May 5, 2024   12:39:47 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบหน้าจอ
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 17/01/2007 @ 10:39:22
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่มา : K.KRAZIP
SET Index วันอังคารที่ 16 ม.ค. ปิดที่ 655.90 จุด -0.41จุด มูลค่าการซื้อขาย 13,322 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,630.46 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 717.31 ล้านบาท

นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิที่ 913.15 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 660.91จุด +4.60 จุด และ Low ที่ดัชนี 652.75จุด -3.56 จุด ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดตัวที่แดนบวกและไต่ระดับทำจุดสูงสุดในช่วง 10 นาทีแรกหลังตลาดเปิด จากนั้นเริ่มมีแรงขายออกมามากจากหุ้นขนาดใหญ่ส่งผลให้ดัชนีดิ่งลงไปแกว่งตัวในแดนลบโดยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ กระทั่งปิดการซื้อขายในรอบแรกไปส่วนดัชนีรอบบ่ายที่เปิดมากระเตื้องขึ้นเล็กน้อยเคลื่อนไหวกรอบแคบสลับบวกและลบจนปิดตลาด ประเด็นเรื่องรถไฟฟ้า BTS

กรณีการเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการหลังมีเจ้าหนี้ยื่นคัดค้าน 7 รายให้ผู้ทำแผนทำหนังสือชี้แจงภายในวันที่ 22 ม.ค. ซึ่งเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ของ BTS เห็นชอบในแผนฟื้นฟูเมื่อ 22 ธ.ค. 49 โดยศาลล้มละลายกลางจะนัดฟังคำสั่ง

9.30 น. ในวันที่ 31 ม.ค. นี้ อีกประเด็นใหม่ที่เกิดขึ้นมาหลัง ก.ล.ต.เห็นชอบที่จะเพิ่มทางเลือกให้ผู้ที่จะลงทุนหุ้นต่างประเทศเทรดผ่านตลาดหุ้นไทยในรูปแบบใบรับฝากหลักทรัพย์ที่เปลี่ยนมือได้ (TCR) โดยวิธีการนี้ให้บริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ และสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศเป็นผู้ออกตราสารดังกล่าว โดยก.ล.ต.
ระบุการลงทุนในหลักทรัพย์ตปท.ด้วยวิธีนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ออมภายในประเทศรายย่อยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและควบคุมวงเงินที่จะไหลออกได้ง่ายและควบคุมผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้ ทั้งยังเพิ่มสินค้าให้แก่ ตลท.และสร้างธุรกิจให้แก บล.ในประเทศรวมถึงยังจะช่วยเพิ่มบทบาทของตลาดทุนไทยในภูมิภาค
CK ราคาเปิด 8.50 บาท ราคาปิด 8.40บาท มูลค่าการซื้อขาย 117.92 ล้านบาท ขณะนี้ CK อยู่ระหว่างการเจรจากับทางพันธมิตรจากต่างประเทศและล่าสุดกำลังรอดูเงื่อนไขการประมูลงานจากภาครัฐ

เพื่อเตรียมเข้าประมูลงานรถไฟฟ้าทั้ง 5 สาย ซึ่ง K.KRAZIP มีความเห็นในเชิงบวกกับประเด็นดังกกล่าว เนื่องจากคาดว่า CK จะเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ภายในประเทศ

ที่มีโอกาสชนะการประมูลรถไฟฟ้าที่จะเปิดประมูลสายแรก ช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชันเนื่องจากบริษัทฐานทุนที่สามารถรองรับงานขนาดใหญ่ได้อย่างไม่มีปัญหา ประกอบกับ CK มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มพันธมิตรต่างประเทศและประสบการณ์ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงถึง 15% จึงสร้างความมั่นใจได้ว่าหากบริษัทได้รับการคัดเลือกในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใดสายหนึ่ง ที่จะสร้างอัตรากำไรขั้นต้นให้กับบริษัทไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง K.KRAZIP

มองว่า CK เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่มีกลยุทธ์ในการเน้นรับงานที่มีมาร์จิ้นสูง
ทำให้กำไรของบริษัทขยายตัวอย่างโดดเด่น แนะนำ ซื้อลงทุน โดยมีแนวรับ 8.20 บาท แนวต้าน 8.90 บาท

