May 4, 2024   1:58:49 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เปิดพอร์ตหุ้นบลูชิพน่าลงทุน
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 16/01/2007 @ 09:56:05
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกเปิดกลยุทธ์รับมือหุ้นสัปดาห์นี้ เชื่อตลาดผ่อนปรนมาตรการลดวงเงินหุ้นเก็งกำไรสูงยังหนุนตลาดหุ้นระยะสั้น แถมเพิ่มสภาพคล่องในหุ้นกลางและเล็ก แนะเก็บหุ้นบลูชิพพื้นฐานดีแต่ละเซ็กเตอร์เข้าพอร์ต มองราคาต่ำกว่าพื้นฐานค่อนข้างมาก ขณะที่ความเสี่ยงยังต่ำ และจ่ายปันผลงาม คัดหุ้นเด่นน่าสนใจMAJOR,KBANK,PDI,JAS,PTTCH,LHและBAY

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้มีปัจจัยหลักที่ต้องจับตา คือ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในวันที่ 17 มกราคมนี้ โดยคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ซึ่งหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคือกลุ่มธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

ส่วนการประชุมธนาคารกลางของญี่ปุ่น(บีโอเจ) ในวันที่ 17-18 ม.ค.2550 อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลดีโดยตรงต่อค่าเงินในเอเชียที่แข็งค่าขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าไม่ได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าว โดยปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นระยะสั้น คือ การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ(ตลท.)เลื่อนใช้มาตรการลดวงเงินหุ้นเก็งกำไรสูง รวมทั้งมาตรการอื่นๆ ที่ส่งผลต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นออกไปก่อน จากกำหนดเดิมที่เริ่มใช้ในปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นระยะสั้น และเพิ่มสภาพคล่องในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉพาะหุ้นเก็งกำไร

รวมทั้ง การผ่อนคลายกฎสำหรับการกู้เงินดอลลาร์เพื่อลงทุนของธปท.โดยอนุญาตให้ไม่ต้องตั้งสำรอง 30% หากเป็นการกู้เงินแล้วนำไปฝากในรูปเงินดอลลาร์ คาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่มีแผนระดมทุนจากต่างประเทศในปีนี้ โดยเฉพาะ PTT, EGCOMP, RATCH, SCC และ BANPU

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติสัปดาห์นี้คงเป็นเงินทุนเดิมที่หมุนเวียนในประเทศยังไม่ใช่เงินทุนใหม่ที่เข้ามาและมีสัญญาณทยอยซื้อสุทธิต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศการลงทุนและสภาพคล่องในตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้นระยะสั้น ซึ่งกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้น แนะนำ?ซื้อลงทุน?หุ้นบลูชิพ?ในแต่ละภาคธุรกิจเนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ราคาซื้อขายปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสม และจ่ายเงินปันผลดีต่อเนื่อง รวมทั้งมีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนที่ควรได้รับ

ประกอบกับที่ผ่านมาราคาหุ้นบลูชิพปรับลดลงค่อนข้างมาก เทียบกับความเสี่ยงจากผลตอบแทนและความเสี่ยงการปรับลดลงค่อนข้างน้อยกว่า โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) MAJOR ราคาเหมาะสม 22.15 บาท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK ราคาเหมาะสม 78.17 บาท บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) PDI ราคาเหมาะสม 51 บาท บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) JAS ราคาเหมาะสม 0.72 บาท บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) PTTCH ราคาเหมาะสม 101 บาท และบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) LH ราคาเหมาะสม 9.10 บาท

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 620-655 จุด โดยปัจจัยที่สำคัญคือการประกาศดอกเบี้ยของคณะกรรมการ กนง. และบีโอเจ รวมทั้งการรายงานผลการดำเนินงานปี 2549 ของกลุ่มธนาคาร

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจสัปดาห์นี้ แบ่งเป็นหุ้นได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ย ได้แก่ หุ้น AP คาดว่าปีนี้จะเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญโดยประมาณการรายได้ปี 2550อยู่ที่ 7,552 ล้านบาท และกำไรปกติ 1,106 ล้านบาท ให้ราคาเหมาะสม 5.30 บาท ค่าพี/อี ที่ 11 เท่า จากBacklogกว่า 8,800 ล้านบาท โดยคอนโดมิเนียมสยาม-ปทุมวัน มูลค่า 2,900 ล้านบาท มีแผนรับรู้รายได้ปี 2550 ทั้งหมด นอกจากนี้ความต้องการทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียมในเมืองค่อนข้างสูง รวมทั้งบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) LH ราคาเหมาะสม 7.40 บาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY ราคาเหมาะสม 22.71 บาท

สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลดลง ได้แก่ หุ้นATC, TASCO, SCC และ THAI และหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ แนะนำหุ้น PDI, PTTEP, PTT, TOP และ RRC

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com