Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 31/01/2007 @ 12:51:20 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต SET Index
วันอังคารที่ 30 มกราคม ปิดที่ 653.49 จุด ลดลง 0.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 11,613 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 730.06 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 223.22 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 953.29 ล้านบาท สภาพการซื้อขายหุ้นเช้าวานนี้ เปิดตลาดพอจะยืนแดนบวกได้แบบสั่น ๆ ที่ระดับ 654 จุด พอผ่านไปได้แค่ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีแรงขายออกมาค่อนข้างมาก นำโดยกลุ่มพลังงาน และ ธนาคาร ทำให้ดัชนีปรับตัวลงมาในแดนลบทันที โดยลงมาอยู่ในจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 650.11 จุด ลดลงกว่า 3 จุด ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากเหตุการณ์ป่วนเมืองที่เกิดกับสำนักงานหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ที่มีเหตุคนร้ายใช้เครื่องยิงระเบิด 2 ลูก โดยยิงเข้าไปในสำนักงานทำให้บ่งบอกว่ารัฐบาลยังควบคุมสถานการณ์ยังไม่ได้ และราคาน้ำมันดิบโลกได้ปรับตัวลดลง นักลงทุนจึงชะลอการลงทุน คงจะมีแต่หุ้นเล็ก ๆ เช่น PRO, GENCO, TRAF เริงร่าในภาคเช้าให้หายเครียดได้บ้าง ส่วนภาคบ่าย เปิดมาสภาพเดิม ๆ (เซ็ง เซ็ง) จะลบมากก็ไม่ลบ จะขึ้นก็ไม่ขึ้น PTT จงใจจะทำตลาดลงหรืออย่างไรกันแน่ โชคดีมีหุ้น Size เล็ก ๆ เช่น IEC, LIVE, GEN, TRAF เข้ามาประคองตลาด ที่เวอร์สุดกู่ก็ NMG-W2 ราคา Trade สนั่นเมืองขึ้นไป 100% กว่ายังไง K.KRAZIP ขอเรียนเสนอแนะหุ้นบางตัวแปลก ๆ นาน ๆ มาทีไม่ชำนาญ โดยเฉพาะพวก W จะเข้าซื้อขายให้ระวังจะโดนหลอกไปเชือดนิ่ม ๆ นะ สุดท้ายตลาดก็คงอยากทำเป็นบวกดูได้จาก BBL ปิด 109 และ PLE ไม่ทราบมีน้ำดีมาจากไหน ท้ายตลาดทำจากลบมาเป็นบวก แถมปิดสูงกว่า Last Trade อีก 0.25 บาท ปิด 7 บาท เล่นเอานักลงทุนอย่างเรา ๆ งงงง.......... กันเป็นแถว
SECC
ราคาเปิด 2.68 บาท ราคาปิด 2.66 บาท มูลค่าการซื้อขาย 51.426 ล้านบาท SECC หลังจากที่ผู้บริหารออกมายืนยันว่ารายได้ในปี 2549 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่ที่ระดับ 2,600 -2,700 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% จากปี 2548 ส่วนแนวโน้มรายได้ในปี 2550 คาดว่ารายได้จะสามารถทะลุ 3,000 ล้านบาท หรือ เติบโตในอัตรา 10% บนพื้นฐานธุรกิจเดิมที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ขณะนี้ SECC อยู่ในช่วงการดำเนินการออกใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 120 ล้านหน่วย เพื่อแจกฟรีให้กับผู้ถือหุ้นเดิมและกรรมการ-พนักงานว่า ซึ่งคาดว่าจะยื่นให้ ก.ล.ต. พิจารณาได้เร็วๆ นี้ หากเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้คาดว่าวอร์แรนต์จะเข้าทำการซื้อขายได้ภายในQ 2/50 การออกวอร์แรนต์ เพื่อระดมทุนไว้รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต หากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น และSECCในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ระดับหรูจากญี่ปุ่น และยุโรป มีเป้าหมายจะเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับธุรกิจยานยนต์แบบครบวงจร เพื่อให้สามารถเกื้อหนุนธุรกิจในกลุ่มเดียวกันได้ และถือเป็นการกระจายความเสี่ยงหากภาวะเศรษฐกิจเกิดความเปลี่ยนแปลง ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ รอดูเมื่อราคาอ่อนตัว หน่อยมี GAP ทำกำไร และเผลอๆรับ วอร์แรนต์ ฟรีๆ ก็เป็นได้ แนวรับ 2.60 บาท แนวต้าน 2.74 บาท
SIM
