May 5, 2024   1:25:40 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กระซิบหน้าจอ
 

samjin
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 352
วันที่: 16/01/2007 @ 10:35:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET Index วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2550 ปิดที่ 656.31 จุด + 10.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 13,354 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,549.73 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 434.53 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,115.19 ล้านบาท ดัชนีวานนี้ หลังจากที่ผ่านพ้นวันเด็กมาเหตุการณ์ปกติ บวกกับสภาพตลาดทั่วโลกมีทิศทางปรับสูงขึ้น ตลอดจนราคาน้ำมันดิบโลกก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก อีกทั้งข่าวดีภายในประเทศ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้คลายกฎนักลงทุนที่กู้เงินตราต่างประเทศเพื่อลงทุน แล้วเอาไปฝากไว้ในรูปเงินสกุลต่างประเทศแทนเงินบาท แต่มีข้อแม้ต้องใช้ภายใน 6 เดือน ขณะที่การกู้ยืมจากต่างประเทศ ถ้าแลกเป็นเงินบาท ต้องถูกกันสำรองไว้ 30% ตามมาตรการป้องกันผลกระทบค่าเงินบาท ไม่ใช่แค่เป็นการป้องการเกร็งกำไร ทำให้ช่วงเช้ามีแรงซื้อหุ้นในกลุ่ม BANK และ ENERGY นำโดยหุ้น KBANK , BBL , SCB และ PTT ในกรณีที่หุ้นกลุ่ม BANK นั้น คาดไว้ว่าน่าจะมาจากการรับข่าวดีจากแรงหนุนอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะลดลง ซึ่งภายในกลางสัปดาห์นี้จะมีการประชุมพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยจะเริ่มใช้อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร์ (R/P) ระยะ 1 วัน ทำให้ในช่วงเช้า SET ไปทำ HIGH ที่ 653.44 จุด ก่อนที่จะปิดตลาดภาคเช้าที่ 652.92 จุด บวก 7.21 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5,157 ล้านบาท สำหรับช่วงบ่าย มีเหตุการณืให้สนุกกันเล่นๆ สำหรับ EVER ที่เลื่อนการพิจารณาออกจากแผนฟื้นฟูมาจากช่วงเช้าเป็น 14.00 น. ไม่รู้ว่ามีข่าวรั่วออกมาอย่างไร มีการทุบออกมาถึงราคา 4.58 บาท แต่พรึบเดียวกลับไป High ที่ราคา 5.15 บาท สุดท้ายปิดที่ 4.78 บาท พระเอกของวานยังเป็นกลุ่ม BANK และ ENERGY และยังมี IRPC เข้ามาผสมทำให้ SET ไปถึง 656.97 จุด และสุดท้ายปิดตลาดที่ 656.31 จุด สำหรับในวันนี้ K.KRAZIP อยากให้มองดูแนวต้านแถวๆ 662 ? 665 จุด คาดว่าน่าจะมี Profit Taking แต่ก็ไม่น่ากังวล หากไม่มีปัจจัยลบมากระทบโดยเฉพาะการเมืองไทย ชม.นี้ K.KRAZIP ขอเน้น TRADE ช่วงสั้นๆ ปลอดภัยไว้ก่อน ขอเสียดายดีกว่าเสียตังค์

KSL ราคาเปิดที่ 9.50 บาท ราคาปิดที่ 9.45 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3.84 ล้านบาท จากการคาดการณ์ว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลกจะมีอุปทานที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากบราซิล อินเดีย ไทย ส่งผลให้ราคาน้ำตาลเป็นแนวโน้มขาลง นอกจากนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงเช่น เดียวกัน ขณะที่หลายประเทศหันมาผลิตเอทานอลเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเอทานอลปรับตัวลงอีก อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ที่มีฝนตกค่อนข้างมากในปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีอ้อยเข้าหีบทั้งอุตสา หกรรม ประมาณ 60-65 ล้านต้นอ้อย เพิ่มขึ้นกว่า 28.50% YoY ขณะที่การหีบอ้อยของ KSL ล่าสุดเริ่มเปิดหีบอ้อยไปแล้วทั้ง 4 โรงงาน ซึ่งล่าสุดสามารถหีบอ้อยได้แล้วประมาณ 1.2 ล้านต้นอ้อย โดยทาง KSL ตั้งเป้าว่าจะมีอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้นประมาณ 5.1 ล้านต้นอ้อย ในการผลิตน้ำตาลจากอ้อยคาดว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา K.KRAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน เพราะ KSL ยังมีการเติบโตของกำไรสุทธิประมาณ 30% ในปี 2550 และมีศักยภาพในการขยายธุรกิจสูง โดยมีแนวรับที่ 9.40 บาท แนวต้านที่ 9.90 บาท

