นักลงทุนไทยทั้งรายย่อยรายใหญ่เคยฝากความหวังว่าจะมีปรากฎการณ์ December Effect และ January Effect ให้นักลงทุนไทยได้ชื่นมื่นกันบ้าง แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดปรากฎการณ์ดังกล่าวเสียที สงสัยงานนี้นักลงทุนชาวไทยคงจะได้เพียงแต่ ฝันลม ๆ แล้ง ๆ กันแน่นอน ก็คงทำใจกันได้แล้วนะครับ เกิดเป็นนักลงทุนชาวไทยในยามนี้คงต้องคิดถึงคำว่า พอเพียง ด้วยสำหรับการคิดจะลงทุนในตลาดหุ้นไทยสำหรับปี พ.ศ. 2550 หรือ ปีหมูบ้า

นักลงทุนหลายท่านบ่นให้ฟังว่ารู้สึก เสียดายต่อบรรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น ทั่วโลกเสียเหลือเกิน ซึ่งโดยปกติแล้วน่าจะส่งผลบวกมาถึงตลาดหุ้นไทยมากกว่านี้ แต่นี้ เกิดอะไรขึ้น ในเมืองไทยในตลาดหุ้นไทยหรือ? ใครพอจะตอบให้นักลงทุนหายข้องใจกันได้บ้างเล่าครับ ดูอย่างตลาดหุ้น เวียดนามซึ่งเพิ่งก่อตั้งได้เพียงไม่ถึง 10 ปี ดัชนีตลาดหุ้นของเวียดนาม พุ่งทะลุฟ้าแซงตลาดหุ้นไทยไปมากโขแล้ว จริงอยู่ถึงแม้มาร์เก็ตแค๊ปจะยังไม่เท่าตลาดหุ้นไทย แต่ถ้าขืนปล่อยให้เป็นอยู่แบบนี้ต่อไปอีกละก็ อีกไม่นาน หรอกครับทั้งดัชนีหุ้นและมาร์เก็ตแค๊ปของตลาดหุ้นเวียดนามคงจะวิ่งแซงหน้าตลาดหุ้นไทยไปได้อย่างสบาย ๆ ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ มาเลเซียนั้น ไม่ต้องห่วง หรอกครับ ยิ่งหนีตลาดหุ้นไทยไปไกลโขหลายช่วงตัวแล้ว

ส่วนนักลงทุนท่านใดที่อยากย้ายพอร์ตไปซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้าก็คงจะไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด แต่...ต้องศึกษาให้ละเอียดรอบคอบก่อนนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นการ เจ็บตัว แบบซ้ำซากก็อาจเป็นได้ เก็งกำไรในหุ้นมาเป็นสิบปียังเอาชนะไม่ค่อยได้เลย แล้วการเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้าหากไม่ศึกษา ลูกล่อลูกชน ให้ดีซะก่อนละก็บอกตามตรงครับว่า อันตราย มากกว่า การลงทุนหรือการเก็งกำไรในตลาดหุ้นเสียอีก ยิ่งในระยะนี้นักลงทุนต่างชาติคอนโทรล ทั้งราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทย และคอนโทรลดัชนีตลาดหุ้นไทยเสีย อยู่หมัด แบบชนิดที่ว่าสั่งให้ขึ้นก็ได้ให้ลงก็ได้แบบนี้ยิ่ง อันตราย มากขึ้นไปอีกหลายเท่าทีเดียว

ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ใช่ว่าจะมีแต่ ข่าวร้าย ได้ยินมาว่าอีกไม่นานอาจจะมีข่าวดี ๆ เข้ามาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การผ่อนคลายมาตรการ 30% ลงบ้างและมาตรการ Nominees ก็อาจจะได้รับการ ผ่อนคลาย ตามลงมาด้วย หากเป็นเช่นที่ได้ยินข่าวมาจริง ๆ ก็ยังนับว่า อันตราย สำหรับตลาดหุ้นไทย ก็คงจะลดลงตามไปด้วย เฮ้อ! จะทำอะไรก็รีบทำเถอะครับ เจ้านาย

ทยอยสะสม LANNA ราคาเป้าหมาย 13.30 บาท, MCOT ราคาเป้าหมาย 36 บาท

.0000013