ราคาเปิด 18.50 บาท ราคาปิด 18.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 0.639 ล้านบาท ผู้บริหารของ SIM กล่าวว่า ได้ ตั้งเป้ารายได้ในปี2550อยู่ที่ 27,000 ล้านบาท เติบโต 21% จากปี2549 ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจในต่างประเทศ 60% และในประเทศ 40% และได้ตั้งเป้ายอดขายโทรศัพท์มือถือในประเทศ 2 ล้านเครื่อง และในตลาดต่างประเทศอีก 2.5 ล้านเครื่อง ทั้งในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย บังคลาเทศ และเวียดนาม รวมทั้งตลาดใหญ่ในประเทศจีนด้วย และธุรกิจด้าน Content ตั้งเป้ารายได้ในปีนี้เติบโต 20% ซึ่งระบบ I-link จะช่วยให้การดาวน์โหลด Content ผ่านมือถือไอ-โมบาย ได้ง่ายขึ้น ซึ่ง SIM จะมีการเจรจากับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเพื่อกำหนดส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการได้อย่างเหมาะสม มองตามสัญญาณทางเทคนิคแล้ว K.KRAZIP แนะนำ ซื้อ แนวรับราคา 18.30 บาท แนวต้านราคา 18.80 บาท
ATC
ราคาเปิดที่ 38.50 บาท ราคาปิดที่ 39.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 466.232 ล้านบาท ATC รายงานกำไรสุทธิใน 4Q49 มีกำไรเพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์ สาเหตุหลัก ๆ มาจาก ส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ย ? ต้นทุนวัตถุดิบเฉลี่ย ซึ่งเป็นผลมาจาก Cash Margin ของพาราไซลินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการปรับปรุงหน่วยพาราไซลิน และการขยายกำลังการผลิตของโครงการ Condensate Splitter ซึ่งจะได้รับผลบวกจากการเดินเครื่องการผลิตอย่างเต็มที่ นอกจากนั้นยังมีโครงการอะโรเมติกส์ ที่กำลังจะเพิ่มกำลังการผลิตสาร อะโรเมติกส์ขึ้น 1 เท่าตัว ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดว่าจะช่วยลดแรงเสียดทานของการลดลง ของ Spread และรักษาเสถียรภาพของผลการดำเนินงานในปี 52 ? 53 ที่เป็นช่วงขาลงของวัฎจักรราคาปิโตรเคมีไว้ได้ รวมทั้งประเด็นการรวมกิจการกับ RRC ที่คาดว่าจะเป็น Win ? Win Situation คาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้นมีความน่าสนใจลงทุนยิ่งขึ้น บวกกับ ATC มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราที่สูง K.KTAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน โดยมีแนวรับ 37.50 บาท แนวต้านแรก 40.00 บาท อาจจะเลยไปแถวๆ 42 บาท
MAJOR
ราคาเปิด 15.50 บาท ราคาปิด 15.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 11.087 ล้านบาท คาดการณ์ผลประกอบการ4Q06 จะถูกบั่นทอนจากรายได้โรงภาพยนตร์ที่อ่อนลง โดยคาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 125 ล้านบาท ลดลง4%YoY จากภาพยนตร์ที่เข้าฉายทำรายได้ไม่ดีนัก ขณะที่การเปิดสาขา Esplanade ในช่วงปลายปีทำให้รับรู้ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ในปี2550 นี้ คาดว่า MAJOR จะมีกำไรเติบโต จากการที่มีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายอย่าง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยทำรายได้ 230ล้านบาท จากการฉาย11วัน อีกทั้ง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร 2 และ 3 ซึ่งจะเข้าฉายในเดือน ก.พ. และ ธ.ค. จะช่วยขับเคลื่อนรายได้ กอปรกับยังมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่อีกหลายเรื่อง เช่น Spiderman 3, Pirate of the Caribbean 3, Fantastic Four 2, Harry Potter 5 และ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 บริษัท ยังจะรับรู้รายได้จากเอสพลานาด (โรงภาพยนตร์ 12 โรง โบว์ลิ่ง 24 เลน) เข้ามาเต็มปีด้วย สำหรับค่าตั๋วภาพยนตร์เฉลี่ยก็สูงขึ้นจาก 115 บาทในปีก่อนมาเป็น 117 บาท K.KRAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน แนวรับ 15.20 บาท แนวต้าน 15.90 บาท
ที่มา ทันหุ้น[/color:7e11139435">[/size:7e11139435">
.0008 .0008
|
