May 4, 2024   2:34:58 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นแดงเริ่มแพงแล้วจ้า ?
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 17/01/2007 @ 09:47:38
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ทิศทางดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระยะสั้นเริ่มส่งสัญญาณ?ไม่แน่ใจ? และเริ่มมีการ ?ชั่งน้ำหนักระหว่างการขึ้นต่อ กับเผ่นก่อน? โดยดัชนีมีแนวต้านทางเทคนิคบริเวณดัชนี 663 ? 680 จุดซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่อาจจะต้องมีการปรับทิศทางการลงทุนอีกครั้งโดยระยะสั้นการที่ดัชนียืนได้เหนือระดับ 650 จะเป็นสัญญาณเชิงบวกของตลาดแต่ในทางกลับกันการปิดต่ำกว่าระดับ 654 จุดหมายความว่า?คืนนี้ต้องคิดหนักอีกแล้ว? เพราะตลาดเริ่มเกิดอาการ ?ตื้อบริเวณที่สูง? ซึ่งอาจจะนำไปสู่การแปลงสัญชาติเป็นชาวเขาชาวดอยอีกครั้งหากลงดอยไม่ทัน

การกลับทางมือซื้อของนักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นประเด็นที่ควรจะได้รับการจับตาต่อไปว่าแรงซื้อดังกล่าวเป็นแรงซื้อ ?ตามน้ำ? หรือเป็นการกลับหลังหันเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อลงทุนจริง ๆเนื่องจากมองว่าประเทศไทยยังคงดีอยู่และหุ้นส่วนใหญ่ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับภูมิภาคเดียวกันแต่หุ้นไทยอาจจะให้ ?ส่วนลด? ที่สูงกว่าเนื่องจากความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่มีอิทธิพลต่อแนวโน้มตลาดระยะสั้นส่วนปัจจัยความเสี่ยงด้าน ?นโยบายประเภท Micky Mousenomic? นั้นเป็นเรื่องที่พอจะยอมรับกันได้ในสายตาของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศแม้ว่าระดับความเชื่อถือนั้นอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์อีกระยะหนึ่งโดยเฉพาะการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มเกิดอาการ ?เสียงอ่อน? เกี่ยวกับเรื่องเงินทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หลังจากได้รับ?คำสรรเสริญ? ชนิดหน้าหงาย สมองหายตื้ออะไรทำนองนั้น

อย่างไรก็ตามปัจจัยด้านการเมืองยังคงเป็นประเด็นที่ควรให้ความสำคัญต่อไปอีกระยะหนึ่งเพราะแม้ว่าจะมีการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นและบีบมากขึ้นกับพฤติกรรมของกลุ่มสูญเสียอำนาจทางการเมืองซึ่งกำลังถูกตาม?ประกบ? และใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาจัดการเพื่อหวังลด ?กำลังลง? แต่มีข้อสังเกตว่า พฤติกรรมสร้างสถานการณ์โดยการเผาโรงเรียน หรือวิธีการอื่น ๆยังคงมีเข้ามาปรากฏอยู่บ่อย ๆ และที่สำคัญยังไม่สามารถหาผู้กระทำผิดได้ ซึ่งประเด็นนี้นักลงทุนไม่ควรชะล่าใจหรือคงพฤติกรรม ?ลืมง่าย หรือขี้เกรงใจ? ทั้งนี้เพราะบุคคลเหล่านี้มักจะไม่มีจิตใจที่ดีงามและเห็นแก่ผลประโยชน์ของพวกพ้อง หากไม่จัดการขั้นเด็ดขาดหรือ?เชือดไก่ให้ลิงดู? วงจรเหล่านี้ก็อาจจะลุกลามและก่อกระแสได้

ส่วนสถานการณ์ไข้หวัดนกที่เริ่มกลายมาเป็นประเด็นข่าวใหม่ที่จังหวัดพิษณุโลกและการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีกล้ายางพารายังคงกลายเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องพิจารณาและให้น้ำหนักประกอบการตัดสินใจลงทุนอีกครั้งเพราะราคาหุ้นไม่ได้ซื้อขายกันที่ราคา?ส่วนลด? เหมือนเมื่อสัปดาห์ก่อนแต่หุ้นได้ผ่านการเก็งกำไรมาระดับหนึ่งโดยดัชนีตีกลับจากระดับ 608 มาทำจุดสูงที่ระดับ 660 จุด ซึ่งเป็นการตีกลับในอัตรา 67%จากการปรับตัวลงในรอบที่ผ่านมาดังนั้นหากจะมีการเทขายอีกครั้งเพื่อทำกำไรหรือลดความเสี่ยงยังเป็นอะไรที่ตัดสินใจง่ายสำหรับนักเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนซึ่งติดหุ้นเหนือ 700 จุดกำลังเล็งว่าจะทำอย่างไรให้ขาดทุนน้อยที่สุด