KH ราคาเปิด 7 บาท ราคาปิด 6.95 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7.74 ล้านบาท คาดการณ์กำไรสุทธิปี50 จะขยายตัว12.3% มาอยู่ที่ 465 ล้านบาท จากการมุ้งเน้นการขยายฐานรายได้กลุ่มลูกค้าเงินสด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารเพื่อขยายพื้นที่ให้บริการในโรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค และเกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์ นอกจากนี้ยังเพิ่มศูนย์ตา หู คอ จมูก และศูนย์หัวใจที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค และเพิ่มศูนย์รักษาโรคทางเดินอาหารและศูนย์อุบัติเหตุที่โรงพยา บาลเกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์ เพื่อสร้างความหลากหลายในการให้บริการ ส่วนตัวโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่นได้มีการจัดพื้นที่ให้บริการลูกค้าเงินสด ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นจากลูกค้ากลุ่มอื่นๆ และด้วยศักยภาพการเติบโตของโรงพยาบาทจากการพัฒนาศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง K.KRAZIP แนะนำ ซื้อลงทุน แนวรับ 6.75 บาท แนวต้าน 7.30 บาท

EVER ราคาเปิด 4.88 บาท ราคาปิด 4.78 บาท มูลค่าการซื้อขาย 479.31 ล้านบาท หลังจากศาลฯได้ตัดสินให้ EVER ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ EVER ได้เตรียมให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ทั้งชุดเพื่อเป็นผู้กำหนดนโยบายใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการปิดงบการเงินปี 2549 ซึ่งคาดว่ารายได้น่าจะไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ส่วนในปี 2550 จะรับรู้รายได้จากโครงการที่จังหวัดเชียงใหม่ เทพารักษ์ และสุวินทวงศ์ ในส่วนของการหาเงินทุนใหม่ๆ เพื่อมาขยายการลงทุนนั้นจะมีทั้งแนว ทางการกู้ยืมหรือการเพิ่มทุน ซึ่งทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการชุดใหม่เป็นผู้กำหนดนโยบาย ปัจจุบันEVER มีหนี้ประมาณ 730 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยเป็นเจ้าหนี้ประมาณ 580 ล้านบาท และเป็นหนี้จากบุคคลอื่นประมาณ 150 ล้านบาท และในปัจจุบันธนาคารนครหลวงไทยได้อนุมัติจำนวนเงินให้ EVER กู้ประมาณ 60 ล้านบาท โดย มีแผนจะให้บริษัทย่อยที่ชื่อ บริษัท ณัฐนันท์พัฒนา เป็นผู้กู้ K.KRAZIP แนะนำ ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 4.70 บาท แนวต้าน 5.50 บาท

BROCK ราคาเปิด 5.15 บาท ราคาปิด 5.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 24.13 ล้านบาท ผู้บริหารของBROCK เปิดเผยว่า... ในวันที่ 25 มกราคม 2550 BROCKจะมีการเซ็นสัญญาตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มทุนชาวสวีเดน เพื่อดำเนินการธุรกิจโรงแรมและท่าเทียบเรือที่จังหวัดภูเก็ต มูลค่าเงินลงทุนรวม 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มบันทึกรายได้จากบริษัทร่วมทุนในปี 2551 โดยตั้งเป้ารายได้ปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้จะเริ่มเข้ามาในช่วงกลางปี 2551 ประมาณ 30% ของรายได้จากบริษัทร่วมทุนดังกล่าว BROCKตั้งเป้ารายได้ในปี 2550 เติบโตมากกว่า 50% จากปี 2549 ส่วนรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักก็ยังมีการเติบโตที่ดี BROCK มียอดขายรอรับรู้รายได้ประมาณ 2 พันล้านบาท พร้อมเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ดังนั้น K.KRAZIP ซื้อลงทุน แนวรับที่ราคา 5.15 บาท แนวต้านที่ราคา 5.75 บาท
K.KRAZIP 16/01/2006

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com