May 4, 2024   4:44:34 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เก็บCK-STEC-ITDเข้าพร์อต
 

konthai
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 55
วันที่: 16/01/2007 @ 10:22:42
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สบช่องช่วงราคาน้ำมันร่วงต่ำสุดในรอบ 7 เดือนทยอยเก็บหุ้นกลุ่มรับเหมาเข้าพอร์ตลงทุน โบรกชี้เด่นสุดหนีไม่พ้น CK-STEC และ ITD ประเมินต้นทุนลดฮวบ-กำไรขั้นต้นพุ่งกระฉูด 1.0-1.5% ส่วนโครงการรถไฟฟ้าที่เปิดประมูลปีนี้ยังคงเป็นสิ่งการันตีรายได้ระยะยาวแนะเล่น ?เก็งกำไร? จากกราฟสัญญาณเทคนิคที่ยังแจ่ม

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงประมาณ 14.6% มาอยู่ที่ 52 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดเมื่อเทียบจากเดือนกรกฎาคม 2549 ที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลงส่งผลดีให้ต้นทุนการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มบริษัทรับเหมาให้ปรับตัวลดลงดีเช่นกัน และส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น ( Gorss Marjin) ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้คาดว่าหากราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ในระดับ 53-56 เหรียญต่อบาร์เรลตลอดไตรมาส 1/2550 จะทำอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มรับเหมา เช่น CK- STEC และ ITD เพิ่มสูงขึ้นถึง 1.0-1.5%
ดังนั้นมองว่าในปี 2550 คาดว่า CK จะมีการรับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารต้นทุนที่ดี และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง โดยคาดว่าในปี 2550 บริษัทจะมีรายได้ประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 730 ล้านบาท จากมูลค่างานในมือ ( BACKLOG) ที่มีอยู่กว่า 2.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานจากโครงการก่อสร้างเขื่อนน้ำงึม 2 และคาดว่าจะได้งานเพิ่มอีก 2 โครงการมูลค่า 5,000 ล้านบาท

นอกจากนี้มองว่า CK ยังมีโอกาสที่จะชนะการประมูลงานโครงการรถไฟฟ้าสายที่น้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ และบางซื้อ-ท่าพระ-บางแคที่คาดว่าจะเปิดการประมูลได้ในเดือนกันยายน หรือเดือนตุลาคม 2550 โดยคาดว่าหากบริษัทได้งานดังกล่าวจะเพิ่มมูลค่างานในมือให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ ?ซื้อ?ราคาเป้าหมาย 13.80 บาท

สำหรับ STEC ประเมินว่าปี 2550 จะมีรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 336 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการพลิกมีกำไรหลังจากปีก่อนหน้าที่บันทึกขาดทุนสูงถึง 1,800 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือที่มีอยู่ในสัดส่วนที่สูงถึง 3.2 หมื่นล้านบาท และยังมีโอกาสที่จะได้งานโครงการรถไฟฟ้าที่จะเปิดประมูลในช่วงเดือนมีนาคม 2550 ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้การรักษาระดับของกำไรขั้นต้นดีขึ้น

อย่างไรก็ตามในส่วนของ ITD ฝ่ายวิจัยประเมินว่ากำไรสุทธิจะปรับตัวเพิ่มสูงถึง 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากโครงการในมือที่มีอยู่ค้อนข้างสูง และคาดว่าจะมีโอกาสได้งานโครงการรถไฟฟ้าที่จะเปิดประมูลได้ในเดือนมีนาคมนี้ แนะนำ ?ซื้อ? โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 7.10 บาท

สำหรับประเด็นโครงการรถไฟฟ้าที่จะเปิดประมูลในเดือนมีนาคม 2550 นี้ยังคงเป็นปัจจัยบวกให้ราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ที่มีปัจจัยลบทั้งสถานการณ์ทางการเมือง และมาตรการตั้งสำรอง 30% ของแบงก์ชาติกดดันราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวลดลง แต่ปัจจุบันสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นส่งผลให้หุ้นกลุ่มรับเหมาเริ่มกลับมาโดเด่นอีกครั้ง

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาหุ้น CK มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น และมีโอกาสที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้น ดังนั้นยังคงแนะนำ ?เก็งกำไร?ให้แนวรับ 8.20-8.10 บาท แนวต้าน 8.60-8.65 บาท

ส่วน STEC มองว่ายังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน จึงแนะนำ ?เก็งกำไร? โดยให้แนวรับ 4.40-4.36 บาท แนวต้าน 4.50-4.62 บาท สำหรับ ITD ประเมินแนวรับที่ 4.78-4.74 บาท แนวต้าน 5.00 บาท แนะนำเล่น ?เก็งกำไร?

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com