ข้อสังเกตในทางเทคนิคนั้นหากพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของดัชนีรายวันแนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดำเนินต่อไปโดยสัญญาณต่าง ๆ ทางเทคนิคส่งสัญญาณ ?ซื้อ? และยังบอกว่าการฟื้นตัวขึ้นเพิ่งดำเนินมาได้ครึ่งทางและยังมี ?โอกาส? หรือช่องว่างสำหรับการเข้าเก็งกำไรแฝงอยู่ แต่ต้องเน้นการเลือกลงทุนเป็นรายตัวทั้งนี้ขั้นตอนการฟื้นตัวของราคาหุ้นสามารถแบ่งเป็น 3 ? 5 ขั้นตอนตามความเชื่อทางด้านเทคนิคกล่าวคือ
ขั้นแรกนั้นจะเป็นการฟื้นตัวในลักษณะตีกลับทางเทคนิคเนื่องจากการเข้ามาเก็งกำไรของกลุ่มที่มองว่าราคาหุ้นต่ำและค่อนข้างมีเงินพอจะถือได้ เมื่อหุ้นขึ้นได้ประมาณ 3 -5 วันทำการและราคาหุ้นเริ่มแตะค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่10 ? 25 วันก็จะมีแรงขายเพื่อทำกำไรระยะสั้นเกิดขึ้น และนำไปสู่การปรับฐานราคา แต่การปรับฐานราคานั้นไม่ได้ทำให้ราคาหุ้นที่กำลังเคลื่อนไหวเกิดจุดต่ำใหม่กว่าครั้งก่อนหน้าซึ่งทำให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรมองว่า ยังมีโอกาสดังนั้นเมื่อหุ้นสามารถทะลุจุดต้านหลังสุดจะมีการเก็งกำไรเข้าไปอีกครั้งหากบรรยากาศการลงทุนระยะสั้นยังคงแจ่มใส

ตัวแปรที่อาจจะมีผลในทางส่งเสริมให้บรรยากาศการลงทุนยังคงดี เช่นการขึ้นของราคาหุ้นที่ค่อนข้างนิ่ง และเสถียรจะเรียกแรงซื้อเข้ามาได้และการย้ายตัวเล่นไปหาหุ้นประเภทมี Beta สูง เช่นหุ้นประเภท เก็งกำไร วอแรนท์จะเป็นเหมือนสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดยังคงมั่นใจ นอกจากนี้คาดว่าเป็นภาวะตลาดหุ้นหลัก ๆ ที่นักลงทุนใช้ติดตามหรืออ้างอิง เช่นตลาดหุ้นนิวยอร์ค ตลาดหุ้นโตเกียว และตลาดหุ้นฮ่องกง ที่คาดว่าจะมีอิทธิพลในเชิงบวก ส่วนจุดที่ต้องระมัดระวังคือ มูลค่าการซื้อขาย เพราะการที่ตลาดหุ้นจะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มได้ควรจะต้องมี ?ความมั่นใจ? และสะท้อนออกมาได้ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น หากหุ้นขึ้นแต่มูลค่าการซื้อขายเริ่มบาง ๆและหันหลังกลับไปมองใหม่ปรากฏว่าเหลือแต่เรา ?ทะลึ่งซื้ออยู่คนเดียว? สภาพนี้ย่อมบอกว่ากำลังถูก ?หลอก? อีกแล้วครับท่าน ซึ่งจุดนี้ควรจะต้องมีการยืนยันจากตลาดด้วยเช่นกัน การที่หุ้นขึ้นมากกว่า 10 จุดแต่มูลค่าการซื้อขายต่ำกว่าระดับ 2 หมื่นล้านนั้นต้องระมัดระวังเหตุการณ์ที่เรียกว่า ?ย้อนศร? เพราะฝรั่งจะเรียกให้กลับขึ้นไปเล่นที่สูงแล้วปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ ?บันจี้จั๊ม? ซึ่งอาจจะทำให้เสียจังหวะในการลงทุนอีกครั้ง

สำหรับหลักทรัพย์ที่คาดว่ายังเป็นหุ้นที่สนใจสำหรับการเข้าเก็งกำไรรอบก่อนวันตรุษจีน และรับผลประกอบการไตรมาสที่ 4 และบางคนอาจจะมองไกลถึงขึ้นถือหุ้นสำหรับรอกินเงินปันผลของผลประกอบการปีที่แล้วนั้นและราคาหุ้นนปัจจุบันยังคงให้ ?ผลตอบแทน? ที่สูง แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาด้วยว่า หุ้นที่เราสนใจนั้นมีการจ่ายปันผลปีละกี่ครั้ง นโยบายจ่ายเงินปันผลเป็นอย่างไร ราคาหุ้นปัจจุบันหากเอาเงินปันผลตั้งและหารด้วยราคาลบด้วยหนึ่งแล้วคิดเป็นร้อยละเทียบกับเงินฝากแล้วไหนจะให้ผลตอบแทนมากกว่ากัน และโดยปกติการจ่ายเงินปันผลจะประกาศกันแทบทุกบริษัทในช่วงกลางเดือนมกราคาถึงเดือนมีนาคม และการจ่ายปันผลจะทยอยจ่ายกันไปอย่างต่อเนื่องถึงชุกประมาณเดือนมีนาคมทั้งนี้เพราะครบกำหนดเส้นตายที่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผ่อนผัน

หุ้นที่คาดว่ายังเป็นดาวในเรื่องเงินปันผลยังคงเป็นหุ้นกลุ่ม TOP 5 ของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์อาจจะมองไปที่ BBL KBANK SCB KTBSCIB BAY ส่วนกลุ่มพลังงานคงมองไปที่ PTT PTTEP BANPU TOP RRC กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง เช่น SCC SCCC ITD CK STEC ส่วนกลุ่มเดินเรือ และกลุ่มปิโตรเคมีเช่น TTA PSL RCL ATC PTTCH และกลุ่มที่ดินเช่น LH AMATA ROJANA เป็นต้น แต่สำหรับคนที่เล่นหุ้นประเภทปันผลไม่สนใจ ขอกำไรก็พอเพราะพอจ่ายปันผลเสร็จราคาหุ้นรูดมหาราชก็เน้นเก็งกำไรหุ้นประเภท Money Game เช่น IEC DE DISTAR MME เป็นต้น(แสดงความเห็น Cnantawat@yahoo.com)


.00020

[/color:ac7e8c7dce">

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 17/01/2007 @ 13:52:20 : re: หุ้นแดงเริ่มแพงแล้วจ้า ?
.0007
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com