EGCOMP ราคาเปิด - ปิด 98 บาท มูลค่าการซื้อขาย 29.238 ล้านบาท ปรับเพิ่มประมาณการผลประกอบการปี07 เพื่อสะท้อนส่วนแบ่งกำไรที่จะได้รับจากกำลังการผลิตส่วนเพิ่มที่จะได้จากโรงไฟฟ้า

BLCP ซึ่ง EGCOMPถือหุ้นในสัดส่วน 50% และยังมีโครงการขยายกำลังการผลิตอีก 2 โครงการ คือ แก่งคอย2 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และยังหาโอกาสที่จะเติบโตจากการประมูล IPP ซึ่งก็มีโอากาสที่จะชนะประมูลในครั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาถึงแม้ภาวะตลาดหุ้นตกต่ำ แต่ราคาหุ้น EGCOMP ยังสามารถปรับขึ้นถึง 13% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา และ outperformedตลาดราว21% ด้านแนวโน้มราคาถึงแม้จะมีการปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาแต่คาดว่าราคาหุ้นจะยังแข็งแกร่ง จากผลประกอบการในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตมาก

และหากรวมศักยภาพจากโอกาสในการชนะประมูล IPP จะทำให้ upside ของราคาหุ้นเพิ่มจาก16% เป็น20% K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 95 บาท แนวต้าน 102 บาท TASCO ราคาเปิด 25 บาท ราคาปิด 24.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 6.24 ล้านบาท ใน Q4/49 ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้ราคาวัตถุดิบของยางมะตอยปรับตัวลงด้วย

แต่ราคาขายยางมะตอย ยังทรงตัว แต่เริ่มปรับตัวลงใน Q1/50 ส่วนปริมาณขายได้ปรับเพิ่มขึ้นทั้ง เนื่องจากมีการขายในจีนเพิ่มขึ้น และในปี 2550 มีแนวโน้มที่จะเติบโตจากวัตถุดิบที่ได้จากโรงงานในมาเลเซียคงจะเริ่มผลิตในเดือนมีนาคมซึ่งคาดว่านำส่วนนี้ไปส่งออกยังประเทศจีนเป็นหลักเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่ความต้องการในประเทศอาจลดลงตามงบประมาณกรมทางหลวงที่คาดว่าจะลดลง คาดว่ารายได้จากการขายใน Q4/49 เพิ่มขึ้น 27%YoY และ 7.6%QoQ จะได้กำไรเท่ากับ 96 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 212%YoY ซึ่งถ้ามองทั้งปี 2549

กำไรโต 38%YoY และคาดว่าในปี 2550 ยังสามารถเติบโตได้ดีแม้งบประมาณจากภาครัฐจะลดลง โดยคาดว่ากำไรเพิ่มขึน 21% YoY และTASCO ใช้เงินเพิ่มทุน 168.5 ล้านบาท เป็นทุนหมุนเวียนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ตามที่ได้รับการอนุมัติให้จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 25 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในราคาเสนอขายหน่วยละ 0 บาท ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน แนวรับ 24.50 บาท แนวต้าน26 บาท

TSTH ราคาเปิด - ราคาปิด 1.08 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2.15 ล้านบาท TSTHประกาศผลการดำเนินงานปี 2549 มีกำไรสุทธิ 708.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 343.34 ล้านบาท หรือกำไรเพิ่มขึ้น 106% เนื่องจากดอกเบี้ยที่ลดลงจากการรีไฟแนนซ์ ในปี 2550 K.KRAZIP

คาดว่าจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการก่อสร้างภายหลังสถานการณ์น้ำมันแพงได้ผ่อนคลายลงดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง และการบูรณะหลังน้ำท่วม รวมถึงได้แรงหนุนจาก Tata

Steeel ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการส่งออก ได้ประเมินว่าจะมียอดขายเท่ากับ 21,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% นอกจากนี้คณะกรรมการTSTHอนุมัติการจ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 0.03 บาทกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 10 เมษายน 2550
และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2550 ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ

ซื้อ หากเป็นกำไรที่น่าพอใจขายทำกำไรก่อนก็ได้หรือรอรับปันผลด้วยก็ดี แนวรับ1.05 บาท แนวต้าน1.11 บาท
K.KRAZIP 17/01/2550

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 17/01/2007 @ 13:16:55 : re: กระซิบหน้าจอ
CK ตอนนี้วิ่งอยู่ที่ 8.35-8.38
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com