแปลดังกล่าวสามารถบันทีกรายได้ในงวด 4Q49 ประมาณ 30% และมียอดที่จะยกไปรับรู้รายได้ในปี 2550 รวมกับยอดขายส่วนอื่นประมาณ 750-800 ล้านบาท สำหรับโครงการThe Park ชิดลม พบว่าการก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด ทำให้สามารถบันทึกรายได้ทางบัญชีจนถึงสิ้นปี 2549 ในสัดส่วนประมาณ 65% เท่านั้น ส่วนที่เหลือจะบันทึกรายได้ในปี 2550สำหรับการขายโรงงานอุตสาหกรรมในงวด 4Q49 มียอดขายเข้ามา 90 ล้านบาท ทำให้ยอดรวมทั้งปี 2549 อยู่ที่ ประมาณ 172 ล้านบาท ส่งผลให้ประมาณการใหม่มีตัวเลขกำไรจากการดำเนินงานที่สูงกว่าเดิม 14% สำหรับงวดปี 2550 ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรขึ้น 46% เนื่องจากการเลื่อนกำหนดการบันทึกรายได้ของ The Park ไปเกิดขึ้นในปี2550 มากถึง 35% ขณะที่ส่วนการขายที่ดินมียอดขายที่จะยกไปบันทึกรายได้ปี 2550 ช่วง 750-800 ล้านบาท นอกจากนี้ยังปรับประสิทธิภาพการทำกำไรให้อยู่ใกล้เคียงกับปี 2549 ตามประมาณการใหม่คาดว่า HEMRAJ จะมีกำไร 1.26 พันล้านบาทในปี 2550 ทรงตัวใกล้เคียงปี 2549






[/color:88e66c8466">[/size:88e66c8466">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com